กู้เพิ่มเป็นเหตุ! แมนยู หนี้สินพุ่งทะลุ 1,000 ล้านปอนด์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยงบการเงินล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 พบว่าหนี้สินรวมของสโมสรทะยานแตะระดับ กว่า 1,087 ล้านปอนด์ หลังจากกู้เงินเพิ่มเพื่อนำมาใช้เสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
รายงานที่ถูกยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กยาวกว่า 580 หน้า ระบุว่า ยูไนเต็ด ใช้เงินไป 167.8 ล้านปอนด์ ในการซื้อนักเตะใหม่ ได้แก่ ไบรอัน เอ็มเบอโม, มาเตอุส คุนญา, เบนยามิน เชชโก และ เซนเนอ ลัมเมนส์ แต่สามารถขายผู้เล่นออกไปได้เพียง 55 ล้านปอนด์เท่านั้น
ในส่วนของโครงสร้างหนี้ พบว่าหนี้หลักของทีมอยู่ที่ 637 ล้านปอนด์ มาจากเงินกู้ระยะยาวตั้งแต่การเทกโอเวอร์โดย ตระกูลเกลเซอร์ เมื่อปี 2005 ขณะที่วงเงินเครดิตหมุนเวียนถูกเพิ่มเป็น 350 ล้านปอนด์ อีกทั้งยังมีการเบิกใช้เพิ่มเติมระหว่าง 7 ก.ค. - 11 ก.ย. รวม 105 ล้านปอนด์ ทำให้หนี้สินรวมขณะนี้แตะที่ราว 742 ล้านปอนด์
เมื่อรวมกับหนี้ค่าตัวนักเตะคงค้าง 447 ล้านปอนด์ (โดยกว่า 205 ล้านปอนด์ต้องชำระภายใน 1 ปี) และหักลบกับเงินที่สโมสรมีสิทธิ์จะได้รับ 102.6 ล้านปอนด์ ส่งผลให้ยอดหนี้สุทธิรวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1,087 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม ในแง่ผลประกอบการภายใต้การบริหารของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ สถานการณ์มีสัญญาณดีขึ้น โดยขาดทุนลดลงจาก 113.2 ล้านปอนด์ เหลือเพียง 33 ล้านปอนด์
ปัจจัยสำคัญที่กระทบรายได้ปีนี้ คือการที่ทีมพลาดรายได้จากฟุตบอลถ้วยยุโรป ซึ่งฤดูกาลก่อนทำเงินได้กว่า 43.7 ล้านปอนด์ ส่งผลให้รายได้รวมในปีนี้ถูกประเมินว่าจะอยู่เพียงราว 640-660 ล้านปอนด์เท่านั้น
สถานการณ์ทางการเงินครั้งนี้ ย้ำถึงความท้าทายที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญ ทั้งในการบริหารภาระหนี้มหาศาล และการรักษาความสามารถในการลงทุนเพื่อกลับมาลุ้นความสำเร็จในสนามอีกครั้ง
