ครม. เคาะเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม 875 บาท เริ่ม 1 ม.ค. 69
ครม. เคาะเพิ่มเงินสมทบประกันสังคมแบบขั้นบันได ส่งสูงสุด 875 บาท เริ่ม 1 ม.ค. 69
น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ และขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบประกันสังคม ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อให้การคำนวณเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 33 สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน หลังจากกฎกระทรวงเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2538 ไม่ทันต่อสถานการณ์ค่าจ้างแรงงานที่ปรับสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา
โดยร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ กำหนด การปรับเพดานค่าจ้างแบบขั้นบันไดทุก 3 ปี เริ่ม 1 ม.ค. 69 เป็นต้นไป อัตราเงินสมทบยังคงคิดที่ 5% เช่นเดิมเป็นต้นไป ดังนี้
"เดิมเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณเงินสมทบกำหนดไว้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน ส่งผลให้ผู้ประกันตนที่มีรายได้สูงกว่านั้น ต้องส่งเงินสมทบเท่ากัน และได้รับสิทธิประโยชน์ไม่สอดคล้องกับค่าจ้างจริง ขณะเดียวกัน อัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันในปัจจุบันสูงสุดอยู่ที่ 400 บาทต่อวัน แต่ยังคงใช้ฐานคำนวณจากข้อมูลเมื่อปี 2538 ซึ่งไม่สะท้อนเศรษฐกิจปัจจุบัน และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ILO" น.ส.อัยรินทร์ กล่าว
ยกตัวอย่าง ปี 2569-2571 ผู้ประกันตนที่มีค่าจ้างตั้งแต่ 17,500 บาทขึ้นไป จะต้องส่งเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน จากเดิม 750 บาท โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น เช่น เงินลาป่วย เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต และ เงินชราภาพ เป็นต้น
สำหรับการปรับเพดานในครั้งนี้ จะทำให้กองทุนประกันสังคมมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถรองรับภาระด้านสิทธิประโยชน์ในระยะยาว และผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่สะท้อนค่าจ้างจริงมากขึ้น เช่น งินชดเชยรายได้กรณีเจ็บป่วย และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ส่วนรัฐบาลเองจะมีภาระสมทบเพิ่มขึ้นตามเพดานใหม่ ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อเสริมความมั่นคงของระบบประกันสังคมในอนาคต