ยายพลาดแล้ว! "ส่องกระจก" ตอนคุยโทรศัพท์ เกือบสูญเงิน 20 ล้าน ที่เก็บมาทั้งชีวิต!!!

ตำรวจเตือนกลโกงรูปแบบใหม่ “กับดักในกระจก” ระบาดในยุคดิจิทัล โดนมิจฉาชีพหลอกลวงสูญเงิน

หญิงชาวจีนวัย 78 ปี เกือบเสียเงินกว่า 20 ล้านบาท เพราะรับสายที่โทรเข้ามา โดนหลอก “ยืนยันใบหน้าผ่านกระจก” เตือนภัยกลโกงยุคดิจิทัล

ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มีเหตุการณ์อุทาหรณ์เตือนภัยมิจฉาชีพ เมื่อหญิงอายุ 78 ปีคนหนึ่ง เกือบสูญเงินเก็บทั้งชีวิต หลังตกเป็นเหยื่อกลโกงรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีและเทคนิคลวง “ยืนยันใบหน้าผ่านกระจก” ตำรวจและธนาคารต้องออกมาเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุยิ่งต้องระวังอย่างมาก

ย้อนกลับไปวันที่ 12 พฤษภาคม 2025 ขณะที่ป้าเจิน (นามสมมุติ) อยู่บ้านคนเดียว มีสายโทรศัพท์จากบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ UnionPay (กลุ่มบริการการเงินของรัฐจีน) แจ้งว่าบัญชีธนาคารของเธอกำลังมี “ความผิดปกติของดอกเบี้ย” และต้องรีบ “ล็อกบัญชี” เพื่อป้องกันความเสียหาย

ผู้โทรใช้ข้อมูลส่วนตัวของป้าเจินอย่างแม่นยำ เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขบัญชี และประเภทบัตร จากนั้นขอให้ป้าทำการ “ยืนยันใบหน้า” โดยให้เปิดกล้องหน้าและทำท่าทางต่างๆ เช่น พยักหน้า ฉีกยิ้ม หันซ้ายขวา หน้ากระจก ซึ่งแท้จริงเป็นการเก็บข้อมูลและปลอมแปลงการยืนยันใบหน้า

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ร้ายยังส่งไฟล์ติดตั้งซอฟต์แวร์ปลอมแปลง “ใบรับรองความปลอดภัย UnionPay” ให้ป้าเจินติดตั้งในมือถือ ส่งผลให้โทรศัพท์ถูกติดตั้งซอฟต์แวร์สอดแนมหลายตัวโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมันสามารถขโมยข้อมูลโทรศัพท์และควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง บัญชีของป้าเจินถูกเข้าควบคุม และมีเงินโอนออกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านหยวน หรือประมาณ 20.4 ล้านบาท แต่โชคดีที่ระบบแจ้งเตือนความเสี่ยงของธนาคารตรวจพบความผิดปกติทันท่วงที

•  ฟังจากปากเหยื่อ "เมียเศรษฐี" จ้างให้ "มีเซ็กซ์จนท้อง" แลกเงินล้าน สุดท้ายมีแต่เสียกับเสีย!!!
• ชัยชนะแฉ "เสี่ยวเหมา" นายใหญ่ตึก 25 ชั้น ทัพคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต "ทักษิณ" เคยพูดถึง

วันที่ 28 พฤษภาคม พนักงานธนาคาร Ping An สาขาตลาดเหนือ สังเกตเห็นว่ามีการโอนเงิน 4 รายการรวมเป็น 860,000 หยวน (ประมาณ 4.4 ล้านบาท) จากบัญชีเงินฝากไปยังบัญชีอื่นๆ และพบว่าการทำรายการมาจากโทรศัพท์ Android แปลกปลอม ซึ่งที่อยู่ IP อยู่ในประเทศกัมพูชา ทำให้สงสัยว่าเป็นการฉ้อโกง

พนักงานธนาคารรีบติดต่อป้าเจินทันที แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจโดยด่วน พร้อมระงับบัญชีไว้ก่อนแล้วด้วย ด้านตำรวจเขตหงเก่าและศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงเขตผู่ตะ ก็รุดไปยังบ้านป้าเจิน และพบว่าเธอกำลังพูดคุยวิดีโอคอลกับมิจฉาชีพอยู่

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ร้ายยังปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อกล่อมให้เธอไม่รับสาย “ตำรวจจริง” ท้ายที่สุดตำรวจจึงต้องเจ้ายึดสัญญาณโทรศัพท์ และปิดการควบคุมระยะไกลทันที ทำให้สามารถระงับคำสั่งโอนเงินครั้งที่สองมูลค่า 3.8 ล้านหยวน(ประมาณ 19.4 ล้านบาท) ได้ทัน

กรณีของป้าเจินเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของกลโกงรูปแบบใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการหลอกลวงผ่านโทรศัพท์ และการยืนยันใบหน้าผ่านภาพสะท้อนในกระจก ซึ่งผู้สูงอายุที่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยียังไม่เพียงพอเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง

ตำรวจและธนาคารเน้นย้ำว่า หากการแจ้งเตือนบัญชีมีความผิดปกติ และการขอให้เปิดกล้องทำท่าทางต่างๆ เพื่อยืนยันใบหน้า ต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน รวมถึงไม่ควรติดตั้งไฟล์หรือลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือด้วย