5 อันดับสัตว์มีพิษ ร้ายแรงที่สุดในไทย ถ้าเจอรีบหนีให้ไกล อันดับ 1 ทายถูกไหม?
5 อันดับสัตว์และแมลงมีพิษร้ายแรงที่สุดในไทย ที่ควรหลีกเลี่ยง
ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ ก็มีสัตว์และแมลงบางชนิดที่แฝงไปด้วยอันตรายจากพิษร้ายแรง การรู้จักและระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัย บทความนี้ได้รวบรวม 5 อันดับสัตว์และแมลงที่มีพิษร้ายแรงที่สุดที่พบได้ในประเทศไทย หากพบเจอควรหลีกหนีให้ไกล
อันดับที่ 5: แมงป่อง (Scorpion)
แมงป่องที่พบในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น แมงป่องช้างในวงศ์ Scorpionidae ซึ่งพบได้ทั่วไปในพื้นที่ชื้นและรกทึบ พิษของมันมักไม่ร้ายแรงถึงชีวิตในผู้ใหญ่ที่แข็งแรง แต่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง อาการบวม และแดงบริเวณที่ถูกต่อย
ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง อาจเกิดอาการรุนแรง เช่น อาการแพ้เฉียบพลัน (anaphylaxis) จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่แมงป่องออกหากิน และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกองไม้หรือก้อนหินในพื้นที่เสี่ยง
อันดับที่ 4: ตะขาบ (Centipede)
ตะขาบ โดยเฉพาะชนิดขนาดใหญ่ เช่น *Scolopendra* spp. พบได้บ่อยในบ้านเรือนและพื้นที่มืดชื้น พิษของมันประกอบด้วยเอนไซม์ที่ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง และร้อนบริเวณที่ถูกกัด แม้โดยทั่วไปจะไม่ถึงตาย แต่ความเจ็บปวดอาจรุนแรงมาก
ในบางกรณีที่มีอาการแพ้หรือการติดเชื้อทุติยภูมิจากการเกาแผล อาจนำไปสู่อาการรุนแรง เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนังหรือบวมมาก ควรทำความสะอาดแผลทันทีและพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบากหรือบวมลุกลาม
อันดับที่ 3: งูจงอาง (King Cobra)

งูจงอาง (*Ophiophagus hannah*) เป็นงูพิษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พบได้ในป่าและพื้นที่ชนบทของประเทศไทย ลักษณะเด่นคือลำตัวสีน้ำตาลเข้มหรือดำ และมีขนาดยาวได้ถึง 5-6 เมตร พิษของมันเป็นส่วนผสมของ neurotoxin และ cytotoxin ทำให้เกิดอาการปวดรุนแรง กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาจหยุดหายใจ
การถูกกัดจากงูจงอางเป็นอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากมันสามารถฉีดพิษปริมาณมากได้ในครั้งเดียว ผู้ที่ถูกกัดควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับเซรุ่มต้านพิษทันที และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับงูในพื้นที่ป่าหรือทุ่งนา
อันดับที่ 2: งูทับสมิงคลา (Malayan Krait)

งูทับสมิงคลา (*Bungarus candidus*) เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดอันดับต้นๆ ในประเทศไทย มีลักษณะเด่นคือลำตัวเป็นปล้องสีดำสลับขาว พิษของมันเป็น neurotoxin ที่รุนแรงและออกฤทธิ์ช้า ทำให้ผู้ถูกกัดอาจไม่รู้สึกเจ็บปวดในช่วงแรก
เมื่อพิษเริ่มออกฤทธิ์ จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก พูดไม่ชัด และอาจหยุดหายใจในที่สุด หากไม่ได้รับเซรุ่มต้านพิษทันเวลา อัตราการเสียชีวิตสูงมาก ควรระวังในพื้นที่ที่มีหญ้าสูงหรือใกล้แหล่งน้ำ
อันดับที่ 1: แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish)

แมงกะพรุนกล่อง (*Chironex* spp.) ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พบได้ในน่านน้ำไทย โดยเฉพาะอ่าวไทยและทะเลอันดามัน พิษของมันกระจายอยู่ทั่วหนวดที่ยาวหลายเมตร และมีผลต่อระบบหัวใจ หลอดเลือด และประสาท
ผู้ที่สัมผัสพิษจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรง และอาจเสียชีวิตจากหัวใจหยุดเต้นภายใน 2-5 นาที นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่ หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในพื้นที่ที่มีป้ายเตือน และใช้น้ำส้มสายชูราดแผลทันทีหากถูกพิษ
ตารางสรุปสัตว์และแมลงมีพิษร้ายแรงในประเทศไทย
| อันดับ | สัตว์ | ลักษณะเด่น | อาการจากพิษ | การป้องกัน |
|---|---|---|---|---|
| 5 | แมงป่อง | ลำตัวสีดำหรือน้ำตาล มีหางโค้งพร้อมเหล็กใน | ปวดรุนแรง บวม แดง อาจแพ้รุนแรงในกลุ่มเสี่ยง | หลีกเลี่ยงพื้นที่รกชื้น สวมรองเท้าในเวลากลางคืน |
| 4 | ตะขาบ | ลำตัวยาว มีขาคู่จำนวนมาก สีน้ำตาลหรือแดง | ปวด บวม แดงร้อน อาจติดเชื้อหรือแพ้รุนแรง | กำจัดที่ซ่อนในบ้าน ทำความสะอาดแผลทันทีหากถูกกัด |
| 3 | งูจงอาง | ลำตัวใหญ่ ยาว 5-6 เมตร สีน้ำตาลเข้มหรือดำ | ปวดรุนแรง กล้ามเนื้ออ่อนแรง หยุดหายใจ | หลีกเลี่ยงพื้นที่ป่าหรือทุ่งนา รีบพบแพทย์หากถูกกัด |
| 2 | งูทับสมิงคลา | ลำตัวเป็นปล้องสีดำสลับขาว | กล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก หยุดหายใจ | ระวังในพื้นที่หญ้าสูง ใช้ไฟฉายตอนกลางคืน |
| 1 | แมงกะพรุนกล่อง | หนวดยาวหลายเมตร โปร่งแสง | ปวดแสบร้อน หัวใจหยุดเต้น เสียชีวิตใน 2-5 นาที | ปฏิบัติตามป้ายเตือนในทะเล ใช้น้ำส้มสายชูหากถูกพิษ |