เนื้อหาในหมวด ข่าว

สาวอายุแค่ 30 รังไข่เสื่อมก่อนวัย หมอชี้เป้าผู้ร้ายคือ \

สาวอายุแค่ 30 รังไข่เสื่อมก่อนวัย หมอชี้เป้าผู้ร้ายคือ "ปลา" ที่คิดว่าดีต่อสุขภาพ

สาวอายุ 30 รังไข่เสื่อมก่อนวัย หมอเตือนระวัง "ปลาน้ำลึก" เสี่ยงสะสมสารปรอทในร่างกาย

เรื่องน่าตกใจที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวไต้หวันรายหนึ่ง เมื่อเธอต้องเผชิญกับภาวะ รังไข่เสื่อมก่อนวัย (Premature Ovarian Insufficiency: POI) ในวัยเพียง 30 ปี ซึ่งเป็นภาวะที่รังไข่ทำงานล้มเหลวก่อนอายุ 40 ปี ทำให้เธอมีโอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้ยากมาก แพทย์ชี้ว่าสาเหตุสำคัญอาจมาจากพฤติกรรมการบริโภคปลาดิบ เป็นประจำ

ผู้ป่วยรังไข่เสื่อมเร็วเกินจริง 15 ปี

กรณีนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่ชื่อว่า คุณถู เธอมาพบแพทย์ด้วยอาการประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 6 เดือน และมีอาการไม่สบายขณะมีเพศสัมพันธ์ แพทย์ผู้ตรวจวินิจฉัยพบว่ารังไข่ของคุณถูเสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุจริงถึงราว 15 ปี หรืออยู่ในสภาพเทียบเท่ากับรังไข่ของหญิงวัย 45 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณของการ หมดประจำเดือนก่อนวัย อย่างชัดเจน

ผลการตรวจร่างกายเพิ่มเติมพบว่า ร่างกายของคุณถูมีระดับ สารปรอท (Mercury) และ สารพลาสติก (Phthalates) สะสมอยู่สูงเกินมาตรฐานอย่างมาก โดยแพทย์สันนิษฐานว่า สารพิษเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายจากการรับประทาน ปลาทะเลและอาหารทะเล เป็นประจำ โดยเฉพาะปลาน้ำลึกที่มักถูกนำมาทำซาชิมิ

ข้อค้นพบสำคัญเกี่ยวกับปรอทและรังไข่

งานวิจัยที่สำคัญที่สุดในการเชื่อมโยงปรอทกับปริมาณไข่ของผู้หญิงคือการศึกษาของ มหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan) ที่เผยแพร่ใน The Journal of Clinical Endocrinology & Metabolism โดยมีข้อค้นพบที่น่าสนใจดังนี้

  • ระดับ AMH ลดลง: นักวิจัยพบว่า ผู้หญิงวัยกลางคนที่มีระดับโลหะหนักในปัสสาวะสูง รวมถึง ปรอท (Mercury) มีความสัมพันธ์กับระดับ Anti-Müllerian Hormone (AMH) ที่ต่ำลง ซึ่ง AMH เป็นตัวบ่งชี้สำคัญของ ปริมาณสำรองไข่ (Ovarian Reserve) หรือจำนวนไข่ที่เหลืออยู่ใน

  • รังไข่ พิษต่อรังไข่: ปรอทและโลหะหนักอื่น ๆ ถูกจัดเป็น สารพิษต่อรังไข่ (Ovarian Toxicants) ซึ่งอาจทำลายเซลล์ไข่ตั้งต้น (Follicles) และลดการทำงานของรังไข่ในระยะยาว ทำให้เกิดภาวะไข่หมดเร็วขึ้น และอาจนำไปสู่การหมดประจำเดือนที่เร็วกว่าปกติ

  • ความสัมพันธ์ที่รุนแรงกว่าบุหรี่: งานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่า ขนาดของความสัมพันธ์ระหว่างโลหะหนัก (รวมถึงปรอท) กับระดับ AMH นั้น รุนแรงกว่าความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่กับ AMH ซึ่งบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทราบกันดีอยู่แล้วของภาวะปริมาณไข่ลดลง

กลไกที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์

  • การรบกวนฮอร์โมน: สารปรอทเป็น สารรบกวนต่อมไร้ท่อ (Endocrine-Disrupting Chemical) ที่สามารถส่งผลเสียต่อระบบสืบพันธุ์ โดยงานวิจัยพบว่าปรอทอาจไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนบางชนิด หรือทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของรังไข่

  • ความเสียหายต่อฟอลลิเคิล: มีการทดลองในสัตว์ที่แสดงให้เห็นว่า การสัมผัสปรอทสามารถทำให้เกิดความเสื่อมของฟอลลิเคิลไข่ (Follicular Atresia) และลดการสร้างฮอร์โมนเพศ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งชี้ถึง ภาวะรังไข่เสื่อม (POI)

ความเสี่ยงอื่น ๆ จากการบริโภคปลาดิบ

นอกเหนือจากความเสี่ยงในการสะสมสารปรอทแล้ว การบริโภคปลาดิบยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้ออื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย:

  • พยาธิ: เสี่ยงติดเชื้อพยาธิ เช่น หนอนอะนิซาคิส (Anisakis) ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลัน หรือพยาธิใบไม้ในตับและพยาธิตัวตืด ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจางหรือมะเร็งได้
  • แบคทีเรีย: หากปลาไม่สดหรือกระบวนการจัดเตรียมไม่ถูกสุขอนามัย อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหาร

คำแนะนำเพื่อลดความเสี่ยงปรอทและสารพิษ

แม้ว่าปลาจะเป็นแหล่งโปรตีนและโอเมก้า 3 ที่ดี แต่ผู้บริโภคโดยเฉพาะสตรีที่วางแผนจะตั้งครรภ์ ควรจำกัดความถี่ในการบริโภคปลาที่มีสารปรอทสูง เช่น ปลาทูน่าครีบใหญ่ (Bigeye Tuna), ปลาดาบ (Swordfish) ปลาอินทรี และ ปลาฉลาม

ควรเลือกบริโภคปลาขนาดเล็กที่มีอายุสั้นกว่า เช่น ปลาแซลมอน (ในปริมาณที่เหมาะสม) หรือปลาที่เลี้ยงในฟาร์มซึ่งมีแนวโน้มการสะสมปรอทน้อยกว่า และควรเลือกซื้อปลาดิบจากร้านที่เชื่อถือได้ มีความสะอาด และผ่านกระบวนการแช่แข็งที่ได้มาตรฐานเท่านั้น

ไทยมีครบ! กูรูไต้หวันแนะนำ 6 อาหารฤดูหนาว \

ไทยมีครบ! กูรูไต้หวันแนะนำ 6 อาหารฤดูหนาว "กินดี" ช่วยให้อบอุ่นและปกป้องหัวใจ

นักโภชนาการชาวไต้หวัน ได้แนะนำอาหาร 6 ชนิด ที่ช่วยส่งเสริมการหมุนเวียนของเลือด สร้างความอบอุ่นในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยปกป้องระบบหลอดเลือดหัวใจได้ด้วย