เบื้องหลังพระสิริโฉม "สมเด็จพระพันปีหลวง" ใครคือช่างแต่งพระพักตร์ประจำพระองค์
ท่านผู้หญิงทัดสมัย เศวตเศรนี: ผู้อยู่เบื้องหลังพระสิริโฉมแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
หนึ่งในพระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่งของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงปฏิบัติระหว่างปี พ.ศ. 2502–2510 คือการทรงประกอบพระราชกรณียกิจเคียงข้าง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในการเสด็จฯ เยือนนานาประเทศ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตในนามประเทศไทย รวมทั้งหมด 27 ประเทศ หลังจากพระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489
การเสด็จฯ เริ่มต้นจากการเยือนประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ สาธารณรัฐเวียดนาม สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสหภาพพม่า ก่อนจะเสด็จฯ ต่อไปยังประเทศต่าง ๆ ในทวีปอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสด็จฯ เยือนสหรัฐอเมริกาและภาคพื้นยุโรป 14 ประเทศ นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ช่วยเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
สิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจแก่นานาชาติ คือ พระสิริโฉมอันงดงามของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทั้งการแต่งกายที่ทรงสง่างามและการแต่งพระพักตร์ที่เปล่งประกายเหนือกาลเวลา จนเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2505 คณะผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นสตรีกว่า 2,000 คนทั่วโลก ได้ลงมติยกย่องให้พระองค์เป็นหนึ่งใน 10 สุภาพสตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลก และต่อมาในปี พ.ศ. 2508 ยังได้มีการจารึกพระนามไว้ในหอเกียรติยศ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในฐานะ “หนึ่งใน 12 สุภาพสตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลก”

ท่านผู้หญิงทัดสมัย เศวตเศรนี ผู้เบื้องหลังความงามเหนือกาลเวลา
เบื้องหลังพระสิริโฉมและความสง่างามอันเป็นที่กล่าวขานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ คือฝีมือของ ท่านผู้หญิงทัดสมัย เศวตเศรนี ช่างพระเกศาและช่างแต่งพระพักตร์ประจำพระองค์ ผู้ถวายงานด้วยความจงรักภักดีตลอดชีวิต
ท่านผู้หญิงทัดสมัย เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ณ วัง ม.จ.สุธาสิโนทัย เทวกุล เป็นธิดาของ ม.ร.ว.วงศ์เทพ และคุณฉลวย เทวกุล ตั้งแต่วัยเยาว์เป็นผู้มีอุปนิสัยร่าเริง เรียบร้อย และมีพรสวรรค์ด้านศิลปะ โดยเฉพาะการวาดภาพและการออกแบบ หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนราชินี ท่านตั้งใจอยากเป็นสถาปนิกหญิง แต่ชะตาชีวิตได้นำพาให้ศิลปะกลายเป็นเครื่องมือถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทแทน

จากคุณข้าหลวงสู่ “ช่างพระเกศา” และ “ช่างแต่งพระพักตร์”
เมื่ออายุ 18 ปี ครอบครัวได้นำท่านขึ้นถวายตัวเป็นข้าหลวงในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่านมีโอกาสรับใช้ใกล้ชิด และในปี พ.ศ. 2502 ได้ตามเสด็จฯ ต่างประเทศเป็นเวลา 7 เดือน พระองค์ทรงเห็นความสามารถด้านศิลปะและความประณีตของท่าน จึงโปรดให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศถ่ายทอดความรู้ด้านการแต่งกายและการแต่งหน้าอย่างมืออาชีพ
หลังจากนั้น ท่านผู้หญิงได้รับพระราชทานหน้าที่สำคัญเป็น ช่างพระเกศา และ ช่างแต่งพระพักตร์ประจำพระองค์ ซึ่งนับเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตราชสำนัก

ภักดีจนวาระสุดท้าย
ท่านผู้หญิงทัดสมัย เศวตเศรนี รับใช้ใกล้ชิดใต้เบื้องพระยุคลบาทมาตลอดชีวิต จนถึงวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเฮลิคอปเตอร์ตามเสด็จฯ ประสบอุบัติเหตุตกที่จังหวัดนราธิวาส ท่านผู้หญิงได้สละชีวิตในหน้าที่ด้วยความจงรักภักดีอย่างสมบูรณ์
แม้กายจะจากไป แต่ความภักดีของท่านผู้หญิงยังคงเป็นที่จดจำตราบนานเท่านาน เธอคือผู้เบื้องหลังแห่งพระสิริโฉม และเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยระลึกถึงความจงรักภักดีต่อแผ่นดิน
ช่างพระเกศาอีกหนึ่งท่าน
ช่างพระเกศาส่วนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง คุณวรรณี ยรรยง เจ้าของร้านทําผมชื่อดังคลังแม่บ้าน ได้เข้ามาถวายงานเป็นช่างพระเกศา โดยในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพของ คุณวรรณี ยรรยง เมื่อปี 2547 มีข้อความว่า
คุณวรรณี ยรรยง "แป๊ว ผู้เกล้ามวยผมได้สวยที่สุด" ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
