เนื้อหาในหมวด ข่าว

หมอไต้หวันรวมมาให้แล้ว! 6 สารอันตรายในชีวิตประจำวัน ยืนยัน \

หมอไต้หวันรวมมาให้แล้ว! 6 สารอันตรายในชีวิตประจำวัน ยืนยัน "เป็นสารก่อมะเร็ง"

หมอไต้หวันเผย 6 สารอันตรายในชีวิตประจำวัน ยืนยัน "เป็นสารก่อมะเร็ง" พบได้ง่ายในอะไรบ้าง?

นายแพทย์หลี่ซือเสียน แพทย์เวชปฏิบัติครอบครัว ของไต้หวัน ได้โพสต์เตือนประชาชนถึงภัยเงียบด้านสุขภาพที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกลุ่มสารที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็น "สารก่อมะเร็ง" ที่แน่นอน ซึ่งควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง

คุณหมอได้รวบรวมสารก่อมะเร็ง 6 ชนิดที่พบได้บ่อย พร้อมเน้นย้ำว่า สารเหล่านี้มักอยู่ในอาหารและสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ถูกต้อง ก็สามารถป้องกันอันตรายได้ส่วนใหญ่

6 สารก่อมะเร็งที่คุณควรระวังและหลีกเลี่ยง

สารก่อมะเร็งตัวแรกคือ อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษจากธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งและเป็นสาเหตุของมะเร็งตับ สารนี้พบมากในถั่วลิสง ข้าวโพด และถั่วเปลือกแข็งที่ชื้นหรือหมดอายุ

คุณหมอหลี่ซือเสียนเน้นว่า การเก็บรักษาอาหารให้แห้งและหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีเชื้อราขึ้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยตัวคุณหมอเองก็เลือกที่จะไม่รับประทานถั่วลิสงในชีวิตประจำวัน

สารที่ 2 คือ เบนซีน (Benzene) ซึ่งปนเปื้อนอยู่ในควันบุหรี่ ไอเสียรถยนต์ และสีทาบ้าน การสูดดมในระยะยาวจะทำลายไขกระดูกและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) ได้

สารอันตรายลำดับที่ 3 คือ ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) มักพบในเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งใหม่ กาว และควันบุหรี่ สารนี้มีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งโพรงจมูกและมะเร็งเม็ดเลือดขาว

ถัดมาคือ โพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ที่เกิดจากการปิ้งย่างจนไหม้เกรียม อาหารรมควัน รวมถึงไอเสียและควันจากท่อไอเสีย ซึ่งสารนี้สามารถก่อให้เกิดมะเร็งปอดและมะเร็งผิวหนังได้

คุณหมอแนะนำว่า เมื่อมีการปิ้งย่างควรหลีกเลี่ยงส่วนที่ไหม้เกรียม และลดการสัมผัสควันให้น้อยที่สุด

สารก่อมะเร็งชนิดที่ 5 คือ อะซีตัลดีไฮด์ (Acetaldehyde) ซึ่งเกิดจากการเผาผลาญแอลกอฮอล์และมีอยู่ในควันบุหรี่ สารนี้อาจทำให้เกิดมะเร็งช่องปากและมะเร็งหลอดอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการหน้าแดงหลังดื่มแอลกอฮอล์ควรลดการดื่มให้มาก

สำหรับสารตัวสุดท้ายคือ อะคริลาไมด์ (Acrylamide) พบได้บ่อยในอาหารทอด เช่น เฟรนช์ฟรายส์ คุกกี้ กาแฟ และขนมปังปิ้ง สารนี้จะเกิดขึ้นเมื่อปรุงอาหารด้วยความร้อนสูง และสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งไตและมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

สรุป: การป้องกันและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง

เพื่อลดความเสี่ยงจากสารอันตรายเหล่านี้ คุณหมอหลี่ซือเสียนแนะนำให้ลดการรับประทานอาหารทอดที่ใช้อุณหภูมิสูงและอาหารที่กรอบเกรียม อีกทั้งควรรักษาสภาพแวดล้อมให้มีการระบายอากาศที่ดี และหลีกเลี่ยงควันรวมถึงไอเสียต่างๆ

การมีสุขภาพที่ดีไม่ได้สร้างได้ในชั่วข้ามคืน แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในทุกวันถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณห่างไกลจากความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งได้