เจ้าสาวป้ายแดงวัย 19 จบชีวิตตัวเอง เครียดถูกครอบครัวเจ้าบ่าวตำหนิ ชุดแต่งงานโป๊เกินไป

28/10/2025 (16:47 น.)

เจ้าสาวป้ายแดงวัย 19 ปี จบชีวิตหลังงานแต่งไม่กี่วัน เครียดครอบครัวเจ้าบ่าวตำหนิ ชุดแต่งงานโป๊เกินไป

เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานเหตุการณ์เศร้าสลดที่เกิดขึ้นในประเทศอาเซอร์ไบจาน เมื่อเจ้าสาววัยเพียง 19 ปี ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังถูกครอบครัวของเจ้าบ่าววิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเธอสวมชุดแต่งงานที่ดู “โป๊เกินงาม” และ “น่าอับอาย” เพราะเปิดช่วงไหล่จนเหมือน “ไม่ได้ใส่อะไรเลย” สร้างความเจ็บปวดทางจิตใจอย่างหนัก

ถูกตำหนิกลางงานแต่ง จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองมิงกาเชเวียร์ ประเทศอาเซอร์ไบจาน โดยเจ้าสาวชื่อว่า ลยามัน มัมมัดลี (Lyaman Mammadli) เสียชีวิตเพียงไม่กี่วันหลังจากพิธีแต่งงาน หลังเผชิญแรงกดดันจากครอบครัวเจ้าบ่าวที่ตำหนิเรื่องการแต่งกายของเธออย่างรุนแรง

มูราด บายราโมฟ (Murad Bayramov) บิดาของผู้ตาย เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า หลังงานแต่ง ครอบครัวของเจ้าบ่าวได้มาที่บ้านเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อชุดแต่งงานของลูกสาว “พวกเขาบอกว่าชุดนี้น่าอับอาย ทำไมถึงปล่อยให้ลูกสาวสวมชุดที่เปิดไหล่เช่นนี้ได้” เขากล่าวด้วยความเสียใจ

พ่อของเจ้าสาวพยายามอธิบายว่า ชุดแต่งงานแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน แต่ครอบครัวเจ้าบ่าวไม่ยอมรับ และยังโต้เถียงต่อเนื่องจนถึงวันถัดมา ความขัดแย้งและแรงกดดันทางอารมณ์ทำให้ลูกสาวของเขาทนไม่ไหวและตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในสวนหลังบ้าน

ครอบครัวปฏิเสธข่าวลือบังคับแต่งงาน

พ่อของผู้เสียชีวิตยังยืนยันว่า ข่าวลือที่ว่าลูกสาวถูกบังคับให้แต่งงานกับชายอายุมากกว่าไม่เป็นความจริง โดยเจ้าบ่าวชื่อว่า เอลนูร์ มามัดลี (Elnur Mamedli) วัย 33 ปี เป็นผู้ที่ลูกสาวของเขาตัดสินใจแต่งงานด้วยเอง

หลังเหตุการณ์เศร้า เจ้าบ่าวและครอบครัวได้เดินทางมาร่วมงานศพ แต่บิดาของเจ้าสาวระบุว่า “ผมไม่ยอมให้พวกเขาอยู่ต่อ และไล่กลับไป” เนื่องจากยังคงโกรธและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ตำรวจเร่งสอบสวน คาดอาจเข้าข่ายการกลั่นแกล้งทางจิตใจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจในอาเซอร์ไบจานอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเหตุการณ์นี้เข้าข่าย “การกลั่นแกล้งและกดดันทางจิตใจ” ที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตของเจ้าสาววัย 19 ปีหรือไม่ แม้จะไม่มีการยืนยันศาสนาของฝ่ายหญิง แต่ประเทศอาเซอร์ไบจานถือเป็นชาติที่มีประชากรมุสลิมส่วนใหญ่ ซึ่งในบางพื้นที่ยังคงมีทัศนคติแบบอนุรักษ์นิยมต่อการแต่งกายของสตรี

สะท้อนประเด็นอนุรักษ์นิยมกับเสรีภาพของผู้หญิงในสังคมมุสลิม

กรณีของลยามัน มัมมัดลี ได้จุดประเด็นวิพากษ์ในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับแรงกดดันทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ผู้หญิงในบางประเทศต้องเผชิญ โดยเฉพาะเมื่อการแต่งกายถูกตีความว่าเป็น “ความอับอาย” มากกว่า “การแสดงตัวตน” ของผู้หญิง

หลายฝ่ายมองว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพียงโศกนาฏกรรมของครอบครัวหนึ่งเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมและความคาดหวังที่เข้มงวดต่อเพศหญิงในสังคมที่ยังยึดติดกับค่านิยมเก่า

เสียงสะท้อนจากนักเคลื่อนไหว

มาซีห์ อาลิเนจาด (Masih Alinejad) นักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีชาวอิหร่านในต่างแดน แสดงความคิดเห็นว่า “ลูกสาวของหนึ่งในผู้นำระดับสูงของสาธารณรัฐอิสลามแต่งงานในชุดเกาะอกหรูหรา ขณะที่ผู้หญิงในอิหร่านถูกทำร้ายเพียงเพราะเปิดผม” พร้อมระบุว่า “นี่ไม่ใช่แค่ความหน้าซื่อใจคด แต่เป็นระบบที่บังคับศีลธรรมกับประชาชน แต่ไม่บังคับใช้กับตัวเอง”