รู้หรือไม่ “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” มีที่มาจากไหน แล้วอิเหนาทำอะไร?
เปิดที่มาสำนวน “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” มีที่มาจากไหน ทำไมต้องอิเหนา แล้วอิเหนาทำอะไรถึงกลายเป็นตัวอย่าง?

สำนวนไทยสุดคลาสสิก “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” ถูกใช้มาช้านานเพื่อเตือนสติคนที่ชอบตำหนิผู้อื่นในเรื่องที่ตนเองก็ทำไม่ต่างกัน โดยตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้ความหมายไว้ว่า “(สำ) ก. ตำหนิผู้อื่นเรื่องใดแล้วตนก็กลับทำเรื่องนั้นเสียเอง”
ที่มาของสำนวนนี้มาจากวรรณคดีเรื่อง “อิเหนา” พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ซึ่งดัดแปลงจากนิทานพื้นบ้านชวามลายู เล่าเรื่องของ อิเหนา โอรสท้าวกุเรปัน ที่หมั้นหมายกับ นางบุษบา ธิดาท้าวดาหา แต่กลับเกิดไปหลงรัก นางจินตะหรา จนขอยกเลิกการหมั้น ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้าบุษบา
เหตุการณ์นี้สร้างความโกรธให้ท้าวดาหาอย่างมาก จึงยกนางบุษบาให้ จรกา แทน ขณะที่เทวดาผู้เป็นต้นวงศ์เทวาเห็นว่าอิเหนาเย่อหยิ่งและเห็นแก่ตัว จึงบันดาลให้เกิดศึก “กะหมังกุหนิง” เพื่อสั่งสอนอิเหนาให้รู้สำนึก
ในระหว่างศึกนั้น อิเหนาได้ต่อว่าทั้งวิหยาสะกำและจรกา ที่ต่างหลงรักนางบุษบาโดยไม่เคยเห็นหน้า แต่เมื่อได้พบนางบุษบาตัวจริงหลังศึกสิ้นสุด เขากลับตกหลุมรักนางจนหมดใจ ลืมคำพูดและศีลธรรมของตนเองไปสิ้น กลายเป็นตัวอย่างชัดเจนของคนที่ “ว่าคนอื่น แต่สุดท้ายก็เป็นเสียเอง”
จากตอนนี้เอง จึงเกิดสำนวนที่ใช้กันมาจนถึงปัจจุบันว่า “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” เพื่อเตือนใจไม่ให้ตัดสินผู้อื่นโดยที่ตัวเองก็อาจมีพฤติกรรมไม่ต่างกัน