ชายป่วย "ข้าวผัดซินโดรม" หวิดดับ หมอเตือน 4 อาหารเสี่ยงตาย ไม่ได้มีแค่ข้าว

08/11/2025 (23:21 น.)

ชายป่วย "ข้าวผัดซินโดรม" อาหารเป็นพิษหวิดดับ หมอเตือน 4 อาหารเสี่ยง ไม่ได้มีแค่ข้าว

เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานเคสผู้ป่วยรายหายที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งเกิดจากอาการที่เรียกว่า "โรคข้าวผัด" (Fried Rice Syndrome) นายเหยา (นามสมมติ) มีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียน และเกิดภาวะช็อกอย่างรวดเร็วหลังรับประทานข้าวผัดที่ทำจากข้าวหุงค้างคืน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายมาได้

ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น นายเหยาตัดสินใจนำข้าวที่เก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเวลาสองวันมาทำข้าวผัดรับประทานเพื่อความสะดวก แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มมีอาการป่วยอย่างหนัก แพทย์จากศูนย์บริการสุขภาพชุมชนประเมินว่าอาการอยู่ในขั้นวิกฤต จึงรีบส่งตัวไปยังโรงพยาบาลหางโจวแห่งที่หนึ่ง เมื่อมาถึงโรงพยาบาล นายเหยาอยู่ในสภาพหน้าซีดเซียว หายใจลำบาก และเกิดภาวะช็อก ซึ่งหลังจากการให้การรักษาฉุกเฉินอย่างเต็มที่ ทีมแพทย์ก็สามารถช่วยให้เขากลับมามีสติได้ในที่สุด

สาเหตุของ "ซินโดรมข้าวผัด" คือเชื้อ Bacillus cereus

ทางโรงพยาบาลได้วินิจฉัยว่า นายเหยาป่วยเป็น "โรคข้าวผัด" ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus cereus) แบคทีเรียชนิดนี้เป็นเชื้อที่พบได้บ่อยในอาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าวสวยหรือข้าวผัด เชื้อจะสามารถแพร่พันธุ์และสร้างสารพิษได้ง่ายในอุณหภูมิห้อง และแม้จะนำอาหารไปอุ่นซ้ำ สารพิษและความเป็นพิษของแบคทีเรียก็ยากที่จะถูกทำลายได้ทั้งหมด

การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนแบคทีเรียและสารพิษนี้อาจนำไปสู่อาการอาเจียนและท้องเสียอย่างรุนแรง ในรายที่อาการหนักอาจทำให้เกิดภาวะตับและไตวาย รวมถึงอันตรายถึงชีวิตได้ แพทย์เตือนว่า อาหารเป็นพิษจากเชื้อ Bacillus cereus มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะข้าวค้างคืน, ขนมปัง, และข้าวหมัก (เหล้าหวาน/สาโท) ก็เป็นอาหารกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งมักจะไม่สามารถสังเกตการปนเปื้อนได้จากกลิ่นหรือลักษณะภายนอก ทำให้การป้องกันเป็นไปได้ยาก

อาหาร 5 ประเภทที่ควรระวังไม่ควรเก็บไว้กินนาน

ผู้เชี่ยวชาญยังได้เตือนถึงอาหารประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ควรเก็บไว้รับประทานนานเกินไป นอกเหนือจากข้าวค้างคืน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ:

1. อาหารจำพวกแป้ง

ข้าวที่หุงแล้ว ขนมปัง ข้าวหมัก (เหล้าหวาน/สาโท) เชื้อแบคทีเรียสามารถแพร่พันธุ์และสร้างสารพิษได้ง่ายในอุณหภูมิห้อง หากเก็บในตู้เย็นไม่ถูกต้อง ไม่อยู่ในภาชนะมิดชิด และนำออกมาอุ่นร้อนไม่ทั่วถึง จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อทางเดินอาหาร

2. ผักใบเขียว

หากปรุงสุกแล้วและปล่อยทิ้งไว้นาน อาจทำให้เกิดสารไนไตรต์ (Nitrite) ในปริมาณสูง หากทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 25°C นาน 24 ชั่วโมง ปริมาณไนไตรต์อาจสูงถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณที่เป็นพิษต่อร่างกาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

3. อาหารทะเล

อาหารทะเล เช่น กุ้งและปู หากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี แบคทีเรียจะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและสร้างสารพิษ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ตับ และไต

4. เห็ดหูหนูและเห็ดอื่น ๆ

หลังจากแช่น้ำหรือปรุงสุกแล้ว หากทิ้งไว้นานอาจทำให้เกิดสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) และสารพิษกรดบงเกรคิก (Bongkrekic Acid) ซึ่งในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะเป็นพิษและเสียชีวิตได้

5. ไข่ที่ปรุงแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ 

ไข่ที่ปรุงไม่สุกเต็มที่อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค เช่น เชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งหากเก็บไว้นานและนำมารับประทานอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพลำไส้

ข้อแนะนำในการจัดการอาหารเหลือ

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากไม่สามารถรับประทานอาหารที่เหลือให้หมดภายในวันนั้น ควรรีบนำไปแช่ตู้เย็นทันที และเมื่อนำมารับประทานต้องอุ่นให้ร้อนทั่วถึง หากพบว่าอาหารมีกลิ่นหรือสีผิดปกติ ควรทิ้งทันทีและไม่ควรเสี่ยงรับประทาน เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพและชีวิต

"ข้าวค้างคืน" กินยังไงให้ปลอดภัย? ทำ 2 ขั้นตอนให้ถูกวิธี ได้ประโยชน์กว่าข้าวหุงใหม่