อาหาร 4 คู่ที่ "ไม่ควร" แช่ตู้เย็นใกล้กัน พลาดไปไม่ใช่แค่เน่า แต่ถึงขั้นเป็นพิษได้!
เตือนพ่อบ้านแม่บ้าน อย่าหาทำ! จับ "อาหาร" 4 คู่นี้ ยัดใส่ตู้เย็นไว้ด้วยกัน พลาดนิดเดียวเสี่ยง "อาหารเป็นพิษ" แถมของเน่าเสียไวกว่าเดิม
ไม่ใช่ว่าอาหารทุกอย่างจะอยู่ร่วม "บ้านเดียวกัน" ได้อย่างสงบสุข หยุดทำร้ายร่างกาย! แช่ "ของสด" ผิดที่ ผิดคู่ เสี่ยงป่วยไม่รู้ตัว เคล็ดลับจัด "ตู้เย็น" ที่ถูกต้อง
หลายครอบครัวมีพฤติกรรมเคยชิน คือเมื่อกลับมาจากจ่ายตลาด ก็จะจับทุกอย่างยัดเข้า "ตู้เย็น" ทันที โดยคิดว่านี่คือวิธีที่ปลอดภัย สะอาด และช่วยยืดอายุอาหารได้ดีที่สุด แต่ในความเป็นจริง นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้อาหารเน่าเสียเร็วขึ้น กลิ่นตีกันมั่ว และที่น่ากลัวที่สุดคือ เพิ่มความเสี่ยงต่อ "อาหารเป็นพิษ"
ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการอาหารแห่งอเมริกา (Culinary Institute of America) และนักโภชนาการ ได้ออกมาเตือนถึง "4 คู่สร้างคู่สม...มรณะ" หรือกลุ่มอาหารที่ไม่ควรวางใกล้กันในตู้เย็นโดยเด็ดขาด เพราะจะเร่งกระบวนการเน่าเสีย เปลี่ยนรสชาติ หรือเกิดการปนเปื้อนข้าม (Cross-contamination) ดังนี้
1. ผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีน + ผักผลไม้ที่ไวต่อก๊าซ
ผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิ้ล, ลูกแพร์, ลูกพีช และแคนตาลูป จะปล่อยก๊าซเอทิลีน (Ethylene) ออกมาในปริมาณมาก ซึ่งก๊าซนี้ทำหน้าที่เร่งการสุก
หากนำไปวางชิดกับผักใบเขียว องุ่น ส้ม หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ "ไวต่อก๊าซ" จะทำให้ผักผลไม้เหล่านั้น "แก่เร็ว" เหี่ยวเฉา และเน่าเสียก่อนเวลาอันควร ทางที่ดีควรแยกชั้นแช่ หรือแยกกล่องระหว่างผลไม้ปล่อยก๊าซกับผักที่บอบบางออกจากกัน
2. เนื้อสัตว์ดิบ + อาหารปรุงสุก หรือ อาหารพร้อมทาน
นี่คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและอันตรายที่สุด! เนื้อหมู, เนื้อวัว, ไก่ หรืออาหารทะเลดิบ อาจมีเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลา (Salmonella) หรือ อีโคไล (E. coli) แฝงอยู่
หากวางปะปนกับขนมเค้ก สลัดผัก หรือกับข้าวที่ปรุงสุกแล้ว เพียงแค่น้ำจากเนื้อสัตว์หยดลงไปนิดเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดอาหารเป็นพิษรุนแรงได้ แม้จะใส่กล่องปิดฝาแล้ว แต่การหยิบจับก็อาจทำให้เชื้อโรคติดมือและปนเปื้อนได้เช่นกัน
*กฎเหล็ก: อาหารพร้อมทานต้องอยู่ "ชั้นบน" ส่วนเนื้อสัตว์ดิบต้องอยู่ "ชั้นล่างสุด" เสมอ เพื่อป้องกันน้ำเลือดไหลลงมาเปื้อน
3. หัวหอม, กระเทียม + นม, ผลไม้, เนย
หัวหอมและกระเทียม มีกลิ่นฉุนรุนแรงมาก โดยเฉพาะเมื่อหั่นแล้ว หากวางไว้โดยไม่มีภาชนะปิดมิดชิด กลิ่นจะ "ดูดซึม" เข้าไปในอาหารข้างเคียงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ นม, เนย และผลไม้
ผลที่ได้คือรสชาติอาหารจะเพี้ยน และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์จนกินไม่ได้ ดังนั้น หากปอกเปลือกหรือหั่นแล้ว ควรเก็บในกล่องสูญญากาศหรือขวดโหลที่ปิดสนิทก่อนนำเข้าตู้เย็น
4. ผลไม้ฉ่ำน้ำ + อาหารแห้ง
ผลไม้กลุ่มแตง เช่น แตงโม, แคนตาลูป เมื่อผ่าแล้วจะมีการระเหยของน้ำออกมาสูงมาก หากวางใกล้กับของแห้ง เช่น เห็ดหอมแห้ง, ธัญพืช หรือป๊อปคอร์น ความชื้นจะทำให้ของแห้งเหล่านี้ "นิ่มและเหนียว" หมดความกรอบ และขึ้นราได้ง่าย
ควรเก็บผลไม้ฉ่ำน้ำในกล่องพลาสติกที่มีฝาปิด แทนการแค่ห่อด้วยฟิล์ถนอมอาหารบางๆ หรือใส่ถุงพลาสติกมัดปากหลวมๆ
- กาแฟไม่ช่วย! แนะกิน 2 ผลไม้ “เสริมสร้าง” พลังทางเพศชาย แถมป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
- กูรูสหรัฐฯ พูดชัด 1 อาหารที่ "ไม่มีวันกิน!!!" เพราะแบคทีเรียเยอะมาก แต่คนไทยยังกินอยู่
อยากให้อาหารสดนาน ต้องเก็บให้ "เป็น"
แค่ยัดเข้าตู้เย็นยังไม่พอ แต่ต้องมีหลักการจัดระเบียบง่ายๆ เพื่อลดเชื้อโรคและคงความสดใหม่:
- แบ่งสัดส่วนก่อนแช่แข็ง: แบ่งเนื้อสัตว์เป็นถุงเล็กๆ พอดีมื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำออกมาละลายแล้วแช่กลับเข้าไปใหม่ซ้ำๆ
- บนสุก-ล่างดิบ: ท่องไว้เสมอ อาหารสุกอยู่ชั้นบน เนื้อสัตว์ดิบอยู่ชั้นล่าง
- โซนนิ่งชัดเจน: แบ่งโซนผัก, เนื้อสัตว์, ซอสปรุงรส และอาหารปรุงสุก ให้หยิบง่าย ไม่ต้องเปิดตู้เย็นค้างไว้นานๆ
- เช็กตู้เย็นสม่ำเสมอ: หมั่นสำรวจและทิ้งอาหารหมดอายุ ของที่ขึ้นรา หรือส่งกลิ่นเหม็น เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค
