กลืน "หมากฝรั่ง" แล้วจะติดอยู่ในท้อง 7 ปี จริงหรือไม่? ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลย
เฉลยความจริงที่ถูกเตือน! กลืน "หมากฝรั่ง" แล้วจะติดอยู่ในท้อง 7 ปี จริงหรือไม่? ผู้เชี่ยวชาญเผยคำตอบอาจเซอร์ไพรส์
สมัยเด็ก ๆ เรามักถูกเตือนอย่างน่ากลัวเกี่ยวกับการกลืนหมากฝรั่งว่า ห้ามกลืนเด็ดขาด เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยได้ และมันจะติดค้างอยู่ในท้องนานถึง 7 ปี
เรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยภาพชวนสยองนี้ทำให้หลายคนเชื่อฝังใจว่า การกลืนหมากฝรั่งนั้นอันตรายมาก แต่ความจริงเบื้องหลังคำเตือนเหล่านี้มีมากน้อยเพียงใด?

ความจริงคือ "มันจะออกมาใน 40 ชั่วโมง"
เบธ เซอร์โวนี (Beth Czerwony) นักโภชนาการที่ลงทะเบียนแล้ว อธิบายว่า เป็นเรื่องยากมากที่สิ่งใดๆ จะติดค้างอยู่ในร่างกายเรานานถึง 7 ปี
แม้ว่าร่างกายจะไม่สามารถย่อย "เบส" ที่ใช้ทำหมากฝรั่งได้ แต่มันก็ไม่ได้ติดอยู่ในกระเพาะอาหารอย่างที่กังวล "เบสของหมากฝรั่งย่อยไม่ได้ ดังนั้นมันจะยังคงอยู่ในลำไส้ของเราตลอดทางและไม่แตกตัว" เซอร์โวนีกล่าว
เธออธิบายว่า หากคุณกลืนหมากฝรั่งลงไป มันจะออกมาพร้อมกับอุจจาระในอีกประมาณ 40 ชั่วโมง ต่อมา ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่ได้นานเกินวงจรปกติของลำไส้
หมากฝรั่งไม่ใช่สิ่งเดียวที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ทั้งหมด ของอื่นๆ เช่น เมล็ดข้าวโพด เมล็ดพืช และใยพืชที่แข็งบางชนิด ก็สามารถผ่านร่างกายเราไปได้โดยที่ไม่ได้ถูกแปรรูปอย่างสมบูรณ์

สิ่งที่อันตรายจริงๆ คือ "นิสัย" ไม่ใช่การกลืนโดยบังเอิญ
ถึงแม้ว่าหมากฝรั่งจะไม่ได้ใช้เวลา 7 ปีในลำไส้ของเรา แต่การทำเป็นนิสัยด้วยการกลืนหมากฝรั่งทุกวันหรือวันละหลายๆ ครั้งก็ไม่ถือว่าปลอดภัย
เซอร์โวนีเตือนว่า "หากคุณทำเช่นนี้เป็นประจำ อาจทำให้เกิดภาวะลำไส้อุดตันได้" ซึ่งจะทำให้สิ่งที่รับประทานเข้าไปหลังจากนั้นไม่สามารถเคลื่อนผ่านไปได้ ก่อให้เกิดอาการปวดและแรงกดดัน
หากอาการแย่ลงอย่างรุนแรง ภาวะลำไส้อุดตันอาจทำให้ลำไส้แตกได้ด้วย ดังนั้น หากคุณกลืนหมากฝรั่งโดยบังเอิญก็ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก แต่ไม่ควรทำจนเป็นนิสัย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญขอเตือนให้คุณหลีกเลี่ยงการนำหมากฝรั่งไปติดใต้โต๊ะ หรือบ้วนลงในโถปัสสาวะ เพราะการกระทำนั้นไม่เพียงแต่ไม่เหมาะสม แต่ยังเป็นการสร้างภาระให้ผู้อื่นต้องมาทำความสะอาด