ดราม่า #คืนอาชีพให้นักพากย์ หลัง "ไอซ์ พาริส" ร่วมพากย์เสียง "ดาบพิฆาตอสูร"

กลายเป็นดราม่าขึ้นมาซะแล้ว หลังจากมีการเปิดเผยว่า ไอซ์ พาริส นักร้องนักแสดงวัยรุ่น ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมพากย์เสียงตัวละครในภาพยนตร์อนิเมะเรื่องดัง Kimetsu No Yaiba : Mugen Ressha Hen ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ เวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายในเดือนธันวาคมนี้ ทำให้แฟนคลับของอนิเมะออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้

หลังจากมีการปล่อยคลิปหนุ่ม ไอซ์ พาริส พูดถึงการทำงานพากย์เสียงในภาพยนตร์อนิเมะ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ที่แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยว่าได้พากย์เสียงเป็นตัวละครไหน แต่ก็มีคนตั้งข้อสังเกตจากตัวอย่างภาพยนตร์ว่าหนุ่มไอซ์น่าจะพากย์เสียงเป็นตัวละคร "อากาสึมะ เซ็นอิตสึ" นักล่าอสูร นิสัยขี้ขลาดจอมโวยวายที่เป็นขวัญใจแฟนอนิเมะ จึงทำให้แฟนๆ ต่างแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยที่จะใช้คนดังแต่ยังไม่มีประสบการณ์มาพากย์เสียงตัวละครนี้ สมควรใช้ทีมพากย์เสียงมืออาชีพมากกว่า จนเกิดแฮชแท็ก #คืนอาชีพให้นักพากย์ 

ตัวอย่างภาพยนตร์ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์

นอกจากนั้นยังมีการแชร์คลิปเปรียบเทียบทีมพากย์เสียงมืออาชีพจากช่องการ์ตูนคลับ ที่ใช้อินเนอร์และน้ำเสียงถ่ายทอดความเป็นตัวละครจอมปอดแหกอย่าง เซ็นอิตสึ ออกมาได้ดีเหมือนต้นฉบับฝั่งญี่ปุ่น จนคนดูได้อรรถรสครบถ้วน และมองว่าควรให้ทีมนักพากย์มืออาชีพได้ทำงานตามสายงานโดยตรง เพื่อไม่เป็นการสร้างความผิดหวังให้คนดู ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีดราม่าการใช้คนดังมาพากย์เสียงตัวละครเพื่อดึงดูดผู้ชม จากภาพยนตร์อนิเมะเรื่องดังอย่าง วันพีซ มาแล้ว แต่ก็ทำแฟนอนิเมะผิดหวังไปตามๆ กัน

ดาบพิฆาตอสูร เป็นมังงะเรื่องดังที่ตัวหนังสือทำยอดขายกว่า 12 ล้านเล่ม สูงสุดติดอันดับ TOP 10 ในประเทศญี่ปุ่น จากนั้นได้ถูกสร้างเป็นอนิเมะซีรีส์ทางโทรทัศน์ ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้ชมสองปีซ้อนในปี 2019 และ 2020 ล่าสุดในอนิเมะเวอร์ชั่นภาพยนตร์ได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม จนกวาดรายได้จากการฉายในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 1 หมื่นล้านเยน หรือกว่า 3 พันล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 10 วัน กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลกจากการเข้าฉาย 3 วันแรก และยังถล่มรายได้แบบต่อเนื่องในญี่ปุ่นขณะนี้

Kimetsu No Yaiba : Mugen Ressha Hen ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ จะเปิดรอบกาล่าพรีเมียร์ 25 พฤศจิกายน 2563 ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 ก่อนจะเปิดฉายจริง ในโรงภาพยนตร์ระบบ IMAX ฉายวันที่ 3-9 ธันวาคม 2563 และเข้าฉายระบบปกติ 9 ธันวาคม 2563 ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ