เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

สัมภาษณ์นักแสดง Space Sweepers ถึงเบื้องหลังหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ครั้งแรกของเกาหลี

สัมภาษณ์นักแสดง Space Sweepers ถึงเบื้องหลังหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ครั้งแรกของเกาหลี

เช้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 Sanook Movie มีนัดกับ 4 นักแสดง และ 1 ผู้กำกับภาพยนตร์มือดีของเกาหลี ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ของเกาหลีต่อสื่อมวลชนทั่วโลกผ่านออนไลน์เป็นครั้งแรก นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มขวัญใจชาวไทย ซงจุงกิ ร่วมด้วยนักแสดงสาวเลือดใหม่มาแรง คิมแทรี นักแสดงฝีมือจัดจ้านอีกสองท่าน ชินซอนกยู, ยูแฮจิน กำกับโดย โจซองฮี ผู้ที่เผยว่าเขามีไอเดียว่าจะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องขยะอวกาศ และตำแหน่งของคนที่ต้องตาเก็บขยะอวกาศต่างๆ อยู่นอกโลก

จากบทสัมภาษณ์ของเหล่านักแสดง และผู้กำกับในครั้งนี้ เผยให้เห็นว่าพวกเขาทุ่มเทกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากแค่ไหน นอกจากโครงเรื่องที่แตกต่างแปลกใหม่น่าสนใจแล้ว ตัวละครแต่ละตัวยังมีความซับซ้อน น่าค้นหา และยังทำให้เราได้เรียนรู้คุณค่าของการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้อย่างสงบสุขไปได้พร้อมๆ กัน

ช่วยเล่าถึงเรื่อง Space Sweepers ให้เราฟังสักเล็กน้อยค่ะ

ซงจุงกิ: Space Sweepers เป็นเหตุการณ์ของโลกอนาคตในปี 2092 ที่มนุษย์โลกต่างอพยพไปตั้งรกรากอยู่บนดาวอื่นแล้ว เนื้อเรื่องพูดถึงกลุ่มคนที่ทำหน้าที่เก็บขยะในอวกาศ โดยยาน Victory ก็เป็นยานที่รวมเอาคนคาแรกเตอร์แปลกๆ เอาไว้ด้วยกัน แต่สุดท้ายแล้วคนกลุ่มนี้ก็กลายมาเป็นผู้ที่ช่วยกอบกู้โลกของเราครับ


คุณได้แรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ Space Sweepers มาอย่างไร

ผู้กำกับโจซองฮี: เมื่อราว 10 ปีก่อน ผมได้คุยกับเพื่อน เกี่ยวกับขยะอวกาศที่เกิดจากภารกิจท่องอวกาศต่างๆ ของมนุษย์โลก ซึ่งมันเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว มีความอันตราย และยากที่จะกำจัด ผมเริ่มต้นโปรเจกต์นี้จากคอนเซปต์ของคนทำงานในอวกาศที่มีหน้าที่เก็บกวาดขยะอวกาศเหล่านี้


อะไรทำให้คุณตัดสินใจเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้

ซงจุงกิ: สำหรับผมกับ โจซองฮี (ผู้กำกับ) เราเคยร่วมงานกันมาก่อนแล้วในภาพยนตร์เรื่อง A Werewolf Boy เมื่อ 10 ปีก่อนเค้าเคยเล่าไอเดียนี้ให้ผมฟังครับ ซึ่งผมก็คิดว่าน่าสนใจมาก เป็นไอเดียที่เฟรช และใหม่มาก หลังจากผ่านมา 10 ปี จากไอเดียเริ่มต้นนั้นมันกลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจริงๆ และผมก็สนใจกับการทำหนังแนวนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกของเกาหลีอีกด้วย ทำให้ผมตัดสินใจร่วมงานได้ไม่ยากเลยครับ

คิมแทรี: หลังจากอ่านสคริปต์แล้ว ฉันพบว่ามันสุดยอดมากเลยค่ะ หลังจากที่ฉันได้เจอกับผู้กำกับ ฉันพบว่าเขาเป็นคนที่มี passion มาก และเห็นภาพที่ชัดเจน ทำให้การเตรียมงานในแต่ละขั้นตอนมีความละเอียดสูง เราทำงานได้ง่ายมากค่ะ

ชินซอนกยู: ผมตัดสินใจรับเล่นตอนที่ได้เจอกับผู้กำกับเลยครับ ผมยอมใจใน passion ของเขาจริงๆ

ยูแฮจิน: ตอนผมได้อ่านสคริปต์ครั้งแรกมันบันเทิงมากเลยครับ ช่วงแรกผมกังวลนิดหน่อยเกี่ยวกับบทของผม แต่พอได้พูดคุยกับผู้กำกับ ผมก็พบว่าเขามีทักษะอย่างเหลือเชื่อ มีวิสัยทัศน์ และมีภาพในหัวที่ชัดเจนมาก งานกำกับภาพต่างๆ ของเขาทำให้ผมทึ่งมากจริงๆ และการทำงานกับเขาเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ

 spacesweeper_event_11_2

spacesweeper_event_08_2

spacesweeper_event_06_2

spacesweeper_event_02_2

spacesweeper_event_05_2

ตัวละครแต่ละตัวมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมากๆ บางคาแรกเตอร์ออกจะแปลกประหลาดด้วยซ้ำ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคาแรกเตอร์ที่ผู้ชมต้องหลงรัก คุณช่วยอธิบายคาแรกเตอร์ที่คุณได้รับหน่อย

ซงจุงกิ: ผมรับบทเป็น คิมแทโฮ ในอดีตเขาเป็นผู้นำของกองทหารพิเศษของ UTS แต่มีเหตุการณ์พลิกผันที่ทำให้เขาต้องออกจากงาน จนเขาได้มาพบกับเหล่าสมาชิกของยาน Victory โดยมีชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบาก ซึ่งเขามีภารกิจกับตัวเองบางอย่างที่จะต้องพยายามทำให้สำเร็จ และเขายังทำหน้าที่เป็นนักบินหลักของยาน Victory นี้ด้วย

สำหรับเรื่องนี้ เป็นโปรเจกต์ที่ 2 ของผมกับผู้กำกับโจซองฮี ซึ่งเขาไม่เคยให้ผมได้เล่นบทหล่อๆ เลยครับ (หัวเราะ) ในเรื่องนี้ผมมักจะมีคราบน้ำมันและฝุ่นสกปรกอยู่เสมอ ส่วนเรื่องก่อนหน้านี้ ผมก็มักจะสกปรกไปด้วยโคลน แต่ผมคิดว่าผมตกหลุมรักตัวละครประเภทนี้นะ บุคลิกของตัวละครที่เล่นนั้นบริสุทธิ์มาก และมีจิตใจที่อบอุ่นที่สุด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงชอบทำงานกับผู้กำกับโจซองฮีครับ

คิมแทรี: ฉันรับบทเป็น กัปตันจาง ซึ่งเคยเป็นอดีตกัปตันของเหล่าโจรสลัดอวกาศมาก่อน แต่เนื่องจากเหตุการณ์บางอย่างทำให้ลูกเรือและสหายโจรสลัดคนอื่นๆ ถูกฆ่าตายหมด และกัปตันจาง ก็มาลงเอยกับทีมนี้ เธอมีความฝันพิเศษบางอย่างที่อยากจะเติมเต็ม แต่ก่อนที่ความฝันเธอจะเป็นจริงได้ เธอต้องเก็บขยะอวกาศเพื่อหารายได้ให้เพียงพอเสียก่อน

หลายๆ คนบอกว่าในเรื่องนี้ฉันดูเท่และคูลมาก (หัวเราะ) แต่นั่นไม่ใช่ตัวจริงของฉันเลยค่ะ โดยส่วนตัวฉันคิดว่าฉันออกจะเป็นคนซุ่มซ่าม แต่กัปตันจางเป็นคนที่มุ่งมั่น และสมบูรณ์แบบเสมอกับทุกสิ่งค่ะ

การมารับบทในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่สนุกมากค่ะ ฉันได้ตะโกนใส่เหล่าลูกเรือคนอื่นๆ ด้วย (หัวเราะ) ฉันได้รับคำแนะนำที่ดีหลายอย่างจากผู้กำกับ และกัปตันจางเป็นคาแรกเตอร์ที่น่าดึงดูดมากค่ะ

ชินซอนกยู: ผมรับบทเป็น ไทเกอร์พัค เขาดูเป็นคนที่แข็งแกร่งและโหดเหี้ยม แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่มีหัวใจอบอุ่นมาก เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว รักเด็ก เขาเป็นทั้งวิศวกรที่ดูแลเครื่องยนต์ของยานอวกาศ และยังรับหน้าที่เป็นเหมือนแม่บ้าน ที่คอยดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของยาน Victory อีกด้วย

ฉากถ่ายทำกับเครื่องยนต์ของยานอวกาศ ผมต้องไปถ่ายทำในห้องเครื่องของเรือที่จอดอยู่ที่ท่าเรือจริงๆ เลยครับ ทั้งผมและทีมงานทุกคนมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะถึงแม้เรือจะจอดที่ท่า แต่เครื่องยนต์ก็ยังต้องทำงานอยู่ ซึ่งเสียงดังมากจริงๆ ดังนั้นคุณจะไม่ได้ยินเสียงผู้กำกับตะโกนสั่งเลย ดังนั้นผมต้องพึ่งพาสัญชาตญาณของผมเอง มันท้าทายและยากมากครับ ผมว่าผมน่าจะรับบทหนักที่สุดแล้วแหละ

ยูแฮจิน: รับบทเป็น Bubs หุ่นยนต์ดรอยด์ แต่ไม่ใช่หุ่นยนต์ธรรมดาทั่วไป เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชีนะครับ แต่เขาไม่ค่อยเข้าใจตัวเลขสักเท่าไหร่ (หัวเราะ) และถึงแม้เขาจะเป็นหุ่นยนต์ แต่เขาก็มีจิตใจที่อบอุ่นเหมือนมนุษย์ และมีทักษะเชี่ยวชาญกับการขว้างหอก เขาเป็นหุ่นยนต์น่ารักมาก นอกจากนี้ Bubs ยังมีความฝันของตัวเองที่อยากจะทำให้สำเร็จด้วยครับ

การรับบทเป็นหุ่นยนต์ Bubs ต้องใช้เทคนิคโมชั่นแคปเจอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นได้จากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเท่านั้น แต่ตอนนี้เราได้เห็นมันในภาพยนตร์เกาหลีแล้ว มันเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผมเลยครับ ตอนแสดงอยู่หน้ากล้อง ผมอยากรู้อยากเห็นและตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นว่ามันปรากฏบนหน้าจอได้อย่างไร ผมตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่นี้มาก แต่ทีมงานคนอื่น ๆ ทั้งหมดต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคอันมากมาย พวกเขาต้องถ่ายทำฉากปกติโดยที่ไม่มีผมอยู่ แล้วก็ต้องมาถ่ายกับผมอีกครั้ง ดังนั้นผมจึงเห็นความยากลำบากของทีมงานทุกคนครับ

 spacesweepers(12)

เราได้รับเกียรติจากนักแสดงฮอลลีวูดที่รับบทใน Hobbit และ Ocean 8 ซึ่งก็คือ ริชาร์ด อาร์มิเทจ (Richard Armitage) ที่รับบทเป็น “ซัลลิแวน” ผู้นำของ UTS ทุกคนคงอยากรู้ว่าคุณแคสต์ริชาร์ดและได้เขามาร่วมงานได้อย่างไร?

ผู้กำกับโจซองฮี: มีภาพบางอย่างที่ผมมองหาในคาแรกเตอร์ซัลลิแวน ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดี หล่อเหลา บุคลิกมีเสน่ห์ ผมคิดว่าริชาร์ดเหมาะสมกับทุกสิ่งที่ผมมองหา และเขาก็กระตือรือร้นมากและอยากจะมีส่วนร่วมในโปรเจกต์นี้ นั่นเป็นวิธีที่เราตัดสินใจทำงานนี้ด้วยกัน

 

-- ข้อความจาก Exclusive Video Clip จาก ริชาร์ด อาร์มิเทจ -- 

“สวัสดีครับ ผม ริชาร์ด อาร์มิเทจ รับบทเป็น ซัลลิแวน ในภาพยนตร์เรื่อง Space Sweepers ผมเสียใจมากที่วันนี้ผมไม่สามารถไปร่วมฉลองการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นะครับ แต่ผมอยากจะกล่าวขอบคุณโปรดิวเซอร์คิมซูจิน และผู้กำกับโจซองฮี ที่ชวนผมมารับบทนี้ ทำให้ผมได้ไปเยือนประเทศเกาหลี และแนะนำให้ผมรู้จักทั้งสถานที่ใหม่และวัฒนธรรมใหม่ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการมอบโอกาสให้ผมได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ Space Sweepers จะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเกาหลีจะต้องภาคภูมิใจมากๆ ครับ ผมขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่ทำงานอย่างหนัก และขอบคุณเพื่อนนักแสดงทุกคน สำหรับมิตรภาพอันอบอุ่นครับ… 

ถึง ซงจุงกิ แนงมยอนยังคงเป็นอาหารเกาหลีที่ผมชื่นชอบและติดใจมาจนถึงทุกวันนี้ 

ถึง คิมแทรี นิ้วของผมยังเจ็บมาก คุณรู้ว่าผมกำลังพูดถึงอะไร (ยิ้ม) 

เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายใน Netflix ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นี้ ผมจะเฝ้าหน้าจออยู่ที่ลอนดอน หวังว่าทุกคนจะสบายดี รักษาสุขภาพนะครับ คิดถึงทุกคนและหวังว่าจะได้พบคุณทุกคนเร็วๆ นี้ รักทุกคนครับ” (ทำมือเป็นสัญลักษณ์ส่งจูบ)

 

เมื่อสักครู่นี้ ริชาร์ดเขาพูดถึงแนงมยอนด้วย มีที่มาอย่างไรคะ

ซงจุงกิ: ริชาร์ดชอบแนงมยอนมากเลยครับ โดยเฉพาะเมื่อใส่กับน้ำส้มสายชู ผมบอกให้เขาเติมน้ำส้มสายชูลงในชาม แล้วเขาก็ประทับใจกับอาหารจานนั้นมาก เขาพูดถึงมันไม่หยุดเลยครับ และเรามีโอกาสได้รับประทานอาหารร่วมกันหลายครั้ง มันอาจจะเป็นเรื่องที่น่าจดจำสำหรับเขาครับ

คิมแทรี เรื่องที่เขาเจ็บนิ้วนี่มันยังไงนะคะ

คิมแทรี: คุณจะรู้ทันทีที่คุณดูหนังเลยค่ะ มันมีฉากหนึ่งที่ฉันกัดนิ้วของริชาร์ดและทำให้เขาเจ็บตัว พอถ่ายฉากนั้นเสร็จ ฉันก็ขอโทษเขาหลายครั้งเลยค่ะ และเขาก็บอกว่าเขาโอเค นั่นเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำจริงๆ ค่ะ

คุณมีประสบการณ์กับคุณริชาร์ดในระหว่างการถ่ายทำที่คุณอยากจะแบ่งปันเพิ่มเติมไหมคะ

ชินซอนกยู: ผมพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องครับ ตอนที่เราถ่ายทำด้วยกัน ผมจำช่วงเวลาที่ผมนั่งข้างๆ เขาได้ แต่ผมพูดไม่ได้สักคำ ผมได้แต่มองไปที่จอมอนิเตอร์ตรงหน้าผม แล้วผมก็วิ่งหนีเขาดื้อๆ เลยครับ (หัวเราะ)

ซงจุงกิ: เราค่อนข้างสนิทกันมาก เรากลายเป็นเพื่อนกัน และสิ่งนั้นก็ถูกถ่ายทอดลงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุกมาก เป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกมีความสุขมากครับ


Space Sweepers เป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ไซไฟอวกาศเรื่องแรกของเกาหลี และชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกตั้งเป็นภาษาเกาหลีก่อน คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?

ซงจุงกิ: ผมไม่อยากรู้สึกกดดันว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเกาหลี ตอนผมอ่านบทครั้งแรกรู้สึกว่าได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง มันทำให้ผมนึกถึงตอนที่ได้ดูภาพยนตร์แนวผจญภัยในตอนเด็กๆซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยเช่นกัน โดยมีเรื่องราวเกิดขึ้นนอกอวกาศ รู้สึกถึงความตื่นเต้นของการเริ่มต้นผจญภัยครั้บ

คิมแทรี: เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้นึกถึงภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่เราคุ้นเคย ฉันมักจะคิดเสมอว่าภาพยนตร์ไซไฟอวกาศเรื่องแรกของเกาหลีที่สร้างโดยคนเกาหลีจะเป็นยังไง หลังจากแสดงเรื่องนี้ฉันคิดว่าเรื่องนี้มีความเป็นเกาหลีมากค่ะ ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งเป็นผลงานที่พวกเราตั้งใจทุ่มเททำงาน และถ้าฉันเป็นผู้ชม ฉันก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ

ชินซอนกยู: ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมรู้สึกราวกับว่าผมเล่นภาพยนตร์เพื่อชาติเลยครับ

ยูแฮจิน: ผมคิดว่าเราทำผลงานออกมาได้ดี สำหรับผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยอดเยี่ยมและผมภูมิใจกับมันมาก ผู้กำกับทุ่มเทและตั้งใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากครับ

spacesweepers_unit_106_2
ภาพยนตร์เรื่องแรกของเกาหลีนี้มีความยากในการถ่ายทำหรือแตกต่างจากผลงานก่อนหน้านี้อย่างไรบ้าง?

ผู้กำกับโจซองฮี: ขั้นตอนก่อนถ่ายทำในเรื่องนี้ค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับผลงานก่อนหน้านี้ เราต้องเตรียมตัวหลายอย่างและตอนถ่ายทำเวลาอยู่ในกองถ่าย เราต้องใช้จินตนาการเยอะมาก เรื่องนี้เป็นผลงานที่มีความท้าทายและผมรู้สึกตื่นเต้นว่าผลงานที่เสร็จเรียบร้อยจะออกมาเป็นยังไงครับ 


ในฐานะที่เป็นภาพยนตร์เนื้อหาเกาหลี ความแตกต่างของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่คุณต้องการจะสื่อคืออะไร?

ผู้กำกับโจซองฮี: ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างเป็นภาษาเกาหลี ผมต้องการจะสร้างในรูปแบบที่ผู้ชมคุ้นเคยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ 

ความท้าทายในการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง?

คิมแทรี: มีแน่นอนค่ะ ตามที่ผู้กำกับได้พูดก่อนหน้านี้คือพวกเราต้องใช้จินตนาการในการแสดงค่อนข้างมาก พวกเราจะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันและถามผู้กำกับตลอดว่าอยากให้แสดงออกมาเป็นยังไงค่ะ

ชินซอนกยู: ตอนแรกค่อนข้างยาก ตอนถ่ายทำผมมักจะคิดว่าผมควรต้องมองตรงไหน ผมจะถามผู้กำกับและผู้กำกับก็บอกรายละเอียดได้เป็นอย่างดี ต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยแต่พอถ่ายทำไปเรื่อยๆผมก็เริ่มมองเห็นภาพอวกาศว่าจะออกมาเป็นยังไงบนหน้าจอครับ

ซงจุงกิ: ผมคิดว่าการถ่ายทำไม่ได้ยากมากสำหรับผม เพราะทีมงานได้เตรียมตัวในขั้นตอนต่างๆเป็นอย่างดี มันจึงไม่ยากที่จะจินตนาการฉากและเอฟเฟกต์ต่างๆ ผมคิดว่าฉากแรกที่ผมขับขึ้นไปบนอวกาศค่อนข้างท้าทาย ฉากที่ทุกคนอยู่ออกนอกยานอวกาศค่อนข้างยาก เพราะข้างนอกมีแรงโน้มถ่วง รู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ครั้งใหม่ที่ค่อนข้างท้าทายมากครับ

ยูแฮจิน: ตอนแรกค่อนข้างท้าทาย ต้องปรับตัวและถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่สนุกมากครับ

 spacesweeper_props_plates_13

ทำไมคุณถึงเลือกนักแสดงทั้ง 4 ท่านนี้เป็นนักแสดงนำในเรื่องนี้?

ผู้กำกับโจซองฮี: ผมอยากจะบอกว่า ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา ผมคิดว่าผู้กำกับทุกคนในเกาหลีอยากร่วมงานกับพวกเขา เหตุผลที่ผมได้รับโอกาสนี้ก็เพราะว่านักแสดงที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้เลือกที่จะมีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมรู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับทุกคนครับ

คำถามสำหรับ ซงจุงกิ และ ผู้กำกับโจซองฮี หลังจากเรื่อง The Werewolf Boy เมื่อหลายปีมาแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรกับการได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง?

ซงจุงกิ: ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรใหม่หรือแตกต่างไปจากเดิม ทุกวันนี้หลายๆ คนก็ยังถามถึงบทที่ผมเคยได้รับเมื่อตอนเล่น The Werewolf Boy อยู่เลย ผมว่าเพราะนั่นเป็นตัวละครที่มีชีวิตอยู่ในใจของผู้ชม และผมคิดว่าผู้กำกับก็เป็นแบบนั้นสำหรับผมเหมือนกัน ถึงจะผ่านมาเป็น 10 ปี แต่เขาอยู่เคียงข้างผมมาตลอด ผมคิดว่านั่นคือความสัมพันธ์ที่เรามี ผู้กำกับโจก็ยังเป็นคนเดิม เป็นคนเงียบๆ เหมือนเดิม แต่ก็ยังสนุกกับการทำงานอยู่เสมอ ผมรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากวันเก่าๆ เลยครับ

ผู้กำกับโจซองฮี: ซงจุงกิก็ยังเป็นคนเดิมเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนครับ เป็นคนเฟรนด์ลี่ มีความเป็นผู้นำเมื่อเวลาเข้าฉาก บางทีผมก็ทำพลาดบ้าง แต่เขาก็มีความเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี ผมต้องพึ่งพาเขาในหลายๆ เรื่องเลยครับ ผมมอบความไว้วางใจให้เขาเต็มที่ และรู้สึกอุ่นใจเมื่อมีเขาอยู่ด้วยครับ

จากในเรื่อง กัปตันจางมีอายุน้อยกว่าคนอื่นๆ และเธอก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามเธอยังคงประสบความสำเร็จในการควบคุมยานอวกาศ และควบคุมทุกคนรอบๆตัว คุณตีความคาแรกเตอร์ตัวละครกัปตันจางอย่างไร และคุณโฟกัสอะไรในการแสดงของคุณ?

คิมแทรี: ทีแรกฉันรู้สึกว่า คาแรกเตอร์ของกัปตัน มักจะต้องเป็นคนตัวใหญ่ มีไหล่กว้าง และต้องมีเสน่ห์มากด้วย พอได้มาพูดคุยกับผู้กำกับแล้ว ส่วนหนึ่งฉันคิดว่านี่อาจจะเป็นสไตล์ของผู้กำกับโจ ที่อยากจะเปลี่ยนภาพจำแบบเดิมๆ และฉันคิดว่ามันมีพลังและน่าสนใจมากค่ะ และเมื่อคุณดูเสื้อยืดที่กัปตันจางสวมใส่ในเรื่อง มันจะมีดีเทลที่น่ารักอยู่ค่ะ ทั้งสีสัน และลายเส้นที่น่ารักมาก นั่นคือตัวละครที่ฉันคิดว่ากัปตันจางเป็น ซึ่งผู้กำกับโจทำให้ตัวละครเป็นรูปธรรมมากที่สุด และเป็นตัวละครแรกที่ผู้กำกับโจทำงานด้วยค่ะ สำหรับฉัน กัปตันจางเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมาก เธอใช้ชีวิตเหมือนโจรสลัด แต่เธอมีสิ่งสำคัญที่เธอยึดเหนี่ยวไว้ และคุณจะรู้ว่าฉันพูดถึงอะไรเมื่อคุณดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเธอได้รับแรงผลักดันจากสิ่งที่อยู่ในใจของเธอค่ะ

 
คำถามสำหรับ ชินซอนกยู คุณเล่นเป็นคนที่มีหัวใจที่อบอุ่นมากและฉันคิดว่าตัวละครนี้เหมาะกับคุณอย่างที่สุด ร่างกายของคุณก็ดูฟิตและเท่มากด้วย คุณพอใจกับร่างกายของคุณมากแค่ไหน?

ชินซอนกยู: ผมว่าผมพอใจถึง 120% กับสิ่งที่ปรากฏบนจอนะครับ ตอนถ่ายทำผมพยายามทำให้ร่างกายของผมดูใหญ่โตขึ้นกว่าปกติ แล้วเมื่อผมเห็นตัวเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ มันดูเท่กว่าที่ผมคาดไว้อีก ผมพอใจมากเลยครับ

คำถามสำหรับ ยูแฮจิน คุณตีความคาแรกเตอร์ Bubs นี้อย่างไร และการแสดงกับเทคนิคโมชั่นแคปเจอร์ หรือ เทคโนโลยีการจับการเคลื่อนไหวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในฮอลลีวูด มีปัญหาอะไรไหม? คุณเคยดูภาพยนตร์หรือตัวละครจากต่างประเทศเพื่อใช้อ้างอิงหรือไม่?

ยูแฮจิน: สำหรับคาแรกเตอร์ Bubs นี้ ผมไม่ได้อ้างอิงกับตัวละครจากเรื่องอื่นเลยครับ ผมคิดว่า Bubs เป็นหุ่นยนต์ที่ทำจากโลหะ แต่มันมีหัวใจที่อบอุ่น นั่นคือวิธีที่ผมตีความ Bubs ให้เป็น ส่วนในด้านอื่นๆ ผมก็พยายามอย่างเต็มที่เหมือนที่ทำมาตลอด และผมคิดว่านั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำงานเสมอ ทีมงานทุกคนก็ช่วยซัพพอร์ตผมในทุกขั้นตอนเป็นอย่างดีครับ


คำถามสำหรับ ซงจุงกิ ในฐานะตัวละครที่ช่วยให้เนื้อเรื่องดำเนินไปข้างหน้า แต่ก็ต้องไม่มากเกินจนกลบตัวละครอื่น คุณทำความเข้าใจกับบทของแทโฮได้อย่างไร?

ซงจุงกิ: ตอนที่ผมอ่านบทครั้งแรก และพยายามตีความบทแทโฮ ผมนึกถึงคำว่าเศร้าโศกสิ้นหวัง เพราะเขาหมดหวังในชีวิต เขายอมแพ้ในทุกสิ่ง ในเรื่องนี้แทโฮต้องประสบกับเหตุการณ์หนักๆ หลายอย่าง แต่เขาก็ยังสามารถเรียกสติกลับมาได้ และได้มาพบกับเหล่าลูกเรือคนอื่นๆของยาน Victory ผมอยากจะเรียกพวกเขาว่าเป็นพวกนอกคอก แต่พอรวมกันแล้วกลายเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม เกิดเป็นความหวังแวบหนึ่ง และเขาก็เริ่มมีความกระตือรือร้นในชีวิตอีกครั้ง ผมคิดว่าเหล่าสมาชิกของยาน Victory มีส่วนช่วยให้แทโฮกลับมายืนได้อีกครั้ง ดังนั้นผมจึงพยายามถ่ายทอดความแตกต่างนั้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้


สำหรับผู้กำกับโจซองฮี ดูเหมือนคุณจะมีความสามารถในการคัดเลือกนักแสดงเด็กที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา คุณมีวิธีการคัดเลือกนักแสดงเด็กอย่างไร และคุณบอกเด็ก ๆ เกี่ยวกับการแสดงของพวกเขาอย่างไร?

ผู้กำกับโจซองฮี: โดยธรรมชาติแล้ว เด็กจะไม่ทำตามที่คุณบอกหรอก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ ฝึกฝนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่วงหน้า เพื่อให้เด็กๆ รู้สึกสบายใจ และจะง่ายขึ้นสำหรับคนทำงาน ผมคิดว่าส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำงานกับนักแสดงเด็ก คือ ผู้ใหญ่จะต้องมีความเข้าใจ และมีน้ำใจต่อพวกเขา ผมคิดว่าเหล่าลูกเรือของยาน Victory ของเราทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในเรื่องนี้ (ยิ้ม) พวกเขารักเด็ก มีความเข้าอกเข้าใจนักแสดงเด็กมาก และสิ่งนี้ช่วยได้มากในการถ่ายทำครับ


สำหรับผู้กำกับโจซองฮี ไม่เพียงแต่ยานอวกาศ Victory เท่านั้น แต่รวมถึงงานในอวกาศทั้งหมด และเมือง UTS คุณสร้างสรรค์งานออกมาได้อย่างพิถีพิถันและอลังการมาก ฉันคิดว่าฉากไล่ล่าและฉากต่อสู้ใกล้เคียงกับมหากาพย์ Star Wars เลยทีเดียว และคุณภาพนั้นน่าประทับใจมาก คุณใช้ CGI ที่ไม่เหมือนใครโดยเฉพาะหรือไม่?

ผู้กำกับโจซองฮี: ทีมงานของเราใช้ความพยายามอย่างมากที่จะสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้มีคุณภาพและน่าประทับใจครับ พวกเราพยายามทำให้ภาพออกมาดูสมจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และนอกจากนี้พวกเราพยายามนึกถึงภาพความเร็วที่แท้จริงของยานอวกาศที่กำลังเดินทางไปนอกอวกาศ สิ่งที่เราเน้นมากที่สุดคือการใช้เทคนิคต่างๆให้มีความสมดุลครับ

spacesweepers_unit_013_2

spacesweepers_unit_068_2
ในตอนแรกภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์แต่เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 จึงเปลี่ยนมาออกอากาศพร้อมกันทั่วโลกทาง Netflix แทน คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง รู้สึกเสียใจบ้างมั้ย?

ซงจุงกิ: สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารกับผู้ชม พวกเราอยากให้ผู้ชมได้ชมผลงานของพวกเราให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ อีกไม่กี่วันทุกคนก็จะได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ผมหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบครับ

คิมแทรี: แน่นอน ฉันรู้สึกเสียใจนิดหน่อยค่ะ เพราะหลายคนคงอยากชมเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ แต่ฉันก็รู้สึกดีใจที่เรื่องนี้จะเข้าฉายใน Netflix ตอนทุกคนดูเรื่องนี้ ฉันแนะนำให้เปิดเสียงดังเพื่อจะได้รับอรรถรสที่เพิ่มขึ้นในการชมภาพยนตร์เรื่องนี้นะคะ

ชินซอนกยู: พวกเราจะได้ชมภาพยนตร์พร้อมกันทั่วโลกผ่านทาง Netflix ผมหวังว่าทุกคนจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในพื้นที่กว้างๆ พร้อมกับปิดไฟ เพราะมันจะสามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการรับชมได้มากยิ่งขึ้นครับ

ยูแฮจิน: ผมคิดว่าเทคโนโลยีและเสียงอุปกรณ์ต่างๆทุกวันนี้ก้าวหน้ามาก และภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องแรกของผมที่ผู้ชมทั้งหมด 190 ประเทศทั่วโลกจะได้รับชมพร้อมกัน ผมหวังว่าพวกคุณจะสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

ผู้กำกับโจซองฮี: ผมไม่รู้สึกเสียใจที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ และผมดีใจมากที่จะได้พบกับผู้ชมจาก 190 ประเทศทั่วโลก ผมอยากให้ทุกคนได้ชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของเกาหลีเรื่องนี้ครับ

สุดท้ายนี้ช่วยฝากผลงานให้กับแฟนๆที่รอติดตามชมภาพยนตร์เรื่องนี้หน่อยค่ะ?

ผู้กำกับโจซองฮี: ภาพยนตร์ Space Sweepers จะออกอากาศให้รับชมเป็นวันแรกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นี้แล้วนะครับ ผมหวังว่าทุกคนจะได้รับความสนุกและความบันเทิงจากเรื่องนี้ เพื่อผ่อนคลายในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ครับ

ยูแฮจิน: ไม่เพียงแต่นักแสดงบนเวทีนี้เท่านั้น แต่ทีมงานทุกคนต่างทุ่มเทให้กับผลงานเรื่องนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะรักและสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

ชินซอนกยู: พวกเราทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับโปรเจ็กต์นี้มาก และเรื่องนี้จะออกอากาศทั่วโลกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ผมหวังว่าทุกคนจะมีความสุขและสนุกในการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

คิมแทรี: เป็นภาพยนตร์ที่สามารถรับชมได้ทั้งครอบครัวและขอบคุณทุกคนมากที่มาร่วมงานกับเราในวันนี้ค่ะ

ซงจุงกิ: Space Sweepers จะสามารถรับชมได้ในอีกไม่กี่วันนี้ ผมหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นของขวัญสำหรับพวกคุณทุกคน ผมคิดว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นตลอด 2 ชั่วโมงที่รับชมนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในไม่ช้าครับ

 

รับชม Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล ได้ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ทางแอปพลิเคชั่น Netflix

spacesweepers_main_ensemble_v

Passengers การเดินทางครั้งสุดท้ายของคนเหงา ที่เราเปิดดูได้บน Netflix

Passengers การเดินทางครั้งสุดท้ายของคนเหงา ที่เราเปิดดูได้บน Netflix

การเดินทางข้ามจักรวาลดูเหมือนจะเป็นเทรนด์อนาคตที่เชื่อกันว่า มนุษย์อาจจะมีการโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อไปอยู่ยังดาวเคราะห์ดวงใหม่ๆ เนื่องจากทรัพยากรบนโลกที่เริ่มจะร่อยหรอลงไปทุกที Passengers (2016) ที่มีอยู่ใน Netflix คือหนังแฟนตาซีที่มีมุมมองน่าสนใจแม้ว่าตอนเข้าฉายจะโดนถล่มเละจากนักวิจารณ์ก็ตามที

รีวิว Space Sweepers เกาหลียึดอวกาศ

รีวิว Space Sweepers เกาหลียึดอวกาศ

Space Sweepers หนังเกาหลีแห่งปี 2020 ทุนสร้างมหาศาล หวังจะเข้าโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ปีก่อนแต่ด้วยวิกฤตไวรัสโคโรนาระบาดทำให้หนังเลื่อนฉายถึงสองรอบและท้ายที่สุดก็ตัดสินใจฉายแบบเอ็กซ์คลูซีฟทาง Netflix

Netflix เผยภาพเบื้องหลังนักแสดง Space Sweepers สาดมุมน่ารักล้นจักรวาล

Netflix เผยภาพเบื้องหลังนักแสดง Space Sweepers สาดมุมน่ารักล้นจักรวาล

Netflix ปล่อยภาพเบื้องหลังภาพยนตร์ Space Sweepers เปลี่ยนโหมดความระห่ำสาดความอบอุ่นกันเต็มพิกัด โดยเฉพาะโมเมนต์น่ารักๆ ของ แทโฮ (ซงจุงกิ) กับ กนนิม (พัคเยริน) เจ้าโดโรธีน้อย ที่น่ารักจนใจเจ็บไปเลย!

10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู Space Sweepers ว่าที่ Star Wars เอเชีย กับซูเปอร์ฮีโร่ชนชั้นขยะ

10 เรื่องน่ารู้ก่อนดู Space Sweepers ว่าที่ Star Wars เอเชีย กับซูเปอร์ฮีโร่ชนชั้นขยะ

Netflix จัดงานแถลงข่าวออนไลน์ Space Sweepers ไปสดๆ ร้อนๆ หนังบล็อกบัสเตอร์สไตล์ไซไฟเรื่องแรกของเกาหลี บอกเลยว่าทำออกมาได้เหนือความคาดหมายสุดๆ เรามีความพิเศษของเรื่องนี้ที่อยากให้คุณได้ติดตาม มาฝากกัน!