
รีวิว Deadly Illusions เปิดพิศวาส แต่งนิยายมรณะ
Deadly Illusions บอกเล่าเรื่องราวขอแมรี่ (คริสตีน เดวิส) นักเขียนเบสต์เซลเลอร์ที่กำลังกินบุญเก่าจากค่าลิขสิทธิ์หนังสือขายดีของตัวเอง แม้บริษัทจะร้องของให้เธอเขียนนิยายเล่มใหม่ออกมาก็ตาม แต่ดูเหมือนแมรี่ก็ไม่อยากจะคิดงานใหม่เสียทีเนื่องด้วยเหตุผลส่วนตัว ชีวิตของแมรี่ดูสมบูรณ์พูนสุขดีอยู่แล้ว จนกระทั่งทอม (เดอร์มอท มัลรูนนีย์) สารภาพกับภรรยาว่าเขาเอาเงินเก็บของครอบครัวไปลงทุนกับหุ้นที่มีโอกาสจะขาดทุน
เหตุผลดังกล่าวทำให้แมรี่หัวเสีย และต้องกลับไปตอบรับการแต่งนิยายเล่มใหม่อีกครั้ง ปัญหาเดียวที่เธอต้องรับมือการแบ่งเวลาทำงานกับเลี้ยงดูลูกๆ ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ดูหนักหนาสาหัสเอาการ แมรี่จึงได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสนิทเอเลน (ชาโนล่า แฮมป์ตัน) ให้ใช้บริษัทหาพี่เลี้ยงเด็ก
หลังจากการคัดเลือกโดยตัวแมรี่เอง เธอตัดสินใจเลือกเกรซ (เกียร์ แกรมเมอร์) สาวผมบลอนด์ที่ดูเป็นเด็กหญิงเก็บตัวและเรียบร้อย อย่างไรก็ตามในช่วงแรกดูเหมือนว่าเกรซเองก็มีความสุขมากกับการได้ดูแลลูกๆของแมรี่ ขณะที่แมรี่และทอมก็เอ็นดูเธอราวกับสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่แมรี่เองเป็นกังวลคือนิสัยส่วนตัวของเธอที่ยามแต่งนิยาย เธอมักจะหยิบเรื่องราวใกล้ตัวเอามาใช้ แถมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวแมรี่เองเป็นคนชอบเรื่องเซ็กซ์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ปรากฏอยู่ในนิยายของตัวเอง ไม่นานนักเธอก็เริ่มรู้สึกแปลกๆกับเกรซ ในเชิงชู้สาวตั้งแต่มีการสัมผัสหน้าอก จูบปาก และทุกอย่างก็เริ่มเลยเถิดไปเรื่อยๆ ตัวแมรี่เองก็เริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ปรากฏอยู่นั้นบางครั้งเป็นจินตนาการแฟนตาซีของตัวเองหรือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆกันแน่ ยิ่งนานวันผ่านไปความสัมพันธ์ระหว่างแมรี่และเกรซก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นก่อนที่ปัญหาอันน่าปวดหัวก็เริ่มตามมาเรื่อยๆ
Deadly Illusions เป็นหนังทริลเลอร์ดราม่าอิโรติกที่เหมือนนิยายแม่บ้านราคาถูก พล็อตต่างๆที่อยู่ในเรื่องถูกผูกเอาไว้อย่างหลวมๆ ซึ่งน่าเสียดายอยู่ไม่น้อยเมื่อทุกอย่างดำเนินไปสักระยะ เรื่องราวต่างๆควรทวีความเข้มข้นมากขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งหนังพยายามเล่าเรื่องมากขึ้นแค่ไหน ประเด็นต่างๆก็ดูไม่กระเตื้องขึ้นเลย
ในส่วนของตัวละครเกรซเองก็ดูเป็นตัวละครที่ชวนผิดสังเกตมาตั้งแต่แรก ว่าเธอมีลักษณะของบุคคลที่ดีเกินความเป็นจริงราวกับหลุดมาจากนิยาย คนเขียนนิยายอย่างแมรี่เองก็ควรจะฉุกคิดให้ได้ตั้งแต่แรก
ตัวละครในหนังเรื่องนี้ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่เคยอ่านนิยายระทึกขวัญ หรือชมภาพยนตร์เกี่ยวกับพี่เลี้ยงเด็กมหาภัยมาก่อนเลย จนท้ายที่สุดแล้วหนังเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย และไม่มีความจำเป็นจะต้องเสียเวลาดูเลยด้วยซ้ำไป