"บิ๊กฮั่น" ส่งตรงถึงทรู "ทำไมวันนี้ทำเหมือนเรา (ฟุตบอลไทย+ทรู) ไม่เคยรักกัน"

"บิ๊กฮั่น" มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อซีซั่นที่แล้ว ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว เกี่ยวกับปมปัญหาระหว่างทรูวิชั่นส์ และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย

โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

ในฐานะที่เป็นคนกีฬา ผมรู้สึกกังวลมากๆ ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับฟุตบอลไทย เพราะวันนี้สิ่งที่เราได้วางแผนกันไว้กลับไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ได้ประชุมกัน

ตารางการแข่งขันนี้ออกมาตามมติของสมาคมฟุตบอลร่วมกันกับสโมสรสมาชิกตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน โดยเป็นที่ทราบกันแล้วว่า ฤดูกาล 2020 จะลากยาวไปจนถึงปีหน้า ซึ่งหลังจากผ่านไปเกือบ 3 เดือน ทางทรูก็ได้แจ้งมาว่าต้องแข่งให้จบภายในวันที่ 25 ตุลาคม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย

ผมในฐานะคนไทย เป็นแฟนบอลไทย มีความฝันอยากเห็นวงการฟุตบอลไทยเติบโต อยากเห็นทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลก

ทรูในฐานะ “ต้าเกอ” หรือ “พี่ใหญ่” ของวงการฟุตบอลไทยก็สนับสนุนฟุตบอลไทยมาโดยตลอด สเกลของกลุ่มทรูก็ใหญ่มากๆ ถือเป็นเศรษฐี ToP 3 ของประเทศมาโดยตลอด ไม่นับกับสัมปทานต่างๆ ที่ได้ไปในกลุ่มบริษัทในเครืออื่นๆ

ซึ่งกับเงินประมาณ 1,200 ล้านบาท ที่ได้สนับสนุนฟุตบอลไทยมาโดยตลอดหลายปี และปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายของการได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด กับปัญหาวิกฤติไวรัสที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองของเราจนกระทบไปถึงเศรษฐกิจทุกหย่อมหญ้า

ผมคิดว่าไม่ใช่ตัวเลขที่มากเลยหากเปรียบเทียบกับสเกลและมูลค่าของบริษัทในกลุ่มทรูและ CP

1,200 ล้านบาท ไม่มากเลย หากจะทำให้ฟุตบอลไทยยังอยู่รอด มันไม่มากเลยกับการที่จะทำให้เด็กๆ นักกีฬายังได้มีงานทำ และมันไม่มากเลยที่จะทำให้แฟนบอลไทยมีอีกหนึ่งคอนเท้นที่ทำให้พวกเขาอยู่กับบ้านและมีความสุข

วันนี้ถ้าเรามาพูดถึงข้อสัญญาหรืออะไรก็ตาม แน่นอนทรูถูกทุกข้อ แต่วันนี้กับสถานการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้น ทรูทำเหมือนกับว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

เป็นไปได้ไหม ที่จะหารือถึงทางออกร่วมกัน

แม้สัญญาจะหมดลง แต่ฤดูกาล 2020 ยังไม่จบลง

ทรูจะสามารถถ่ายทอดสดเพื่อให้ คนไทยได้ดูฟุตบอลไทย + สโมสรได้รับค่าลิขสิทธิ์ + นักฟุตบอลได้รับค่าตอบแทน = เป็นประโยชน์ของวงการฟุตบอลไทยและแฟนบอลไทย

หรือทรูจะปล่อยทิ้งไว้กลางทาง??

เรามาช่วยคนละไม้ละมือผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน อย่าทำเหมือนว่าเรา (ฟุตบอลไทย+ทรู) ไม่เคยรักกันเลยครับ

ทั้งนี้ความขัดแย้งในเรื่องดังกล่าวยังไม่มีท่าทีจะจบลง แต่ในเร็วๆวันนี้คาดว่า ทั้งสองฝ่ายจะเปิดโต๊ะเจรจากันอย่างจริงๆจังๆ เพื่อหาทางออกให้กับวงการฟุตบอลลีกเมืองไทย