4 ทศวรรษการเดินทางของ "เหลียงเฉาเหว่ย" นักแสดงทรงสเน่ห์สู่บทบาทวายร้ายที่ดีที่สุดแห่ง MCU
ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมาอาจมีนักแสดงที่ฝากฝีมือผ่านบทบาทในภาพยนตร์และสร้างรอยประทับไว้ในหัวใจผู้ชมไว้จำนวนไม่น้อย แต่หากต้องพูดถึงนักแสดงฮ่องกงทรงเสน่ห์ระดับตำนานที่ยืนหนึ่งเรื่องการแสดงที่ลุ่มลึกและหลากหลาย จนข้ามฟ้ามาครองหัวใจคนไทยได้อยู่หมัด เหลียงเฉาเหว่ย หรือ โทนี่ เหลียง คือชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวใครหลายคน ผู้ชมถูกเขาตรึงไว้กับสารพัดบทบาท ทั้งตำรวจในคราบโจรที่หักเหลี่ยมเฉือนมุมดุเดือดแต่ก็ดำดิ่ง บทบาทร้าวลึกของชายผู้มีความสัมพันธ์ลับท่ามกลางควันบุหรี่ฟุ้งหม่น ไปจนถึงบทบาทชายรักชายในดินแดนข้ามขอบฟ้าห่างไกล ฯลฯ
โดยเฉพาะในปี 2021 ที่เขาตัดสินใจก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูดเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีของชีวิตนักแสดง โดย เหลียงเฉาเหว่ย รับบทบาท แมนดาริน วายร้ายตัวฉกาจใน Marvel Studios’ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์) นอกจากเป็นครั้งแรกของการร่วมงานกับฮอลลีวูด นี่ยังเป็นการแสดงฝีมือครั้งสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่านับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าสู่วงการแสดงในปี 1981 นี่คือ 4 ทศวรรษที่เขาพร้อมเปิดรับและเรียนรู้ทุกความท้าทายที่เข้ามา
จุดเริ่มต้นที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ สู่แถวหน้าแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง
สำหรับนักแสดงคนอื่นๆ การแสดงอาจหมายถึงอะไรก็ได้ แต่กับเหลียงเฉาเหว่ย เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ครังหนึ่งว่าการแสดงเปรียบเสมือนความฝันที่เขาจะสามารถหลบหนีจากโลกความเป็นจริง กลายเป็นคนอื่น รับบทคนอื่นโดยลืมการเป็นตัวเองเป็นชั่วขณะได้ แม้ฟังเผินๆ อาจดูโรแมนติก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาไม่ได้เริ่มต้นชีวิตการแสดงเพราะเป็นความฝันสวยหรูในวัยเด็ก ทว่าเป็นเพราะฐานะทางการเงินของครอบครัวและชีวิตในวัยเด็กของเขาเต็มไปด้วยการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
เหลียงเฉาเหว่ยจึงไม่ได้รับบทบาทที่หลากหลายเฉพาะในหน้าจอเท่านั้น ตอนยังเด็กเขาต้องเป็นทั้งเด็กส่งหนังสือพิมพ์ ขายเสื้อผ้าโหล ไปจนถึงการรับจ้างทั่วไป ทำงานหลากหลายจนกระทั่งเขาเห็นหนทางว่าวงการบันเทิงอาจเป็นหนทางสู่ความฝันที่หมายถึงรายได้มหาศาลซึ่งช่วยเขาหลบหนีจากความเป็นจริงและพาครอบครัวให้พ้นจากความยากจนได้
เขาจึงเริ่มต้นจากการสมัครเรียนการแสดงกับของช่องโทรทัศน์ทีวีบี (ช่องโทรทัศน์ในฮ่องกง) โดยการชักชวนของโจวซิงฉือเพื่อนสนิทของเขา ฝึกซ้อมอย่างหนักแทบไม่พัก จนได้ประเดิมเป็นพิธีกรรายการเด็กที่ต่อมาได้รับความนิยมมหาศาล กระทั่งได้ก้าวขึ้นแท่น 5 พยัคฆ์ทีวีบีร่วมกับดาวรุ่งวงการบันเทิงทั้ง 5 คนในขณะนั้น และได้เริ่มอาชีพนักแสดง พิสูจน์ตัวเองในหลายบทบาท จนประสบความสำเร็จครองใจผู้ชมวงกว้างได้โดยใช้เวลาไม่นาน
ย้อนชมเส้นทางการเติบโตของ'เหลียงเฉาเหว่ย' ผ่านดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์
นอกจากเหลียงเฉาเหว่ยจะเป็นนักแสดงทรงเสน่ห์และเป็นที่นิยมแล้ว ด้านรางวัลเขาก็ไม่น้อยหน้าใคร ตลอด 40 ปีเขากวาดรางวัลด้านการแสดงมาแล้วนับไม่ถ้วน ทั้งรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมแห่งฮ่องกง 5 สมัย รวมถึงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ สำหรับใครที่กำลังตั้งตารอชมเขาในบทบาทตัวร้ายจาก Marvel Studios’ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์) ที่กำลังจะฉายผ่านทางดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ เราอยากชวนคุณมาย้อนชมเส้นทางการเติบโตของเหลียงเฉาเหว่ยผ่านภาพยนตร์เหล่านี้ผ่านทางดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์เป็นการอุ่นเครื่องไปพร้อมกัน
เจ็บปวดและเรียนรู้ใน Happy together โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา (1997)
หลังหมดสัญญากับกับทีวีบี เหลียงเฉาเหว่ยได้เบนเข็มเข้าสู่วงการหนังจอใหญ่ และเดินหน้าแสดงศักยภาพด้านการแสดงจนเป็นที่ประจักษ์กับภาพยนตร์หลายเรื่อง และหว่องการ์ไวก็เป็นอีกหนึ่งในผู้กำกับที่เขาได้ร่วมงานด้วย จนกระทั่งเขาได้กลายเป็นนักแสดงคู่บุญของหว่องการ์ไวในเวลาต่อมา เพราะความสามารถในการด้นสด การแสดงแบบไม่รู้บทล่วงหน้าซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งลายเซ็นของผู้กำกับหนังแสนเหงาคนนี้นั่นเอง
เหลียงเฉาเหว่ยได้รับบทบาทชายรักชายใน ‘Happy together โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา’ (1997) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d’Or) และส่งให้ผู้กำกับหว่องการ์ไวคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมไปครอง ที่สำคัญนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เหลียงเฉาเหว่ยยอมรับว่าเป็นการแสดงที่ลุ่มลึกและต้องเรียนรู้บทบาทตัวละครอย่างลึกซึ้งมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่แปลกใจเลยที่ Happy together ขึ้นแท่นหนัง LGBTQ ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก สามารถรับชมการถ่ายทอดอารมณ์อันแสนซับซ้อนแฝงทั้งสุขและเศร้าของเหลียงเฉาเหว่ยใน Happy together ได้ทางดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์
ซับซ้อนและขึ้นหิ้งใน Infernal Affairs สองคน สองคม (2002)
หากจะพูดถึงภาพยนตร์ที่เป็นตำนานยิ่งใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง และหนังหักเหลี่ยมเฉือนคมระดับโลกที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจใครหลายคน Infernal Affairs สองคน สองคม (2002) คือหนังเรื่องนั้น โดยเหลียงเฉาเหว่ยรับบทบาทตำรวจในคราบโจรที่ผลัดกันแสดงบทบาทสุดเฉือนคมระห่ำโหดกับหลิวเต๋อหัว เรียกได้ว่านี่คือภาพยนตร์อีกเรื่องที่เป็นหมุดหมายสำคัญ เหลียงเฉาเหว่ยสามารถแสดงทักษะการแสดงสุดซับซ้อนได้อย่างสง่างาม
เขาแสดงให้เห็นภาพตำรวจในคราบผู้ร้ายที่ต้องเล่นซ้อนหลายชั้น รวมถึงการแสดงความสับสน ไม่แน่ใจ การกลัวถูกเปิดโปง ถือเป็นอีกผลงานมาสเตอร์พีซที่ขึ้นหิ้งทั้งแง่เนื้อเรื่อง และการกระตุ้นอารมณ์ผู้ชมให้มีส่วนร่วมจนนั่งไม่ติด มาสเตอร์พีซถึงขั้นทำให้เหลียงเฉาเหว่ยคว้ารางวัลนักแสดงนำชายจากทุกเวทีที่จัดในปีนั้นมาครอง ชมผลงานขึ้นหิ้งชิ้นนี้ของเขาได้ใน Infernal Affairs ทางดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์
ก้าวสำคัญในรอบ 4 ทศวรรษกับ Marvel Studios’ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ (2021)
อย่างไรก็ตามตลอด 4 ทศวรรษแห่งการโลดแล่นในอุตสาหกรรมบันเทิง เหลียงเฉาเหว่ยกลับปฏิเสธ ไม่เคยรับงานฮอลลีวูดแม้แต่ครั้งเดียว แม้เขาจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วและมีหลายสตูดิโอเฝ้าทาบทามเขามาโดยตลอดก็ตาม เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ครั้งหนึ่งว่าเขากำลังรอโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับก้าวที่สำคัญนี้
เมื่อเหลียงเฉาเหว่ยตัดสินใจรับบทบาทจอมวายร้ายแห่งจักรวาลภาพยนตร์มาเวลจึงถือเป็นเรื่องฮือฮาที่แฟนๆ ตั้งตารอมาตลอด 40 ปี โดยใน Marvel Studios’ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings เหลียงผสานการแสดงลุ่มลึกแบบที่เขาถนัดเข้ากับการเล่นหนังฮีโร่เรื่องแรก จนเป็นที่มาของการสำรวจความร้ายกาจของแมนดารินให้รอบด้านมากที่สุด เพื่อแสดงออกมาให้สมจริงที่สุด มากกว่าการสาดความร้ายกาจแบบไม่บันยะบันยัง
การเดินทางของเหลียงเฉาเหว่ยจากวันแรกถึงวันสุดท้ายยิ่งทำให้เห็นว่าความเป็นนักแสดงฮ่องกงระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจไม่ได้มาเพราะโชคช่วย โดยเฉพาะเมื่อเขาตัดสินใจรับบทบาทตัวร้ายในหนังฮีโร่เป็นครั้งแรก รับชมฝีมือการแสดงอันไม่อาจต้านทาน และติดตามการเติบโตครั้งสำคัญในบทวายร้ายที่ดีที่สุดของเหลียงเฉาเหว่ยผ่าน Marvel Studios’ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings “ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์” พร้อมกันทั่วประเทศได้แล้ววันนี้ทางดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์