Spider-Man: No Way Home เปิดตัวทำรายได้ถล่มทลายในยุคโควิด!
หลังจาก Spider-Man: No Way Home เปิดตัวในอเมริกาไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาด้วยรายได้วันแรกถล่มทลายถึง 121.5 ล้านเหรียญฯ หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้หนังมิวสิคัลรีเมคเรื่องดังอย่าง West Side Story เปิดตัวด้วยรายได้เพียง 10 ล้านเหรียญฯ จนสร้างความผิดหวังให้กับสตูดิโออย่างฟ๊อกซ์เป็นอย่างมาก สวนทางกับคำวิจารณ์ที่นักวิจารณ์กล่าวว่ามันเป็นงานรีเมคที่มีคุณภาพมากๆและน่าจะมีบทบาทสำคัญบนเวทีประกาศผลรางวัลในช่วงต้นปีหน้าในหลากหลายสาขาเลยทีเดียว
กลับมาที่ Spider-Man: No Way Home ซึ่งถือเป็น หนังสไปเดอร์แมนจากสตูดิโอโซนี่ พิกเจอร์สที่ยังคงทำกำไรมหาศาลโดยมีนักแสดงนำอย่าง ทอม ฮอลแลนด์ มารับบทนำเป็นปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นภาคที่มีการปล่อยตัวอย่างออกมาแล้วว่าบรรดาวายร้ายจากจักรวาลสไปเดอร์แมนในเวอร์ชั่นเก่าๆจะกลับมาปรากฏตัวในหนังภาคนี้อีกด้วย ยิ่งทำให้กระแสของหนังคึกคักเป็นอย่างมากตลอดช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
รายได้ 121.5 ล้านเหรียญฯ สำหรับการเปิดตัวของ Spider-Man: No Way Home ถือได้ว่าเป็นรายได้เปิดตัวภาพยนตร์ที่สูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 2 รองจาก Avengers: Endgame นอกจากนี้บรรดาผู้ชมและนักวิจารณ์ต่างก็ล้วนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่ามันเป็นหนังภาคต่อที่สนุกและบันเทิงสมการรอคอย มีเรื่องราวเซอร์ไพรส์ในหนังมากมาย จนมีคำกล่าวว่าอาจจะเป็นสไปเดอร์แมนที่ดีที่สุดตั้งแต่มีการสร้างมาเลยก็ว่าได้ ถ้าหากไปดูคะแนนในเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Rotten Tomatoes ยังได้รับคะแนนสูงถึง 94% คุณภาพถือได้ว่าเทียบเท่ากับหนังมาร์เวลอย่าง Black Panther ซึ่งเคยไปไกลถึงขั้นได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์กันเลยทีเดียว
คาดการณ์กันว่า Spider-Man: No Way Home น่าจะทำรายได้สุดสัปดาห์ไปประมาณ 250 ล้านเหรียญฯ ซึ่งจะกลายเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์ที่ทำรายได้สูงสุดในยุคไวรัสโควิดระบาดเลยทีเดียว และบรรดาสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่นำกลับมายืนยันได้เลยว่า “โรงภาพยนตร์” นั้นยังไม่ได้ตายจากไปไหน ผู้ชมยังคงต้องการชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์กันในโรงมรสพมากกว่าจะดูผ่านจอเล็กๆอย่างโทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บเล็ต กระทั่งจอโทรทัศน์อยู่ดี
สำหรับ Spider-Man: No Way Home ถือเป็นหนังไลฟ์แอ็คชั่นลำดับที่ 8 จากการที่เคยมีการสร้างขึ้นมา และเป็นภาคที่ 3 ในจักรวาลของ MCU อันเป็นผลงานการกำกับของจอน วัตต์สทั้งหมด สำหรับเรื่องราวในหนังภาคนี้จะเล่าถึงเหตุการณ์ภายหลังจากที่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ถูกเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะ ทำให้ภาพลักษณ์ของการเป็นฮีโร่นั้นขัดแย้งกับวีถีชีวิตแบบวัยรุ่นอันแสนธรรมดาของเขา ยิ่งไปกว่านั้นมันยังทำให้คนรอบตัวที่ปีเตอร์รักตกอยู่ในอันตราย เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากด็อกเตอร์ สเตรนจ์ เพื่อร่ายเวทมนตร์ในการทำให้ทุกคนลืมตัวตนที่แท้จริงของสไปเดอร์แมน แต่ระหว่างที่ร่ายคาถานั่นเอง ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างผลกระทบให้มัลติเวอร์สเกิดความยุ่งเหยิงและปลดปล่อยบรรดา “วายร้าย” ที่เคยต่อกรกับสไปเดอร์แมนในพหุภพต่างๆ หลุดออกมา ทำให้ปีเตอร์ต้องลุกขึ้นสู้กับศึกอันใหญ่หลวงเพื่อปกป้องชีวิตตัวเอง คนที่เขารัก รวมไปถึงอนาคตของพหุภพต่างๆอีกด้วย
ในสัปดาห์เดียวกันนี้ยังมีหนังหวังรางวัล ผลงานการกำกับของกิลเลอร์โม่ โทโร่ เรื่อง Nightmare Alley โดยตอนแรกนั้นสตูดิโอคาดหวังว่าหนังน่าจะเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 3-4 ล้านเหรียญฯ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหนังเปิดตัวอยู่แค่เพียง 1.65 ล้านเหรียญเท่านั้น ทำรายได้อยู่ที่อันดับ 3 โดยอันดับที่ 2 ยังคงเป็นของ West Side Story ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ในอเมริการวมแล้วทั้งสิ้นสองสัปดาห์ที่ 15 ล้านเหรียญฯ (ส่วนในประเทศไทยเข้าฉายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและกระแสตอบรับของหนังก็ค่อนข้างเงียบเชียบ คาดว่าหนังอาจจะยืนโรงไม่น่าจะเกินวันพุธนี้ด้วยเช่นกัน)
กระแสการตอบรับของ Spider-Man: No Way Home นอกอเมริกา ถือได้ว่ายังคงได้รับการตอบรับที่อุ่นหนาฝาคั่งเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวในประเทศอังกฤษ ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมาด้วยรายได้เปิดตัว 10 ล้านเหรียญฯ ในเม็กซิโก หนังเปิดตัวด้วยรายได้ 9 ล้านเหรียญ นี่เป็นตัวอย่างในประเทศต่างๆนอกอเมริกาเหนือ โดยตอนนี้รายรับในต่างประเทศนั้นรวมกันอยู่ที่ 43 ล้านเหรียญฯ ส่งผลให้รายรับรวมตอนนี้อยู่ที่ 165 ล้านเหรียญฯ แล้ว
สำหรับในประเทศไทยนั้น Spider-Man: No Way Home เตรียมปูพรมเข้าฉายทั่วประเทศในวันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคมที่จะถึงนี้ รีบไปดูก่อนโดนสปอยล์!