![[เปิด Netflix มารีวิว] The Royal Treatment ยัยสาวตัวร้ายกับเจ้าชายจอมมึน](http://p4.isanook.com/mv/0/ud/23/119841/head.jpg)
[เปิด Netflix มารีวิว] The Royal Treatment ยัยสาวตัวร้ายกับเจ้าชายจอมมึน
ออริจินัล Netflix หนังรอมคอมเรื่องล่าสุด ที่ยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องสาวสามัญชนพบรักกับเจ้าชายรูปงาม The Royal Treatment คือหนังพล็อตซ้ำซากยิ่งกว่าละครน้ำเน่า ถ้าคุณยังไม่เบื่ออะไรแบบนี้ เราขอแนะนำให้เปิดดูได้เลย
อิซาเบลล่า (ลอร่า มาราโน) ช่างทำผมสุดก๋ากั่นประจำซาลอนในนิวยอร์ก ที่บังเอิญได้รับงานตัดผมให้กับเจ้าชายโธมัส (มีนา มาซูด)แห่งประเทศลาเวเนีย หลังจากที่อิซาเบลล่าไปถึงยังที่พักและพบว่าบรรดาข้าราชบริพารของเจ้าชายดุด่าคนรับใช้ที่บังเอิญทำจานใส่อาหารร่วงแตกเสียงดัง เธอก็เกิดอาการปรี๊ดแตกว่าทำไมเจ้าชายถึงไม่ยอมช่วยว่ากล่าวข้าราชบริพารของตัวเองว่าไม่ต้องขึ้นเสียง ใส่อารมณ์ถึงเพียงนั้นกับคนรับใช้!
แน่นอนหลังจากที่ช่างทำผมไม่สบอารมณ์ เธอจึงยีหัวเจ้าชายและทะเลาะกับเขา ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาปฏิบัติกับคนรอบตัวเหมือนต่ำต้อยกว่า สมมติว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกของความเป็นจริง อิซาเบลล่าน่าจะโดนจับไปกุดหัว หรือไม่ก็คงโดนอุ้มไปฆ่าแล้ว แต่เมื่อมันเป็นหนังโรแมนติกคอมมาดี้ หลังจากที่อิซาเบลล่าสะบัดตูด เชิดหน้าประหนึ่งนางเป็นสาวป๊อปประจำไฮสคูล แน่นอนว่าเจ้าชายโธมัสจะต้องหลงรักในความมั่นหน้ามั่นโหนก ไม่สนกะโหลกและกะบาล ทำให้เขาตามไปตื้อให้อิซาเบลล่าตัดผมให้เขาจนเสร็จสิ้นที่ซาลอน!
หลังจากนั้นคงไม่มีอะไรยากเย็นต่อการคาดเดา เมื่อทั้งสองเริ่มจะปลูกต้นรักแก่กันและกัน จนฝ่ายชายได้เชื้อเชิญให้อิซาเบลล่าและเพื่อนๆของเธอเดินทางไปยังประเทศลาเวเนีย ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ตรงไหนของแผนที่โลกเนื่องจากมันเป็นประเทศสมมติ แต่เซอร์ไพรส์ดันอยู่ที่ว่าเจ้าชายโธมัสกำลังจะโดนจับแต่งงานกับคู่หมั้น ซึ่งราชวงศ์วางแผนคลุมถุงชนโดยที่มัสเองก็ดูไม่อยากจะแต่งซักเท่าไหร่
แน่นอนว่าระหว่างทาง ความจิตใจงดงามของอิซาเบลล่าจะยิ่งเพิ่มคะแนนความน่าพิศวาสมากยิ่งขึ้น หลังจากที่เธอได้ออกเดินทางไปพบกับชาวเมืองที่น่ารักและเป็นมิตร ในขณะที่บรรดาราชวงศ์นั้นต้องการจะคลุมถุงชนก็เพราะว่าตระกูลตัวเองกำลังจะถังแตก และการที่เจ้าชายโธมัสจำต้องแต่งงานกับลูกสาวไฮโซก็เพื่อความอยู่รอดนั่นเอง
น่าเสียดายที่สำหรับเรา The Royal Treatment เป็นหนังสูตรสำเร็จที่ไม่ค่อยสนุก เพราะยอมรับกันตามตรงว่าผ่านตากับหนังแนวหญิงสามัญชนพบรักกับเจ้าชายรูปงามมานับครั้งไม่ถ้วน แน่นอนว่าการจะทำให้หนังที่เดินตามสูตรนั้นสนุกอาจจะต้องอาศัยเสน่ห์ของนักแสดง รวมไปถึงมุกตลกรายทาง ไม่ก็เซอร์ไพรส์อะไรก็ตามที่เราคาดไม่ถึง แต่ท้ายที่สุดแล้วหนังเรื่องนี้ก็เดินตามสิ่งที่เราเคยเห็นมาหมดแล้วใน The Princess Diaries, The Prince and me (ทุกภาค) กระทั่งบรรดาหนังแนวทางเดียวกันนี้ของ Netflix เอง อาทิ A Christmas Prince หรือ Princess Switch)
เอาเป็นว่าถ้าคุณเป็นสาวกหนังแนวหลับฝันหวานแล้วเจอเจ้าชายรูปงาม ก็น่าจะชอบได้ไม่ยาก แต่ถ้าคาดหวังความน่าสนใจของบท หรือเสน่ห์ของนักแสดงนำ สำหรับเราคิดว่ามีนา มาซูด ตอนรับบทเป็นอะลาดินใน Aladdin ฉบับไลฟ์แอ็คชั่น เขามีเสน่ห์มากกว่าเยอะเลยทีเดียวเชียว