เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

อะไรเป็นเหตุผลที่ All of Us Are Dead ขัดใจคนดู

อะไรเป็นเหตุผลที่ All of Us Are Dead ขัดใจคนดู

ด้วยกระแสของ K-Zombie ที่มาแรงอย่างต่อเนื่องภายหลังจาก Train to Busan ปลุกตลาดซอมบี้เกาหลีให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จวบจนซีรีส์อย่าง Kingdom ที่หล่อเลี้ยงกระแสเอาไว้ จนล่าสุด All of Us Are Dead คือผลงานในหมวดหมู่ดังกล่าวที่ยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอีกครั้ง แม้ว่าจะ “ขัดใจ” ผู้ชมในหลายๆเรื่องก็ตาม

 

ที่มาของไวรัสมรณะ

ในทุกๆเรื่องราวของหนังตระกูลซอมบี้ หรือ หนังไวรัสระบาด ย่อมระบุถึงที่มาที่ไปของเชื้อมรณะที่จะกลายร่างมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือดเนื้อของมนุษย์ด้วยกันเอง แม้วิธีการติดต่อกันผ่าน “เลือด” การถูกกัด รอยข่วนอาจจะเป็น “กฎ” ภาคบังคับของหนังหรือซีรีส์ซอมบี้ไปแล้วก็ตาม แต่สำหรับ All of Us Are Dead เลือกจะหยิบเอาประเด็นทางสังคมของเกาหลี ว่าด้วยความรุนแรงภายในโรงเรียน เอามาเป็นจุดเริ่มต้นของไวรัสมรณะ

ตัวละครสำคัญของเรื่องอย่างลี บยองซาน คุณครูในหมวดวิชาวิทยาศาสตร์ ที่ตัดสินใจสร้างไวรัสพิเศษที่สามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมให้โฮสต์มีความสามารถด้านพลกำลังมากขึ้น เนื่องจากเขาทนเห็นลูกชายที่มักจะโดนเพื่อนกลั่นแกล้ง ทำร้ายร่างกายและไม่ยอมสู้ตอบในหลายครั้งหลายครา จนเขามองว่าบางทีนี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด สำหรับลูกชายของตัวเองก็เป็นได้

แน่นอนว่าแนวคิดดังกล่าวเป็น “ความรัก” ของผู้เป็นพ่อที่แสนเต็มด้วยความปรารถนาดี แต่เมื่อมองกลับมาในมุมมองของผู้ชมที่เคยผ่านตากับการกระทำเช่นนี้แล้ว พวกเราย่อมรู้ดี ทันทีว่า ทุกอย่างที่ลี บยองชานทำนั้น จะนำมาซึ่งความฉิบหายย่อยยับที่ไม่ใช่แค่เพียงชัยชนะของลูกชายตัวเอง แต่มันหมายถึงความล่มสลายทางระบบนิเวศน์ เมื่อเขาไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบในวงกว้างตั้งแต่แรก และนำมาซึ่งเหตุการณ์ไวรัสระบาด

สิ่งที่น่าขบขันที่สุดคือฉากที่ลี บยอนชาน นำร่างของลูกชายตัวเองยัดใส่กระเป๋าเดินทางออกมาจากโรงพยาบาล อย่างสะดวกโยธินจนเราตั้งคำถามถึงความรัดกุมและความปลอดภัยของโรงพยาบาลในเมืองฮโยซานว่า เหตุใดกัน การรักษาความปลอดภัยของสถานที่ดังกล่าวจึงหละหลวมได้ถึงเพียงนั้นเชียว!  

 

เรื่องราวของวัยรุ่น วุ่นรัก และทักษะชีวิต

All of Us Are Dead ในฐานะของซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวในเว็บตูนอีกทีหนึ่ง เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ทำความรู้จักกับบรรดาตัวละครวัยรุ่น ซึ่งพวกเขาเป็นกลุ่มตัวละครหลักที่จะพาผู้ชมติดตามชะตากรรม ภายหลังจากการระบาดของเชื้อซอมบี้ในโรงเรียนมัธยมฮโยซาน

แน่นอนเมื่อกลุ่มตัวละครหลักเป็นกลุ่มวัยรุ่น สิ่งที่ต้องพ่วงเข้ามาอย่างขาดไม่ได้คือเรื่องราวความรักฉบับหนุ่มสาว ฉันแอบชอบผู้ชายคนนั้น แต่ผู้ชายคนนั้นดันไปชอบผู้หญิงอีกคน ความอิรุงตุงนังในวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่านย่อมนำมาซึ่งความวุ่นวายและความวู่วามทางลอารมณ์จะมาพร้อมกับปัญหาที่ชวนคนดูเกาหัวตามในเวลาต่อมาที่ซีรีส์ดำเนินไปข้างหน้า

ถึงบรรดาตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้จะเคยเอ่ยอ้างถึงหนังซอมบี้อย่าง “Train to Busan” ก็ตาม แต่ดูเหมือนกับว่า เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ซอมบี้บุกโรงเรียนซะเอง พวกเขากลับทำอะไรไม่ถูกเลยสักอย่าง มิหนำซ้ำ ปีศาจกระหายเลือดนั้น ครั้งหนึ่งพวกมันยังเคยเป็นเพื่อนและคนรู้จักของพวกเขาเองด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ทำให้การตัดสินใจของตัวละครในเรื่องมีความล่าช้าและไม่เด็ดขาด อาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนดู (ซึ่งเคยผ่านตากับหนังและซีรีส์ซอมบี้มาหลายเรื่อง เกิดอาการหงุดหงิดอย่างไม่อาจจะปฏิเสธ)

จะเห็นได้ว่าตัวละครในเรื่องแทบจะไม่เคยถอดบทเรียนมาจากสื่อฯ ที่พวกเขาเคยเสพย์มา ราวกับว่าตัวละครใน All of Us Are Dead ไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยว่า วิธีการเอาตัวรอดจากซอมบี้นั้น หลักพื้นฐานควรจะต้องทำอย่างไร เมื่อถ้าเรามองว่าตัวละครในเรื่องเชิงเข้าข้างและเอาใจช่วยว่าพวกเขา ยังเป็นวัยรุ่นที่อ่อนต่อโลกและยังไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจนอาจจะตั้งสติไม่ทัน

ถึงกระนั้นแล้ว เมื่อเรื่องราวเดินทางผ่านพ้นไปกว่าครึ่งค่อนเรื่อง เราก็ยังคงพบว่า พวกเขาหลายคนก็ยังไม่ยอมที่จะเรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ อาทิ ความเด็ดขาดในการตัดสินใจวิ่งหนีซอมบี้ การจัดการกับผู้ติดเชื้อที่กำลังกลายร่างเป็นซอมบี้ หรือแม้กระทั่งการมัวแต่จมอยู่กับอารมณ์อาลัยอาวรณ์จนนำความเดือดร้อนมาให้กับคนรอบข้าง เป็นต้น

เมื่อเราลองพิจารณาทักษะในการเอาตัวรอดของเด็กๆใน All of Us Are Dead ที่เป็นคนในเจนเนอเรชั่น Z ซึ่ง เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีตั้งแต่พวกเขาลืมตาดูโลก พวกเขามีความเชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูง กล้าคิด กล้าแสดงออก แต่ถ้าหากหนังเรื่องนี้เป็นการสะท้อนภาพที่ว่า ในความเป็นวัยรุ่นนั้น พวกเขายังอ่อนด้อยในเรื่องประสบการณ์ชีวิต การเอาตัวรอด โดยหนทางเดียวที่พวกเขาพอจะนึกออกคือการร้องขอความช่วยเหลือจากบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า แต่ซีรีส์ก็ยังแสดงให้เราเห็นอีกว่า ในการร้องขอนี้ ใช่ว่าพวกเขาจะได้รับการตอบสนองและช่วยเหลืออย่างทันเหตุการณ์เสมอไป

All of Us Are Dead อาจจะไม่ใช่ซีรีส์ซอมบี้ที่มีเนื้อหาสาระที่แปลกใหม่ แต่ถ้าหากเราพยายามมองสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องราวในมิติของความเป็นวัยรุ่นที่อ่อนต่อโลก อ่อนต่อประสบการณ์และโลกที่เต็มไปด้วยเฉดสีที่มากกว่าขั้วตรงข้ามระหว่างขาวและดำ เราจะได้พบว่า ความเป็นมนุษย์ท่ามกลางสภาวะวิกฤตินั้น การตัดสินใจของคนเราล้วนแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง เด็กๆในเรื่องอาจจะดูน่ารำคาญและชวนหงุดหงิดในสายตาของผู้ใหญ่ (และผู้ชม) แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆต้องพยายามทำความเข้าใจพวกเขา และพร่ำสอนทักษะชีวิตที่พวกเขายังคงขาดหายไปไม่ใช่หรือ

เมื่อซีรีส์เดินทางผ่านมาถึง 12 ตอนแล้ว เราก็จะพบว่า ตัวละครในเรื่องนั้น พวกเขายังคงเป็นวัยรุ่นที่ยังคงต้องกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดท่ามกลางสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง และบทเรียนชีวิตครั้งใหม่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่ในอนาคต

ยุนชานยอง แฟนมีตติ้งไทยครั้งแรก ส่งคลิปชวนสร้างความทรงจำส่งท้ายปลายปี

ยุนชานยอง แฟนมีตติ้งไทยครั้งแรก ส่งคลิปชวนสร้างความทรงจำส่งท้ายปลายปี

ยุนชานยอง สลัดมาดนักเรียนหนุ่มสุดอันตรายต่อหัวใจ! ส่งคลิปชวนสร้างความทรงจำส่งท้ายปลายปี แฟนมีตติ้งครั้งแรกในไทย 24 พฤศจิกายน นี้!

All of Us Are Dead ซีซั่น 2 จะพูดถึงเนื้อหารุ่นน้องที่รอดชีวิต

All of Us Are Dead ซีซั่น 2 จะพูดถึงเนื้อหารุ่นน้องที่รอดชีวิต

ความสำเร็จของซีรีส์ซอมบี้มัธยม All of Us Are Dead ที่ออนแอร์ทาง Netflix เมื่อช่วงต้นปี และได้กระแสตอบรับที่ดีเกินคาดทำให้ Netflix ไฟเขียวให้ทำภาคต่อเรียบร้อยแล้ว โดยจะพูดประเด็นรุ่นน้องที่รอดชีวิต

All of Us Are Dead เราจะถูกบูลลี่และตายกันหมด โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

All of Us Are Dead เราจะถูกบูลลี่และตายกันหมด โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

ตลาดซีรีส์เกาหลีใน Netflix นี่เขาก็รับบทนางสู้ อย่างล่าสุดกับแนวซอมบี้เกาหลี All of Us Are Dead ที่ชวนว้าวกันอีกเรื่องแล้วค่ะ โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

\

"พัค ซลโรมน" จากพระเอก Lookism สู่นักเรียนหลังห้องสายบู๊ใน มัธยมซอมบี้

ใครดู All of Us Are Dead (มัธยมซอมบี้) แล้วโดน "ซูฮยอก" หนุ่มหล่อหลังห้องตกเข้าอย่างจัง มาทำความรู้จัก "พัค ซลโรมน" คนนี้กัน!