[เปิด Netflix มารีวิว] Dark World อนาคตดิสโทเปีย ฉบับไทยแลนด์แดนเถื่อน

แม้ช่วงที่หนังไทยเรื่อง Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีก่อน แต่ดูเหมือนคนส่วนมากก็ยังไม่กล้าจะกลับเข้าโรงหนังซักเท่าไหร่ โชคดีที่ล่าสุดหนังมาลง Netflix เป็นที่เรียบร้อยท่ามกลางความเห็นของผู้ชมในเชิงลบ  

อันที่จริงแล้วจะบอกว่าหนังอย่าง Dark World น่าสนใจตั้งแต่วิธีคิด การออกแบบฉากหลังเป็นโลกอนาคตหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 3 สิ้นสุดลง จนทำให้สภาพเศรษฐกิจล่มสลาย ประเทศกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน แต่ปัญหามันติดอยู่ตรงนี้นี่แหละครับ คุณผู้อ่านตรงที่ว่า เรายังไม่รู้สึกว่าฉากหลังของ Dark World นั้นเป็นความแร้นแค้น กันดาร ยากจนข้นแค้น อย่างแท้จริง ประกอบกับงานออกแบบเครื่องแต่งกายยิ่งทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวละครกำลังแต่งตัวกันสุดฤทธิ์เพื่อเข้าร่วมงานประกวดชุดสุดปังในวันฮาโลวีนซะมากกว่า

ที่สำคัญตัวละครเอกของเรื่องเป็นผู้หญิงสามคน รัน (น้ำหวาน รักษ์ณภัค), เฟียร์ (แซมมี่ ปัณฑิตา) และ ไอรีน (ดิว อริสรา) มีชะตากรรมผูกพันกันตั้งแต่เด็ก หลังจากที่พวกเธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของเกม “มอญซ่อนผ้า” ซึ่งได้สร้างบาดแผลให้กับพวกเธอตั้งแต่วันนั้น จวบจนปัจจุบันสามสาวได้เติบโตและไปมีเส้นทางเป็นของตัวเอง

สิ่งที่น่างุนงงจนชวนเกาหัว คือในเมื่อเราไม่เข้าใจในฉากหลังของเรื่องราวแล้ว ความเป็นเหตุเป็นผลที่ตัวละครจะสามารถโน้มน้าวให้คนดูคล้อยตามการกระทำและพฤติกรรม จึงกลายเป็นปัญหาในประการถัดมา จริงอยู่ที่โลกอนาคตอาจจะอยู่ภายใต้ผู้ทรงอิทธิพลอย่างกวิน (วิลลี่ แมคอินทอช) โดยเขาสามารถสร้างเกม “ค้าประเพณี” ที่เอาคนมาแข่งกันทำภารกิจโหดให้ฆ่ากันตายไปข้าง โดยที่ไม่มีเรื่องของกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตามที่ได้บอกไป เมื่อความไม่รัดกุมของบท ที่ไม่อาจจะทำให้เราเชื่อได้ว่าระบบเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นใน Dark World ได้กลายเป็นสภาวะจำยอมที่ทำให้ตัวละครในเรื่องต้องกระโจนเข้าสู่เกมดังกล่าว ตรรกะทุกอย่างก็พังทลายทันที

น่าเสียดายมากที่ความพยายามในการนำเสนอ “อำนาจของผู้ชนะ” ซึ่งเป็นประเด็นที่ Dark World พยายามจะพูดถึงอยู่ตลอดเวลา ยังไม่รวมไปถึงคาแรกเตอร์แนว Femme Fatale (หญิงร้าย) ของดิว อริสรานั้น เป็นบทที่ดูท้าทาย มีอะไรให้สำรวจเยอะแยะมากมาย ประกอบกับเมื่อหนังขมวดปมในช่วงท้าย ยิ่งทำให้ตัวละครนี้ มีมิติความหลากหลายที่หนังน่าจะเปิดโอกาสให้คนดูได้ไปสำรวจให้มากกว่านี้ เพราะตลอดทั้งเรื่องดูเหมือนตัวหนังจะใช้งานตัวละครนี้หนักไปทาง Sex Object (วัตถุทางเพศ) มากกว่าจะทำให้เราเชื่อว่า ตัวละครนี้ผ่านอะไรมาจึงส่งผลให้เธอกลายเป็นตัวละครที่มีความคิดที่ใช้ “เซ็กส์” เป็นทั้งเดิมพันและข้อต่อรองในเวลาเดียวกัน

จริงอยู่ที่ Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด ค่อนข้างจะล้มเหลวที่จะทำให้เราเชื่อได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในฉากหลังนั้นดูสมจริง แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าหนังเรื่องนี้ พยายามนำเสนอมิติอื่นๆของหนังไทย ที่ไม่ได้วนเวียนซ้ำซากอยู่แค่ หนังรัก ตลก อีสานและผีหลอก อย่างน้อยมันถือเป็นความพยายามที่น่านับถือ ที่จะฉีกความ “เพลย์เซฟ” กลัวเจ๊ง จนเราไม่ได้ดูอะไรใหม่ๆกับหนังไทยเมนสตรีมในรอบหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม

การจะก่นด่าว่า นี่เป็นเหตุผลที่คนไทยส่วนมากไม่ค่อยอยากจะดูหนังไทยเพราะอะไรแบบนี้ ก็ดูจะร้ายแรงเกินไปและไม่ได้สนับสนุนให้วงการหนังไทย มีอะไรแปลกๆใหม่ๆ สู่สายตาคนดูเลย