ซีรีส์ Marvel แบบไปต่อแบบไม่รอแล้วนะ โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์
ก็ว่าไม่ได้ กับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งแบบแทบไม่ได้ให้พักหายใจของภาพยนตร์ Marvel อย่าง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ซึ่งกลายเป็นกระแสโด่งดังมากในช่วงวันหยุดต้นเดือนที่ผ่านมา ทำเอาทั้งคอหนังและแฟนเดนตายของ Marvel ถึงขั้นออกอากาศติ่งเวอร์วัง จะกลายร่างเป็นพ่อมดแม่มดกันไปตามกันเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำเอาแฟนๆอาจจะรู้สึกตามหนังเรื่องนี้ไม่ทัน อาจจะเพราะเดี๋ยวนี้ Marvel นางไม่ได้ทำแต่หนังอย่างเดียว นางทำซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับหนังด้วย แล้วถ้าตามไม่ทันจะทำไงล่ะทีนี้แม่
เพราะซีรีส์ Marvel นางไปต่อไม่รอแล้วจ้า
จากความสำเร็จของภาพยนตร์ Avengers ที่เดินทางมา 4 ภาค ในระยะเวลา 10 ปี พ่วงกับภาพยนตร์ฮีโร่รายทางอีกมากมาย ที่ก่อร่างสร้างร่วมกันมาจนมาถึงจุดที่สามารถรวบรวมฮีโร่นับสิบๆชีวิตมาอยู่ในภาพยนตร์เรื่องเดียวกันได้ ดังนั้นเมื่อปรากฏการณ์ระดับโลกมันสง่างามขนาดนี้ ความมั่นหน้ามั่นใจในฐานผู้ชมที่มาพร้อมจะติดตามเรื่องราวของ Marvel Studio ต่อไป ก็หายห่วงเลยค่ะ และเมื่อเรามาถึงยุคแห่งการรับชมคอนเทนต์ผ่านระบบ Streaming ก็ไม่แปลกเลยที่ Marvel จะนำ Original Content ของตัวเองลงผ่านช่องทาง Disney+ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของตัวเอง
การเปิดตัวของ Disney+ ในไทยซึ่งเป็นเวอร์ชั่น Hotstar ที่อาจจะมีความประดัดประเดิดของคุณภาพแพลตฟอร์มต่างจากของต่างประเทศอยู่เล็กน้อย แต่ Original Content จากทาง Marvel ที่นำมาลงนั้นก็เต็มไปด้วยเรื่องราวใหม่ๆ ที่จะสานต่อเรื่องราวต่อจาก Avengers ทั้งสิ้น และกลายเป็นหลักรายทางสำคัญที่ถ้าแฟนๆอยากจะตามเรื่องราวให้ครบถ้วน ก็ไม่สามารถพลาดได้เลยแม้แต่เรื่องเดียว
- WandaVision
เปิดประเดิมซีรีส์น้ำดีและถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น สนุกสนาน และเป็นเรื่องราวที่ถือว่าต้องดูก่อนชมภาพยนตร์เรื่อง Doctor Strange in the Multiverse of Madness เลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องราวเพียง 6 สัปดาห์ให้หลัง หลังจากจบสงคราม Endgame และดีดนิ้วเรียกทุกคนกลับมาแล้ว เมื่ออยู่ดีดีเกิดเหตุประหลาดขึ้นที่เมือง Westville อยู่ดีดีคนทั้งเมืองก็หายตัวไปกลายเป็นมีตัวตนเป็นคนอื่น เมืองทั้งเมืองถูกครอบเอาไว้ด้วยกลุ่มพลังงานประหลาด พลังงานที่สามารถจับรังสีออกมาเป็นละครซิตคอม
ทว่าละครซิตคอมนั้น เป็นหนึ่งในกลุ่มพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นโดย Wanda Maximoff หนึ่งใน Avengers ที่เธอรับมือกับการสูญเสียของ Vision คนรักของเธอ ด้วยการระเบิดพลังมหาศาลครอบคลุมไปทั่วทั้งเมืองและทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นละครซิทคอมขนาดใหญ่ พลังที่ว่ากันเป็นของแม่มดที่มีพลังอำนาจสูงสุด Scarlet Witch และนั่นเป็นที่มาของการปรากฏตัวของเธอในฐานะฮีโร่ที่มีพลังขั้นกว่าไปอีก และอาจจะกลายเป็น Avengers ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด
ตัวซีรีส์ประสบความสำเร็จทั้งในด้านคำวิจารณ์และกวาดรางวัล Emmys ไปแทบจะทุกสาขา ด้วยตัวซีรีส์ที่ออกแบบมาเป็นซิทคอมไล่มาตั้งแต่ยุค 50 จนมาถึงปัจจุบัน สอดรับไปกับการเล่าแบบหนังฮีโร่ Marvel ที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทำให้ตัวซีรีส์น่าสนใจ และเปิดเผยเรื่องราวที่ลึกกว่าภาพยนตร์ได้
- Loki
ต่อกันด้วย Loki ซีรีส์เรื่องราวแยกของตัวร้ายในจักรวาล MCU ที่ระหว่างสงคราม Endgame นั้น Loki จากไทม์ไลน์หนึ่ง ดันแอบเอา Tesseract มาจากกลุ่ม Avengers และหนีหายไป ซึ่งการกระทำของ Loki ดันถูกตรวจจับได้โดย TVA องค์กรกำกับเวลาอันยิ่งใหญ่ ที่คอยทำหน้าที่ควบคุมกระแสเวลาให้เป็นไปตามปกติ ซึ่งองค์กรนี้ ได้ตัดสินว่า Loki คือตัวแปร ที่ทำให้เส้นเวลาปั่นป่วน ตัวของเขานั้นถูกกำหนดมาให้ต้องตาย ไม่ได้ให้หนีมา แต่ทว่าเขาก็ได้พบกับ Mobius หนึ่งในเจ้าที่ TVA ที่ดึงตัวเขามาจากการตัดสิน เพื่อให้เขาลองช่วยตามหาอีกตัวแปรหนึ่ง ที่หลบหนีการจับกุมของ TVA มานาน และเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อองค์กร ซึ่งตัวแปรอีกตัวนั้น ก็คือตัว Loki เอง
การตามล่า Loki ด้วย Loki อีกตัวตนหนึ่ง จึงเกิดเป็นการผจญภัยไปในเส้นเวลาต่างๆของโลกและจักรวาล ซึ่งกลายเป็นซีรีส์ที่มีความสนุกสนานเกินคาด ความสนุกที่เกิดจากเส้นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ รวมไปถึงการถกเถียงในปรัชญาใหญ่ของโลก ก็คือเจตจำนงเสรีและเผด็จการ ในขณะที่ TVA อ้างว่าต้องกำกับเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์เพื่อไม่ให้เกิดความโกลาหลยุ่งเหยิง แต่ Loki ก็ตั้งคำถามว่า แล้วทำไมเราต้องตาย ในเมื่อเราเกิดมาแล้ว เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกชีวิตของเราเองได้ ไม่ใช่ให้ใครก็ไม่รู้ว่าตัดสินชี้เป็นชี้ตาย
ตัวซีรีส์ยังเปิดสิ่งที่เรียกว่า Multiverse เป็นครั้งแรก รวมถึงเรื่องของตัวแปรที่แตกต่างหน้าตากัน ก่อนจะถึงภาพยนตร์ Spider-Man : No Way Home เสียอีก กลายเป็นว่าซีรีส์เรื่องนี้ เป็นก้าวแรกก้าวสำคัญของ MCU ในเฟส 4 เลยก็ว่าได้
- Falcon and Winter Soldier
ลดระดับความแฟนตาซีลงมาที่ซีรีส์ที่พูดเรื่องฮีโร่บนท้องถนนบ้าง กับการที่ Sam ได้รับโล่กัปตันอเมริกามาจาก Steve ที่วางมือแล้ว เขาจึงกลายเป็นกัปตันอเมริกาคนใหม่ และเป็นคนผิวดำเสียด้วย จึงเกิดการตั้งคำถามจากสังคมอเมริกามากมายว่า “คนดำ” สมควรเป็นกัปตันอเมริกาหรือไม่ Sam จึงไม่อาจรับตำแหน่งนี้ไว้ได้ ทำให้ตำแหน่งถูกส่งต่อไปให้คนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ชาตินิยมกว่า และต่อต้านการก่อการร้ายแบบไม่มีคำว่าประณีประนอม
ซึ่งการก่อการร้ายที่ว่า กลับไม่ใช่ตัวร้ายแบบที่เป็นเรื่องเลวๆทั่วไป หากแต่เป็นกลุ่มแทนจากกลุ่มคนที่เคยถูกดีดนิ้วหายไป 5 ปี แล้วเมื่อกลับมาอีกที พบว่าตัวเองไม่มีที่อยู่ ไม่เป็นที่ต้อนรับ โดนสร้างกำแพงใส่ เมื่อการพูดคุยทางการเมืองไม่ถูกรับฟัง พวกเขาจึงเลือกวิธีใช้อำนาจนอกกติกา และตามฆ่าทุกคนที่จะลงคะแนนสนับสนุนการขับไล่พวกเขาออกไป แม้ว่าการอำนาจนอกกติกานั้น จะเป็นการซื้อขายอาวุธพิฆาตจาก Power Broker นายหน้าขายอาวุธลึกลับ ที่จะใช้ทำลายอเมริกาให้ราบคาบ
ซีรีส์เรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องราวของ Sam และ Bucky ที่กำลังรักษาอาการถูกควบคุมจาก Hydra ก็ต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้ และยุติการกดขี่นี้ให้หมดไป พร้อมกับการเป็นกัปตันอเมริกาผิวดำอย่างภาคภูมิที่ควรเป็นจริงๆ พุดถึงประเด็นทางการเมืองยิบย่อย และสถานการณ์บนความเป็นจริงบนโลก ที่นอกเหนือจากความแฟนตาซีของฮีโร่คนอื่นๆ
- What If…?
ถ้าหากว่ามี Multiverse จริงๆจาก Loki สิ่งที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากจักรวาลที่เราดูกันในหนัง MCU ทุกๆเรื่องที่ผ่านมา ก็ย่อมจะต้องมีเรื่องราวอื่นๆในจักรวาลคู่ขนานที่ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่อีกสิ What If…? จึงเป็นซีรีส์ “สมมติว่า…” ถ้าเกิดเรื่องราวที่เราเข้าใจ มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราเข้าใจล่ะ มีเรื่องราวแบบอื่นอีกไหม เช่น ถ้ากัปตันอเมริกากลายเป็นผู้หญิงในชื่อกัปตันคาร์เตอร์ ถ้า Thor เป็นแค่เทพเจ้าเกรียนๆที่แวะมาปาร์ตี้ที่โลก ธานอสเป็นเพียงลูกสมุนของแกงค์อเวนเจอร์ส หรือถ้าฮีโร่ทุกคนใน Avengers กลายเป็นซอมบี้?
เรื่องราวในพหุจักรวาลอันหลากหลายถูกเล่าผ่านสายตาของ The Watcher ผู้เฝ้ามองจักรวาลคู่ขนานขนาดใหญ่ เขามองเห็นเรื่องราวที่ซ้อนทับกันไปมามากมาย มาเล่าให้กับคนดูฟัง แต่ทว่าเรื่องราวที่เหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันนั้น กับบานปลาย กลายเป็นสงครามระหว่าง Multiverse ครั้งแรกเสียอย่างนั้น เขาจึงต้องยุติบทบาทผู้เฝ้ามอง และกลายเป็นคนรวมทีม Avengers เฉพาะกิจ เพื่อยุติภัยคุกคามระดับ Multiverse ครั้งนี้ ให้จบลงด้วยดีให้ได้
ซีรีส์ที่แปลกแหวกแนวเรื่องนี้ถูกนำเสนอผ่านรูปแบบการ์ตูน แต่ทว่าถูกนับรวมเป็นจักรวาลเดียวกันกับ MCU เรื่องอื่นๆ และด้วยความเป็นการ์ตูน การเล่าจึงสามารถบ้าพลังและมีอิสระและความเป็นไปได้มากมายเกิดขึ้นด้วย รวมถึงการเชิญนักแสดงใน MCU มาเป็นผู้ให้เสียงพากษ์อีกต่างหาก
- Hawkeye
ซีรีส์เรื่องนี้ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยบรรยากาศคริสต์มาส เปิดตัวละครใหม่อย่าง Kate Bishop ลูกคุณหนูบ้านรวย ที่เคยรอดชีวิตจากเหตุการณ์ใน Avengers ภาคแรก เธอหลงใหล Clint Barton หรือ Hawkeye นักธนูที่ไม่มีพลังพิเศษอะไร เพียงแค่คุนธนูและศร ก็สามารถร่วมปกป้องโลกไว้ได้ เธอจึงเติบโตมาและอยากจะเป็นเหมือนเขา
ในขณะที่ Clint Barton ต้องใช้เวลาในวันหยุดกับลูกๆในนิวยอร์กเพื่อฉลองคริสต์มาสแต่ทว่าเขาก็ต้องเผชิญกับแกงค์ Track Suit ที่เผอิญได้เก็บชุดของเขาสมัยที่เป็น Ronin เอาไว้ ชุดที่เป็นหลักฐานว่าเขาเคยตั้งตัวเป็นศาลเตี้ย ฆ่าคนไปมากมายช่วงที่คนถูกดีดนิ้วหายไป 5 ปีพร้อมด้วยครอบครัวของเขา อดีตที่เขาพยายามจะไล่กลบนั้นมาไล่ล่าเขา พร้อมกับดึง Kate Bishop เข้ามาพัวพัน เมื่อเธอได้เจอเข้ากับไอดอลที่เธอชอบมาตลอด เธอจึงอยากสืบทอดการเป็น Hawkeye จากเขา และร่วมจัดการปัญหานี้เพื่อเขา รวมถึงการต้องเผชิญหน้ากับ Black Widow คนใหม่อย่าง Yelena อีกด้วย
เป็นซีรีส์ที่มาพร้อมบรรยากาศคริสต์มาสที่ทำให้เรื่องราวน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงเปิดตัวฮีโร่คนใหม่อย่าง Kate Bishop ที่เป็น Young Avengers ทีมใหม่คนแรกนั่นเอง
- Moon Knight
เพิ่งจบไปได้ไม่นานกับซีรีส์ที่ฉีกแปลกแหวกแนว อย่างอัศวินตัวแทนแห่งดวงจันทร์ที่ไม่ใช่เซเลอร์มูน แต่เป็นการพาคนดูไปสำรวจพื้นที่ใหม่ คนใหม่ๆอย่าง Steven หนุ่มเฉิ่มที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานร้านกิต์ช้อปในพิพิทธภัณฑ์กลางกรุงลอนดอน เขาหลงใหลในเรื่องราวเทพอียิปต์เป็นอย่างมาก แต่ทว่าในทุกๆคืน เขามักจะมีอาการละเมอเดิน และเหนื่อยหอบ เหมือนกับว่าร่างกายของเขาไม่ได้อยู่ที่เตียง แต่ได้ออกเดินทางไปในยามราตรีเพื่อทำเรื่องบางอย่างที่เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆคือตัวตนเขาอีกตัวตนนึงอย่าง Marc เขารับพลังจากเทพอียิปต์ Khonshu ที่ทำให้ตัวเขาเป็นร่างทรงของพลังวิเศษ อัศวินแห่งรัตติกาลผู้ซึ่งต้องต่อสู้กลุ่มลัทธิที่จะฟื้นคืนชีพเทพ Ammeat เทพีแห่งการชำระล้างบาป เธอจะตื่นขึ้นเพื่อตัดสินชะตาของคนทั้งโลก เริ่มต้นที่อียิปต์เป็นต้นไป Steven และ Marc จึงต้องต่อสู้ในร่างของ Moon Knight ไปพร้อมกับการค้นพบว่าตัวของเขาเองนั้น มีอาการป่วยทางจิต และต้องผจญภัยไปกับในเรื่องราวลึกลับสยองขวัญในดินแดนอียิปต์ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังนั่นเอง
ซีรีส์ Marvel เรื่องนี้มาในรูปแบบที่แปลก แหวกแนวกว่าเรื่องอื่นๆด้วยกลิ่นสยองขวัญผจญภัย ผสมความป่วยไข้ และยังได้นักแสดงอย่าง Isaac Oscars ที่รับบทคนป่วยเป็นโรคสองบุคคลิกได้อย่างน่าทึ่ง จนเป็นกระแสชื่นชมการแสดงของเขาไปทั่วโลกเลยทีเดียว
แน่นอนว่าทั้ง 6 เรื่อง ล้วนเป็นซีรีส์ที่ตีคู่มากับการฉายภาพยนตร์ MCU ทั้งสิ้น 4 เรื่องด้วยกันในเฟสที่ 4 ได้แก่ Shang-Chi Legend of the ten rings, Eternals, Spider-Man : No Way Home และล่าสุด Doctor Strange in the Multiverse of Madness ซึ่งซีรีส์ทั้ง 6 เรื่อง มีทั้งส่วนที่เชื่อมต่อกับภาพนตร์ชนิดที่ถ้าไม่ดู ก็จะตามไม่ทัน และทั้งส่วนที่เปิดประตูบานใหม่ ให้ไปสู่เรื่องราวที่กว้างขึ้น
ก็ต้องนับว่าคราวนี้ ใครเป็นแฟนของ Marvel Studio ก็ต้องรีบไปตามเก็บให้ครบ เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องราวต่างๆของซีรีส์ที่เสริมเติมเรื่องราวให้เต็มอรรถรสมากขึ้นไปอีก ถ้าเธอตามไม่ทันล่ะก็ เธอจะพลาดไม่ไหวเลยนะ เพราะเขาไปต่อไม่รอแล้วนะ
เหยี่ยวเทย รายงาน