ผู้กำกับ Top Gun: Maverick เจรจาสร้างหนังวงการแข่งรถ F1 ที่นำแสดงโดย Brad Pitt
ข่าวใหญ่วันนี้คือ ความร้อนฉ่าของผู้กำกับ Joseph Kosinski แห่ง Top Gun: Maverick หลังจากที่ปลุกตำนานหนังของ Tom Cruise ให้กลับมาผงาดบนตาราง Box office พร้อมกับคำวิจารณ์อันยอดเยี่ยมแล้ว ในตอนนี้เขากำลังมีอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ที่กำลังเจรจาจะทำให้ Apple TV+ คือหนังเกี่ยวกับการแข่งรถ Formula 1 ที่จะแสดงนำโดย Brad Pitt และอำนวยการสร้างโดย Jerry Bruckheimer ที่เพิ่งร่วมกันปลุกชีพ Top Gun ไปสดๆร้อนๆ
ที่บอกว่ามันเป็นข่าวใหญ่เพราะ Joseph Kosinski เพิ่งทำหนังร่วมกับ Tom Cruise ไป และข่าวลือที่มีมาช้านานเกี่ยวกับความไม่กินเส้นกันของสองดาราใหญ่ Tom Cruise กับ Brad Pitt ตั้งแต่พวกเขาร่วมงานกันใน Interview with the Vampire ปี 1994 ก็ดูเหมือนว่าโลกของทั้งคู่จะไม่เคยมาบรรจบกันอีกเลยทั้งที่ฮอลลีวู้ดก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมาย
สำหรับโปรเจ็กต์หนัง F1 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น จะมีเซอร์ Lewis Hamilton แชมป์โลก F1 เจ็ดสมัย ทั้งร่วมแสดงและอำนวยการสร้าง โครงเรื่องหลวมๆหนังจะพูดถึงอดีตนักแข่ง F1 ปลดระวาง ที่จะรับบทโดย Brad Pitt เขากลับเข้าสู่วงการแข่งรถอีกครั้งในฐานะผู้ฝึกสอนของนักแข่งรุ่นน้องที่จะรับบทโดย Lewis Hamilton
โปรเจ็กต์นี้เป็นของสตูดิโอ Plan B ของ Brad Pitt เอง มันเคยสร้างความโกลาหลในฮอลลีวู้ดมาแล้วเพราะสตูดิโอใหญ่ๆแย่งกันขอจัดจำหน่าย สุดท้ายเป็น Apple ที่คว้าลิขสิทธิ์ไปทั้งฉายโรงและสตรีมมิ่ง โดยมูลค่าที่ทาง Apple ประมูลโปรเจ็กต์มานั้นสูงถึง 130 ล้านเหรียญ เลยทีเดียว
นี่ไม่ใช่โปรเจ็กต์แห่งการวัดศักดิ์ศรีดาราใหญ่อะไรของ Brad Pitt กับ Tom Cruise เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน Brad Pitt อยากทำหนังเกี่ยวกับการแข่งรถร่วมกับผู้กำกับ Joseph Kosinski นานแล้ว เพราะเขาคลั่งไคล้ในการแข่งรถมานานแล้ว จึงเกิดเป็นโปรเจ็กต์ยักษ์อย่าง Go Like Hell ที่จะนำเอา Brad Pitt กับ Tom Cruise มาแสดงร่วมกัน เพราะ Tom Cruise เองก็เคยร่วมงานกับ Joseph Kosinski ใน Oblivion ปี 2013 ทั้งคู่เกือบได้มาปะทะกัน แต่ก็ถอนตัวแยกย้ายไปทำงานของใครของมัน แล้ว Go Like Hell ก็ไปต่อในมือของผู้กำกับ James Mangold แล้วออกมาเป็น Ford V Ferrari ที่นำแสดงโดย Matt Damon กับ Christian Bale อย่างที่เห็นกัน
ดังนั้นข่าวลือที่ว่าทั้งคู่ไม่ถูกกัน ไม่น่าจะเป็นความจริง แค่เดินไม่ทับรอยกัน ต่างคนต่างมีบริษัททำหนังของตัวเอง และค่าตัวโหดพอๆกัน การจับทั้งคู่มาชนกันในหนังเรื่องเดียวกันถือว่าต้องบ้าจริงๆ และพวกเขาเคยเจอกันตามงานก็ยังทักทายกันดี
หากบรรลุข้อตกลงจากทุกฝ่าย หนังจะใช้มือเขียนบทอย่าง Ehren Kruger จาก Top Gun: Maverick กลับมาทำหน้าที่ละเลงบทอีกครั้ง ด้วยความที่หนัง Top Gun: Maverick ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้นักวิเคราะห์คิดว่า Apple ได้สิทธิ์ไปในราคา 130 ล้านเหรียญ นั้นถือเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้รับหลังโปรเจ็กต์หนัง F1 เรื่องนี้เข้าฉาย