เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

“เครื่องฟอกอากาศ” จำเป็นสำหรับคนเป็น “ภูมิแพ้” หรือไม่?

“เครื่องฟอกอากาศ” จำเป็นสำหรับคนเป็น “ภูมิแพ้” หรือไม่?

“ตื่นเช้ามาก็น้ำมูกไหล เสมหะเต็มคอ จามฟืดฟัดเสียแล้ว” มีใครที่มีอาการแบบนี้แทบจะทุกวันอยู่หรือเปล่า? หลายคนที่มีอาการแบบนี้อาจสันนิษฐานได้ว่าเกิดมาจากโรคภูมิแพ้กำเริบ และเมื่อรู้สึกว่าอากาศในห้องนอนอาจเป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้กำเริบในทุกๆ เช้า จึงสนใจที่จะติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนอน แต่อันที่จริงแล้วเครื่องฟอกอากาศให้ผลดีต่อผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มากน้อยแค่ไหน

 

เครื่องฟอกอากาศ ช่วยลดอาการภูมิแพ้?

ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจโรคภูมิแพ้กันก่อนว่า ผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อะไร หากเป็นภูมิแพ้เกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ สปอร์เชื้อรา ก็อาจจะพอช่วยได้บ้าง แต่หากไม่ได้เป็นภูมิแพ้ต่อสิ่งเหล่านี้ เช่น ไรฝุ่น แพ้แมลง แพ้อาหาร เครื่องฟอกอากาศก็คงจะไม่ได้ช่วยให้อาการดีขึ้น

ไรฝุ่นมีอนุภาคขนาดใหญ่ มักตกลงสู่พื้นหลังจากลอยตัวอยู่ในอากาศภายใน 5 นาที ดังนั้นการทำความสะอาดทั่วไปก็ช่วยกำจัดไรฝุ่นได้ ส่วนใหญ่ไรฝุ่นแฝงตัวอยู่ในที่นอน และพื้นที่แคบๆ ตามซอกหลืบมากกว่า

นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศจะให้ผลดีต่อเมื่อใช้ความละเอียดในการกรองสูงมาก หรือเป็น HEPA filter ที่กรองได้ตั้งแต่ 0.3 ไมครอน (ไรฝุ่น 250 micron) ดังนั้นหากประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศไม่ดีพอ ก็อาจจะไม่ได้ผลต่ออาการภูมิแพ้ของเราได้เช่นกัน

 

จัดห้องนอน สำหรับคนเป็นภูมิแพ้

นอกจากเครื่องฟอกอากาศแล้ว การจัดห้องนอนก็ช่วยให้อาการของโรคภูมิแพ้ดีขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งสำคัญกว่าการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศมาก หากสามารถจัดห้องนอนตามนี้ได้ ก็อาจจะไม่ต้องติดตั้งเครื่องฟอกอากาศก็ได้

  • จัดห้องนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เก็บของไว้ในห้องนอนมากเกินไป จำเอาไว้ว่าห้องนอนยิ่งเปิดโล่ง ยิ่งดีต่อคนที่เป็นโรคภูมิแพ้

  • ทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน อาจจะกวาดห้องหรือดูดฝุ่นทุกวัน วันเว้นวัน และอย่าลืมถูพื้นด้วย

  • เครื่องนอนนุ่มๆ ควรใช้เป็นใยสังเคราะห์ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องนอน หมอน ผ้าห่มต่างๆ ที่ทำจากนุ่น เพราะนุ่นเก็บฝุ่นได้มากกว่า

  • ไม่ควรมีตุ๊กตาที่มีขน พรม และหนังสือในห้องนอน เพราะเป็นตัวเก็บฝุ่นที่ดีมาก

  • ไม่นอนร่วมกับสัตว์เลี้ยง เพราะขนของสัตว์เลี้ยงอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ (ในรายที่แพ้ขนสัตว์)

  • ใช้เตียงที่มีขาลอย ใต้เตียงโล่ง สามารถล้วงเข้าไปทำความสะอาดได้ง่าย

  • หันหัวเตียงไปทางจุดที่แสงส่องถึง และมีลมพัดผ่านได้

  • อย่าวางเตียงใกล้ห้องน้ำ เพราะความชื้นจากห้องน้ำจะทำให้ป่วยได้ง่าย

  • ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้าห่ม ผ้าม่าน ควรซักบ่อยๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อเป็นการกำจัดไรฝุ่นตามเตียง ถ้าเป็นไปได้ควรซักในน้ำร้อน

  • นำที่นอน หมอน ตุ๊กตาออกมาตากแดดบ้างราวสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเป็นการกำจัดไรฝุ่น

  • ทำความสะอาดใบพัดลม 1-2 อาทิตย์ต่อครั้ง หรือทุกครั้งที่เห็นฝุ่นเกาะ และล้างแอร์ทุกๆ 6 เดือน
  •  

    การนอนของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้

    หากแน่ใจว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้ฝุ่น การสัมผัสโดนอากาศจากเครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมโดยตรงอาจทำให้อาการกำเริบได้ วิธีที่พอจะได้ผลดีอยู่บ้าง คือการเปิดเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้ก่อนเข้าห้องนอน 2-3 ชั่วโมง เมื่อจะเข้านอนให้ปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วเปิดพัดลมแทน โดยหันพัดลมไปทางอื่นที่ไม่โดนศีรษะตรงๆ หรือหากใช้เครื่องปรับอากาศที่สามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้ ก็สามารถตั้งเวลาปิดในตอนกลางคืนหลังจากนอนหลับไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นพัดลมก็ได้

     

    อย่างไรก็ตาม โรคภูมิแพ้จะดีขึ้นได้ หากเราออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เป็นประจำ โดยแนะนำให้ออกกำลังกายทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง ทั้งการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และต่อสู้กับสิ่งที่ทำให้แพ้เหล่านี้ได้ อาการภูมิแพ้ก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

    วิธีปฐมพยาบาล “เลือดกำเดาไหล” ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร

    วิธีปฐมพยาบาล “เลือดกำเดาไหล” ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร

    เลือดกำเดา คือ เลือดที่ไหลออกมาจากโพรงจมูก ไม่ว่าจะเป็นข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็ก และผู้ใหญ่ และต้องหยุดเลือดอย่างถูกวิธี

    ฝุ่น PM 2.5 กับผลกระทบทาง \

    ฝุ่น PM 2.5 กับผลกระทบทาง "ผิวหนัง" แสบ-คัน-เป็นผื่น

    คงไม่มีใครนึกถึงว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก อย่าง PM 2.5 ที่ทำให้เกิดปัญหาในหลายพื้นที่อยู่ตอนนี้จะส่งผลกระทบต่อผิวหนังของเราด้วย