เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

คำแนะนำ “ทางการแพทย์” กับ 5 สิ่งที่ควรทำเมื่อ “อกหัก”

คำแนะนำ “ทางการแพทย์” กับ 5 สิ่งที่ควรทำเมื่อ “อกหัก”

เราน่าจะเคยได้ยินใครหลายๆ คนเคยบอกเอาไว้ในทำนองว่า “อกหักไม่ถึงกับตาย” แต่ใครที่เคยอกหักจะเข้าใจดีว่ามันทรมานใจมากๆ จนถึงขั้นจะบ้าตายได้ กว่าที่เราๆ จะหลุดพ้นช่วงอกหักมามันยากลำบากกว่าที่ใครหลายๆ คนคิด บางคนที่ได้กำลังใจดี ได้เพื่อน ได้ครอบครัวที่ดี ก็อาจจะฟื้นตัวเร็ว แต่ก็มีหลายคนที่ทำใจไม่ได้ จนทำร้ายตัวเอง หรือตัดสินใจทำอะไรไม่ดีหลายๆ อย่างลงไป โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำอะไรอย่างนั้นมาก่อนในชีวิต

เมื่ออาการอกหักส่งผลกระทบต่อจิตใจของเราได้มากขนาดนี้ ก็ไม่แปลกอะไรที่บางคนจะขอคำปรึกษาจากแพทย์ ในทางการแพทย์แล้ว เราสามารถเยียวยารักษาจิตใจของตัวเองจากอาการอกหักได้ง่ายๆ Sanook! Health จึงมีคำแนะนำสำหรับคนที่อกหักเอาไว้ ดังนี้

  • ออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน Endorphins ที่ทำให้ให้เรารู้สึกดี มีความสุข นอกจากจะส่งผลต่อจิตใจ และสมองของเราแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง ได้หุ่นกระชับสวย หรือกล้ามแน่นๆ มาเป็นของเราอีกด้วย

  • หาเวลาทำอะไรที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่ อยากทำแต่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น ลงเรียนคอร์สฝึกภาษาเพิ่ม ลงคอร์สเย็บปักถักร้อย วาดภาพระบายสี เรียนทำอาหาร หรือออกไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะทำให้ร่างกายกระตุ้นฮอร์โมน Adrenalin ที่ทำให้เรารู้สึกตื่นตัว ตื่นเต้นจนลืมเศร้าได้

  • เพิ่มความอบอุ่นจากสายใยของครอบครัว และเพื่อนที่รักเราด้วยการกอด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน Oxytocin ที่ช่วยชดเชยความอบอุ่นในจิตใจที่ขาดหายไปได้

  • ทำกิจกรรมที่ทำให้เราต้องลุ้นกันตัวโก่ง ไม่ว่าจะเป็นการชมละคร หรือซีรี่ส์ที่เรื่องราวพลิกล็อกหักมุม หรือกิจกรรมง่ายๆ อย่างการซื้อล็อตเตอรี่เพื่อลุ้นรางวัล (แต่ควรมีสติในการซื้อให้มากๆ ด้วยนะ)

  • อย่าลืมดื่มน้ำให้เยอะขึ้น เพื่อชดเชยกับน้ำตาที่เสียไป พักผ่อนให้มากขึ้น และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น เน้นโปรตีนไขมันน้อย ผัก และผลไม้สด (ไม่ทานแบบแยกกากที่ได้แต่น้ำตาล) เพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย หลังจากที่เราอาจจะทรมานตัวเองด้วยการไม่ทานข้าวทานปลา หรือไม่หลับไม่นอนมานานแสนนาน
  • ทั้งนี้ หากใครที่ไม่สามารถออกมาจากโลกแห่งความมืดที่ตัวเองสร้างขึ้นมาหลังจากอกหักได้จริงๆ แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์ได้ที่ สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย หรือติดต่อไปที่สายด่วนสุขภาพจิต โทร 1323 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง