เหตุผลที่ Game of Thrones หันมาทำเป็นซีรีส์หลายตอน นั้นเป็นเพราะกลัวว่าทำเป็นภาพยนตร์แล้วมันจะเจ๊ง
Game of Thrones ซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากนิยาย A Song of Ice and Fire ของ George R.R. Martin นั้น เกือบจะถูกทำเป็นภาพยนตร์ไตรภาคแล้วในความคอดแรก แต่หลังจากเห็นความล้มเหลวของภาพยนตร์เรื่อง The Golden Compass ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชุด His Dark Materials ของ Philip Pullman พวกเขาก็ตัดสินใจมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ซีรีส์หลายๆตอนแทน
ภาพยนตร์เรื่อง The Golden Compass เมื่อปี 2007 มีการทุ่มทุนสร้างมหาศาลถึง 180 ล้านดอลลาร์ แต่หนังกลับให้ผลตอบแทนได้ไม่น่าพึงพอใจนัก มันทำรายได้ภายในอเมริกาไปแค่ 70 ล้านดอลลาร์เท่านั้น และถึงแม้จะทำรายได้ทั่วโลกไปที่ 372 ล้านดอลลาร์ มันก็ดูไม่คุ้มกับทุนสร้างอยู่ดี โดยเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้มันล้มเหลวนั้นเป็นเพราะว่าภาพยนตร์มีการตัดเนื้อหาจากหนังสือนิยายไปหลายส่วนเพื่อให้สามารถเล่าเรื่องราวได้ภายในการฉายเวลา 2 ชั่วโมง
จากความล้มเหลวของเรื่อง The Golden Compass นี้ ก็ทำให้ทีมผู้สร้าง Game of Thrones ตัดสินใจมาทำเป็นภาพยนตร์ซีรีส์หลายๆตอนแทน เพื่อที่จะได้เล่าเรื่องราวได้ครบถ้วน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเมื่อเนื้อหาภายในนิยายนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง มืดหม่น แถมยังมีเรื่องผิดศีลธรรมด้วย ทาง David Benioff และ D.B. Weiss ผู้สร้างซีรีส์จึงนำสิทธิ์ในการสร้างมาอยู่ในความดูแลของ HBO จนมันประสบความสำเร็จอย่างที่เราได้เห็นกันไป
ในตอนนี้แฟรนไชส์ซีรีส์ Game of Thrones ได้ผลิตภาพยนตร์ซีรีส์ภาคใหม่ออกมาให้เราได้ชมกันอีกแล้วในชื่อ House Of Dragon ซึ่งมันจะเป็นเรื่องราวก่อนที่จะมาถึงเหตุการณ์ใน Game of Thrones นี่เอง
สามารถไปหาชมกันได้ที่ HBO Go
