เนื้อหาในหมวด กีฬา

\

"ก้องศักด" เร่งดัน พรบ.ควบคุมสารต้องห้ามทางการกีฬา ให้สอดคล้องกับ WADA

ตามที่องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) ประกาศไม่ให้การรับรอง ไทย, เกาหลีเหนือ และอินโดนีเซีย โดยประเทศไทยยังไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย  ซึ่งจะส่งผลต่อการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ทั้งระดับภูมิภาค ทวีป หรือระดับโลก

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อยู่ระหว่างการรับการประเมินผลการดำเนินการการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่

1. Audit Programs เป็นการตรวจสอบประเมินการปฏิบัติงานของสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ซึ่ง กกท.ได้ดำเนินการแก้ไข และการปฏิบัติงานตามข้อเสนอแนะของ WADA และยังอยู่ในระหว่างการตรวจประเมินของ WADA ซึ่งจะสิ้นสุด ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564

2. Continuous Monitoring Program ซึ่ง WADA ได้ให้การรับรองกฎการต่อต้านการใช้ สารต้องห้ามของสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เรียบร้อยแล้ว

3. พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ซึ่ง WADA ได้ทำการตรวจสอบพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 พบว่า มีข้อกำหนด ในบางมาตราที่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตามที่ประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ฉบับ ค.ศ. 2021 กำหนดไว้

ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ได้เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี โดยในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 โดยคณะรัฐมนตรี มีมติมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ร่วมกันพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555

อาทิ การกำหนดให้หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมการใช้สารต้องห้ามของประเทศไทย เป็นหน่วยงานอิสระ  แก้ไขบทนิยามเกี่ยวกับสารต้องห้ามทางการกีฬา เป็นต้น โดยให้สอดคล้องกับประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก โดยให้พิจารณารูปแบบความเหมาะสมที่จะตราเป็นกฎหมายตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือตราเป็นพระราชกำหนดตามมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไปโดยเร็ว

ซึ่งหากประเทศไทยดำเนินการแก้ไขกฎหมายล่าช้า จะส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถส่งนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ หรือเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติได้ อันจะทำให้กระทบต่อวงการกีฬาของประเทศ และภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อนานาประเทศ รวมทั้ง อาจสูญเสียมูลค่าทรัพย์สินทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก จึงสมควรแก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ภายใน 3 – 4 เดือน โดยขณะนี้ การดำเนินการอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ชมฟรีถึงบ้าน! \

ชมฟรีถึงบ้าน! "พีพีทีวี" ยิงสดศึกลูกยาง "ออลสตาร์ ซูเปอร์แมตช์" วันที่ 19-20 เม.ย.นี้

พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 เตรียมยิงสดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงรายการพิเศษ “2025 Korea-Thailand Women’s Pro Volleyball All-Star Super Match in Hwaseong” ศึกซูเปอร์แมตช์ระหว่างทีมนักตบสาวทีมชาติไทย ปะทะนักตบสาวแดนกิมจิ เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 - 20 เมษายน 2568 ณ เมืองฮวาซอง ประเทศเกาหลีใต้

กำลังใจนอกสนาม! คนนี้ไง \

กำลังใจนอกสนาม! คนนี้ไง "สาวคนสนิทกุลวุฒิ" นักแบดมินตันชายเบอร์ 1 ของไทย

ถือเป็นอีกหนึ่งลมใต้ปีกที่คอยซัปพอร์ตอย่างเงียบๆ สำหรับ "น้องปิ๋ม" สาวคนสนิทของ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายมืออันดับ 2 ของโลก

เปิดประวัติ \

เปิดประวัติ "วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์" นักแบดมินตันชายเบอร์ 1 ของไทย

สิบตำรวจโท กุลวุฒิ วิทิตศานต์ หรือที่แฟนกีฬาเรียกกันว่า "วิว" เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 เขาเติบโตในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นโค้ชแบดมินตัน

ยอมรับสภาพ! \

ยอมรับสภาพ! "ลู่ กวางซู" เปิดใจหลังแพ้ "วิว กุลวุฒิ" ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025

"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทย กลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วเอเชียเมื่อสามารถคว้าแชมป์รายการ เอเชีย แชมเปี้ยนชิพ 2025 มาครองได้สำเร็จ

จารึกประวัติศาสตร์ไทย! BWF ประกาศอันดับโลกใหม่ \

จารึกประวัติศาสตร์ไทย! BWF ประกาศอันดับโลกใหม่ "วิว กุลวุฒิ" อย่างเป็นทางการ

สร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จสำหรับ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทยที่กลายเป็นนักกีฬาชายคนแรกของประเทศไทยที่สามารถทำอันดับโลกสูงที่สุด