6 ภาวะแทรกซ้อนอันตรายจาก “ความดันโลหิตสูง”
ผู้สูงอายุ และวัยทำงานหลายคน มีความเสี่ยงภาวะ “ความดันโลหิตสูง” และพบได้เป็นจำนวนมาก เพราะความดันโลหิตสูงมีสาเหตุมาจากอาหารการกินที่อาจไม่ถูกสัดส่วน หนักของมันของทอดของเค็ม รวมถึงภาวะอ้วน น้ำหนักเกินมาตรฐานเป็นเวลานาน รวมไปถึงความเครียดสะสมจากการทำงาน และการขาดการออกกำลังกายที่เพียงพอ ที่เป็นปัจจัยที่ทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นกว่าคนธรรมดาทั่วไป
>> "ความดันโลหิตสูง" ฆาตรกรเงียบ อันตรายถึงชีวิตหากไม่รีบรักษา
อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของอาการความดันโลหิตสูง เพราะอาจจะยังไม่ออกอาการเจ็บป่วยอะไรชัดเจนมากนัก แต่อันที่จริงแล้วความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุของโรคร้ายหลายโรค และยังเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้อีกด้วย
ภาวะแทรกซ้อนอันตรายจาก “ความดันโลหิตสูง”
เมื่อความดันโลหิตสูงขึ้นจนหลอดเลือดแดงในสมองเกิดอาการอุดตัน จนทำให้เลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงสมองผ่านหลอดเลือดสมองได้ จึงทำให้สมองขาดเลือด และทำงานได้ไม่ปกติ หากความดันในหลอดเลือดมากขึ้น อาจเสี่ยงหลอดเลือดสมองแตกจนเสียชีวิตได้อีกด้วย
หากหัวใจต้องทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายมากขึ้น เพราะต้องสู้กับแรงดันในหลอดเลือด หัวใจอาจทำงานหนักจนกล้ามเนื้อหัวใจหนา และหัวใจโตขึ้น หัวใจสูบฉีดเลือดได้ยากขึ้น จนสุดท้ายหัวใจอาจไม่สามารถทำหน้าที่สูบฉีดเลือดได้ดีมากพอ จนระบบการทำงานล้มเหลวในที่สุด
ความดันของหลอดเลือดในดวงตา อาจทำให้จอตาแตก หรือมีเลือดออกได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสายตาของผู้ป่วยที่อาจผิดปกติ หรืออาจถึงขั้นตาบอดได้
ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุของหลอดเลือดในสมองถูกดันจนโป่ง พอง นูน มีเลือดออก จนกระทั่งฉีกขาดจนทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาต หรือเสียชีวิตได้
เป็นกลุ่มอาการที่ทำให้ร่างกายมีระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายผิดปกติ ไขมันสะสมในร่างกายมากกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง รอบเอวเพิ่มอย่างรวดเร็ว ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง ไขมันดีต่ำ ระดับอินซูลินสูง ซึ่งทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองได้
นอกจากเรื่องของการทำงานของหลอดเลือดต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงแล้ว การทำงานของสมองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ความสามารถในการจำ คิด และวิเคราะห์ลดน้อยลง รวมถึงความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็เป็นปัญหาด้วยเช่นกัน
เคล็ดลับการลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูง
>> วิธี "วัดความดันโลหิต" ด้วยตัวเอง ทำอย่างไรให้ถูกต้อง