เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

จาม-คัดจมูก-ไม่สบายบ่อย เสี่ยง “จมูกอักเสบภูมิแพ้” ไม่รักษาอาจแย่ลง

จาม-คัดจมูก-ไม่สบายบ่อย เสี่ยง “จมูกอักเสบภูมิแพ้” ไม่รักษาอาจแย่ลง

ใครที่เป็นโรคภูมิแพ้คงจะต้องทนทรมานกับอาการ “แพ้อากาศ” กันอยู่บ่อยๆ แม้ว่าอาการจะไม่ได้หนักถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล แต่การนั่งๆ อยู่แล้วคัดจมูก จาม น้ำมูกไหลจนจมูกแดงอยู่บ่อยๆ ก็อาจทำให้เราใช้ชีวิตได้ลำบากขึ้น เพราะในบางครั้งเราก็ต้องทำงานพบปะผู้คนในสภาพที่ร่างกายพร้อมที่สุด คุยไปสูดน้ำมูกไปคงไม่ดีแน่ๆ

อาการที่ว่านี้ เป็นอาการของโรค “จมูกอักเสบภูมิแพ้”

 

โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ คืออะไร?

อ.นพ. มงคล สมพรรัตนพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ สาขาวิชาโรคภูมิแพ้ และอิมมูโนวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เป็นโรคภูมิแพ้ที่เจอได้บ่อยถึงหนึ่งในสามขอคนไทย เป็นการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก ซึ่งมีสารตัวกระตุ้นเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยในอากาศที่เราหายใจ

 

กลุ่มเสี่ยงโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้

ปัจจุบันกลุ่มอายุที่พบว่าเป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น จนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนน้ต หรือวัยเริ่มทำงาน สามารถพบได้ในเด็กเล็กเช่นเดียวกัน หากมีการควบคุมโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ไม่ดี ในบางรายอาจพบว่ามีอาการแพ้สารก่อภูมิแพ้อย่างอื่นเพิ่มเติม เช่น อาจกลายเป็รโรคหืดจากภูมิแพ้ตามมาได้

สำหรับในวัยผู้ใหญ่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะอาการของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตการทำงานได้

 

สาเหตุของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้

  • สูดดมเอาสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย เช่น ควันบุหรี่ ไอเสียรถยนต์ ครื่องสำอาง น้ำหอม สเปรย์ใส่ผม น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ คลอรีนในสระว่ายน้ำ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้ในบริเวณบ้าน เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยง

  • ปัจจัยทางพันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ เราก็อาจมีความเสี่ยงที่จะแพ้ต่อสิ่งๆ นั้นได้เช่นเดียวกัน

 

อาการของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้

  • มีน้ำมูกไหล เป็นน้ำมูกใสๆ มีความหนืดไม่มากนัก

  • คันจมูกฟึดฟัด คัดจมูก หายใจไม่สะดวก

  • จามบ่อยๆ จามติดต่อกันหลายครั้ง
  •  

    อันตรายจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้

    หากเป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้แล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง หรือปล่อยให้มีอาการต่อไปเรื่อยๆ นอกจากคุณภาพชีวิตจะแย่ลงอย่างต่อเนื่อง เหมือนเป็นหวัดอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังเสี่ยงที่จะมีอาการหนักขึ้นจนเป็นโรคอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น โรคหืด โณคไซนัสอักเสบ เป็นต้น

     

    วิธีวินิจฉัยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้

    แพทย์จะทำการซักประวัติผู้ป่วย สอบถามอาการที่เกิดขึ้น ส่องดูเยื่อบุโพรงจมูกว่ามีอาการบวม หรือักเสบหรือไม่ และอาจส่งไปทำการทดสองภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วยวิธีสะกิด ทาน้ำยาทดสอบลงบนท้องแขนเพื่อตรวจดูว่ามีอาการแพ้กับสิ่งใดบ้าง (ผู้ป่วยควรมาทดสอบขณะที่ร่างกายอยู่ในสภาพดี ไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไรที่อยู่ในภาวะที่คุมไม่ดี และงดทานยาแก้แพ้มาก่อนทำการทดสอบราว 1 สัปดาห์) และวัดขนาดของตุ่มที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง หากตุ่มบนผิวหนังมีขนาดมากกว่า 3-5 เซนติเมตร ก็จะถือว่าผู้ป้วยมีอาการแพ้ต่อสารนั้น

     

    วิธีรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้

  • หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

  • ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อกำจัดเอาน้ำมูก และสารก่อภูมิแพ้ที่ตกค้างอยู่ในจมูกถูกชะล้างออกไป

  • รักษาด้วยยา ปัจจุบันมียาพ่นจมูกที่สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือมีอาการอย่างต่อเนื่อง

  • หากพยายามเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หรือใช้ยาพ่นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ยังสามารถฉีดวัคซีนภูมิแพ้ได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่มีต่อการรักษาผู้ป่วยเป็นรายๆ ไป
  •  

    วิธีป้องกันโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้

  • พยายามกำจัดฝุ่นตามพรม ผ้าเช็ดเท้า ชั้นหนังสือ หัวเตียง ใต้เตียง ขอบหน้าต่างประตู ขอบตู้ ฯลฯ ด้วยการดูดฝุ่น หรือเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด

  • เปลี่ยนผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนเป็นแบบกันไรฝุ่นที่มีเส้นใยที่ทอกันค่อนข้างแน่น และทำความสะอาดเป็นประจำทุกสัปดาห์

  • ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ช่วยลดปริมาณของน้ำมูก และสารอักเสบที่เกิดขึ้นในเยื่อบุโพรงจมูก และลดการตกค้างของสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในจมูกด้วย
  • วิธีปฐมพยาบาล “เลือดกำเดาไหล” ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร

    วิธีปฐมพยาบาล “เลือดกำเดาไหล” ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร

    เลือดกำเดา คือ เลือดที่ไหลออกมาจากโพรงจมูก ไม่ว่าจะเป็นข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็ก และผู้ใหญ่ และต้องหยุดเลือดอย่างถูกวิธี

    ฝุ่น PM 2.5 กับผลกระทบทาง \

    ฝุ่น PM 2.5 กับผลกระทบทาง "ผิวหนัง" แสบ-คัน-เป็นผื่น

    คงไม่มีใครนึกถึงว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก อย่าง PM 2.5 ที่ทำให้เกิดปัญหาในหลายพื้นที่อยู่ตอนนี้จะส่งผลกระทบต่อผิวหนังของเราด้วย