
ไหว้พระ 9 วัดดัง วันมาฆบูชา อิ่มบุญ เสริมสิริมงคล
"วันมาฆบูชา" เวียนมาอีกครั้งแล้ว! ปีนี้ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 พุทธศาสนิกชนชาวไทยต่างเดินทางไปวัดเพื่อทำบุญ ฟังเทศน์ และเวียนเทียน เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต บทความนี้ขอแนะนำ "ไหว้พระ 9 วัด" ที่ควรไปไหว้พระในวันมาฆบูชา เพื่อเสริมบุญบารมีและรับความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ไทยที่กำลังจะมาถึง
ทำบุญไหว้พระ 9 วัด วันมาฆบูชา ส่งเสริมสิริมงคล
1. วัดโสธรวรารามวรวิหาร
วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดสำคัญและมีชื่อเสียงของจังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง เดิมชื่อว่า "วัดหงษ์" สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพุทธโสธร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด
หลวงพ่อพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นตามแบบศิลปะล้านช้าง มีตำนานเล่าว่าหลวงพ่อพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดปางสมาธิที่มีรูปทรงสวยงามมาก ได้แสดงปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้
ภายในวัดมีพระอุโบสถหลังใหม่ที่สร้างขึ้นตามแบบรัตนโกสินทร์ประยุกต์ มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามและมีความหมายทางพระพุทธศาสนา
วัดโสธรวรารามวรวิหารเป็นสถานที่ที่ประชาชนนิยมเดินทางมาสักการะหลวงพ่อพุทธโสธร เพื่อขอพรและขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากนี้ วัดยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการแก้บนด้วยไข่ต้มหรือละครรำอีกด้วย
2. วัดบางพลีใหญ่ จ. สมุทรปราการ
วัดบางพลีใหญ่ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "วัดหลวงพ่อโต" เป็นวัดสำคัญในจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่ที่อำเภอบางพลี มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่เคารพศรัทธาของคนไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "หลวงพ่อโต" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ที่มีความสวยงามและศักดิ์สิทธิ์
3. วัดปากน้ำโจ้โล้
วัดปากน้ำโจ้โล้ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นอีกหนึ่งวัดที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีพระอุโบสถสีทองอร่ามทั้งหลัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา
วัดปากน้ำโจ้โล้เป็นวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำบางปะกง เดิมเป็นวัดเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดปากน้ำ" แต่ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวบ้าน จึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดขึ้นมาใหม่ พร้อมกับตั้งชื่อวัดว่า "วัดปากน้ำโจ้โล้" ตามชื่อของคลองโจ้โล้ที่ไหลผ่านด้านหน้าวัด
4. วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร
วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในจังหวัดนนทบุรี มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ และมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม
วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร เดิมเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีชื่อว่า "วัดบ้านท่าน้ำ" ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะวัดขึ้นใหม่ และยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง พระราชทานนามว่า "วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งพระเกียรติยศของพระองค์
5. วัดโกรกกราก
วัดโกรกกราก เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ในตำบลโกรกกราก อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีอายุเกือบ 200 ปี เป็นวัดที่สวยงามและมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ
วัดโกรกกรากสร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เดิมเป็นวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ต่อมาได้รับการบูรณะและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
6. วัดม่วง จ.อ่างทอง
วัดม่วง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอ่างทอง มีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามของสถาปัตยกรรมและมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ชื่อว่า "หลวงพ่อใหญ่" หรือ "พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
วัดม่วงเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมเป็นวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ต่อมาได้รับการบูรณะและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
7. วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง
วัดขุนอินทประมูล เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอ่างทอง มีชื่อเสียงในเรื่องของพระพุทธไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
วัดขุนอินทประมูลสร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย เดิมเป็นวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ต่อมาได้รับการบูรณะและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
8. วัดบางแคน้อย จังหวัดสมุทรสงคราม
วัดบางแคน้อย เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม มีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามของพระอุโบสถไม้สักแกะสลักที่วิจิตรบรรจงและหาชมได้ยาก
วัดบางแคน้อยสร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยคุณหญิงจุ้ย (น้อย) วงศาโรจน์ เป็นผู้สร้าง เดิมเป็นวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ต่อมาได้รับการบูรณะและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
9. วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา
วัดสมานรัตนาราม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ในตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
วัดนี้มีพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข องค์ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูง 16 เมตร ความยาว 24 เมตร ลักษณะนั่งกึ่งตะแคงบนฐาน พระหัตถ์ซ้ายถืองาที่หัก พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว โดยรอบฐานมีพระพิฆเนศทั้ง 32 ปาง ที่ประชาชนเลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก บริเวณด้านหน้าพระพิฆเนศ มีปูนปั้นรูปหนูอยู่สองตัว ชื่อว่า หนูมุสิกะ ซึ่งเป็นต้นห้องของพระพิฆเนศ จะมีนักท่องเที่ยวยืนต่อแถวกระซิบที่รูปปั้นหนู เชื่อว่าถ้าอยากขอพรสิ่งใดให้สมหวังให้ไปกระซิบที่หูหนู
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง หลวงพ่อโต หลวงพ่อองค์ดำ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระราหู พระพรหม และท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้น
วัดสมานรัตนารามเป็นวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอพร
การทำบุญไหว้พระ 9 วัดนั้นมีความสำคัญและมีความหมายที่ดีต่อชีวิต แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำบุญด้วยใจที่บริสุทธิ์และตั้งใจที่จะปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อให้การทำบุญนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองและผู้อื่น