เนื้อหาในหมวด ท่องเที่ยว

กาญจนบุรี

กาญจนบุรี

กาญจนบุรี ดินแดนแห่งผืนป่า โถงถ้ำ น้ำตก พรรณไม้นานาชนิดและวัฒนธรรมอันหลากหลายของผู้คือที่หลายหลากเชื้อชาติ ที่อาศํยอยู่ร่วมกัน โดยประกอบด้วย ไทย พม่า มอญ ปากะญอ(กะเหรี่ยง) ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ อาทิเช่น เหตุการณ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นมีอนุสรณสถานยืนยันเหตุการณ์อยู่หลายแห่ง เช่น สุสานทหารสัมพันธมิตร สะพานข้ามแม่น้ำแคว พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด  ฯลฯ และด้วยความน่าสนใจที่หลากหลาย จังหวัดนี้จึงเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ และทุกเทศกาล

จังหวัดกาญจนบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 12 ล้านไร่ หรือ 19,483 ตารางกิโลเมตร ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและเทือกเขาสูง โดยมีแม่น้ำสายหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย ที่ไหลขนานลงมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแม่กลองที่ตัวเมืองกาญจนบุรี

ความเป็นมาของกาญจนบุรีเท่าที่มีการค้นพบหลักฐานนั้น ย้อนไปได้ถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อมีการค้นพบเครื่องมือหินในบริเวณบ้านเก่า อำเภอเมืองฯ ล่วงมาถึงสมัยทวารวดี ซึ่งมีหลักฐานคือซากโบราณสถานที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี เป็นเจดีย์ลักษณะเดียวกับจุลประโทนเจดีย์ที่จังหวัดนครปฐม บ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี และเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งค้นพบโบราณวัตถุ เช่น พระพิมพ์สมัยทวารวดีจำนวนมาก สืบเนื่องต่อมาถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ 16-18 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบคือปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งมีรูปแบบศิลปะแบบขอม สมัยบายน

ความเป็นมาของกาญจนบุรียังปรากฏในพงศาวดารเหนือว่า กาญจนบุรีเป็นเมืองขึ้นของสุพรรณบุรีในสมัยสุโขทัย ครั้นมาถึงสมัยอยุธยา กาญจนบุรีก็มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญจนกระทั่งถึงสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์

ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อมีการจัดรูปแบบการปกครองเป็นมณฑลเทศาภิบาล กาญจนบุรีถูกโอนมาขึ้นกับมณฑลราชบุรี และยกฐานะเป็นจังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2467

เหตุการณ์ที่ทำให้กาญจนบุรีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นตัดสินใจสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ จากชุมทางหนองปลาดุกในประเทศไทย ไปยังเมืองทันบีอูซายัตในพม่า โดยเกณฑ์เชลยศึกและแรงงานจำนวนมากมาเร่งสร้างทางรถไฟอย่างหามรุ่งหามค่ำ จนทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งจากความเป็นอยู่ที่ยากแค้นและโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้า ซึ่งภาพและเรื่องราวของความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในกาญจนบุรี

จังหวัดกาญจนบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอบ่อพลอย อำเภอเลาขวัญ อำเภอพนมทวน อำเภอไทรโยค อำเภอสังขละบุรี อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง อำเภอทองผาภูมิ อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอหนองปรือ และอำเภอห้วยกระเจา



ต้นไม้และดอกไม้ประจำ จังหวัด กาญจนบุรี


ต้นขานาง  - มีชื่อพื้นเมืองเรียกว่าคะนางละนางค่านางช้างเผือกหลวงเชพลูเปือยนางเปือยคะนางลิงง้อ ฯลฯ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นกลมตรงมีริ้วสีน้ำตาลแกมเทา เปลือกบาง เรียบ สีขาวหรือเทาอ่อน ที่โคนต้นมีพูพอน เป็นไม้ผลัดใบที่มีความสูงประมาณ 15-30 เมตร มีใบเป็นรูปทรงไข่ กว้าง 4-7 ซม. ยาว 10-15 ซม. ส่วนดอกจะเป็นดอกเล็กๆ มีสีขาว ยาว 10-35 ซม. ห้อยลงไม่มีก้าน ติดเป็นกระจุก และผลจะมีขนาดแค่ 3 มม. พบมากในป่าแถบ อ.ไทรโยค, อ.ทองผาภูมิ, อ.ศรีสวัสดิ์, อ.สังขละบุรี ในโอกาสสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเป็นองค์ประธานและพระราชทานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปปลูกเป็นสิริมงคลแก่จังหวัด



ดอกกาญจนิการ์  -  เพียงแค่ฟังชื่อก็นึกถึงจังหวัดกาญจนบุรี ป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ ออกดอกเป็นช่อหลอดสีขาวสวยงาม ปลายเป็นกลีบคล้ายหางปลา  เมื่อแห้งแล้วจะแตกเป็นเมล็ดแบนๆและมีปีกบางๆ มีกลิ่นหอม บานกลางคืน ออกดอกตลอดปี


สถานที่ท่องเที่ยว @กาญจนบุรี


เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เสมือนสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมบนสันเขื่อนที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนเจ้าพระยา และเป็นเขื่อนชนิดหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมทัศนียภาพอันงดงามบนสันเขื่อนได้ตลอดทั้งปี โดยมีชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เขื่อนเจ้าเณร” " โดยตั้งอยู่บริเวณบ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์
เขื่อนศรีนครินทร์เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชน เข้าชมได้ทุกวันในเวลา 06.00 - 18.00 น. สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานกลาง 08-1010-6966 และศูนย์บ้านพัก 08-2290-2466



สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโลก เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์ทั้งเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร และกรรมกรเรือนหมื่น เพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ไปสู่ประเทศพม่า ด้วยระยะทาง กว่า 415 กิโลเมตร ฝ่าป่าดงดิบที่รกชัฏ ตัดทะลุผ่านภูเขาหิน เลียบเลาะริมหน้าผาสูง ด้วยความยากลำบาก ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่ง จึงต้องสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ที่ ตำบลท่ามะขาม และให้ชื่อเรียกว่า "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" ปัจจุบันเส้นทางรถไฟสายนี้ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก อำเภอไทรโยค ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดบริการเดินรถไฟบนเส้นทางสายนี้เป็นประจำทุกวัน (น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น, น้ำตกแควใหญ่, กิจกรรมขี่ช้างล่องแพไม่ไผ่) และสะพานข้ามแม่น้ำแควยังเป็นสถานที่ภ่ายรูปสุดฮิตของจังหวัดกาญจนบุรีอีกด้วย


โค้งมรณะ-ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะที่ถือเป็น Unseen Thailand ที่สุด ทางรถไฟที่โค้งไปตามหน้าผาสูงชันบริเวณถ้ำกระแซ เลาะไปตามแม่น้ำแควน้อย ความยาว 400 เมตร ถือเป็นจุดที่ทำให้น่าหวาดเสียวที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ความหวาดเสียวนั้นทำให้โค้งนี้เป้นจุดที่สวยที่สุดอีกด้วย โดยไม่มีค่าเข้าชม เปิดให้บริการทุกวัน ที่ตั้งอยู่ที่สถานีหยุดรถถ้ำกระแซ หมู่ 1 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค ทางรถไฟ



น้ำตกเอราวัณ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรีก็ว่าได้ แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาชมธรรมชาติทั้งคนในประเทศและชาวต่างชาติ น้ำตกมีความงดงาม อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีแอ่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่ตลอดทางเดินทางของน้ำตกเอราวัณทั้ง 7 ชั้น เหมาะกับการเล่นน้ำท่ามกลางแมกไม้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ และการเดินทางที่สะดวกสบายโดยมีรถประจำทางไป-กลับ ระหว่างตัวเมืองกาญจน์กับอุทยานฯ ได้
น้ำตกเอราวัณทั้ง 7 ชั้น
ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ในชั้นนี้จะ เหมาะสำหรับนั่งปิกนิกมากกว่าเล่นน้ำตก  มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งเล่น รับประทานอาหาร ริมน้ำตก  และตามเสต็ปของน้ำตก คือ ยิ่งสูงยิ่งสวย
ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ในชั้นนี้จะมีปลาพลวงเวียนว่ายในน้ำใสๆอยู่เป็นจำนวนมาก แอ่งน้ำสีคราม มีม่านน้ำตก ไหลผ่านหินย้อย เหมือนกับน้ำไหลผ่านปากถ้ำ ลงมายังแอ่งน้ำใหญ่ เหมาะกับการลงเล่นน้ำอย่างมาก แต่บางช่วงอาจจะลึก แต่ทางอุทยานฯมีชูชีพให้นักท่องเที่ยวได้เช่าเพื่อลงเล่นน้ำได้
ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นนี้จะเป็นชั้นตรวจอาหารและสิ่งที่ห้ามน้ำขึ้นไปบนชั้นต่อไป ต้องฝากเอาไว่ที่เจ้าหน้าที่ และชั้นนี้ก็สามารถเล่นน้ำได้ แต่อาจจะมีนักท่องที่ยวเยอะเป็นพิเศษ
ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ระหว่างทางไปน้ำตกชั้นที่ 4 จะเป็นเส้นทางที่เราจะได้เดินดูธรรมชาติอย่างเต็มที่ และ ชั้นนี้ต้องสังเกตุดีๆ จะเห็นหิน 2 ก้อนที่มีลักษณะเหมือนหน้าอกผู้หญิง แต่มีลักษณะใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไป เลยได้ชื่อเป็นอกนางผีเสื้อ (สมุทร) ซะเลย ชั้นนี้จะมีน้ำไหลตามหินลงมายังแอ่งด้านล่าง นักท่องเที่ยว สามารถเล่นน้ำได้
ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชั้นนี้ เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นลงมาแบบเตี้ยๆ ลักษณะเหมือนแอ่งตื้นๆ เหมาะกับการแช่น้ำเล่น และเดินเล่นบนน้ำตก
ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา อยู่ห่างจากชั้น 5 แค่ 300 เมตร จะเห็นน้ำตกอยู่หลายทางตามแมกไม้ต่างๆ
ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ จุดสุดยอดของการเดินทาง ต้องเดินผ่านหิน ปีนบันไดอย่างเหน็ดเหนื่อย เพื่อมาเจอความสวยงามที่สุดของน้ำตกเอราวัณ น้ำสีคราม ทรายสีขาว มีสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูง ไหลผ่านแมกไม้และแนวหินลงมาสู่อ่างน้ำให้เราเล่นกัน และยังมีฝูงปลาเล็กปลาน้อยคอยตอด นักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำอยู่ จั๊กจี้อย่างมากเลยทีเดียว
น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ อยู่ในแนวลำน้ำแควใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 600 ตารางกิโลเมตร อยู่บนทางหลวงหมายเลข 3199 ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับทางไปเขื่อนศรีนครินทร์


อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์  ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ สถานที่การศึกษาโบราณสถานที่ทรงคุณค่า มีอายุกว่า 800 ปี แสดงถึงอิทธิพลของอขมในอดีต และเรียนรู้ประวิติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมการสร้างปราสาทขอมปราสาทเมืองสิงห์ ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เขตตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค ในสมัยก่อนเคยเป็นเมืองสิงห์ มีผังเมืองเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส อยู่บนที่ราบริมฝั่งด้านขวาของแม่น้ำแควน้อย
มีค่าธรรมเนียมการเข้าชม อยู่ที่ ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท แต่จะเปิดให้เข้าชมฟรีในวันเด็กแห่งชาติ วันอนุรักษ์มรดกไทย (2 เมษายน) และวันเข้าพรรษา สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร 034-528-456-7

ยังมีสถานที่ ประวัติศาสตร์ และความงดงามอีกมากมาย

ขอขอบคุณรุปภาพจาก http://kanchanaburi.go.th

รวม 17 ที่เที่ยวกาญจนบุรี 2568 ธรรมชาติ ภูเขา สวนดอกไม้ ที่เที่ยวสวย ไหว้พระ

รวม 17 ที่เที่ยวกาญจนบุรี 2568 ธรรมชาติ ภูเขา สวนดอกไม้ ที่เที่ยวสวย ไหว้พระ

อัปเดต รวม 17 ที่เที่ยวกาญจนบุรี 2568 จังหวัดที่เต็มไปด้วยสเน่ห์ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ ภูเขา สวนดอกไม้ ที่เที่ยวสวย ไหว้พระ

เจียไต๋ แฟร์ 2025 สมาร์ทฟาร์ม สมาร์ทไลฟ์ สู่อนาคตการเกษตรยุคใหม่

เจียไต๋ แฟร์ 2025 สมาร์ทฟาร์ม สมาร์ทไลฟ์ สู่อนาคตการเกษตรยุคใหม่

งานเจียไต๋ แฟร์ 2025 สมาร์ทฟาร์ม สมาร์ทไลฟ์ สู่อนาคตการเกษตรยุคใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15-19 มกราคม 2568 อัปเดตโซนต่างๆ ภายในงาน