เนื้อหาในหมวด เพลง

\

"เจ เจตริน" กับการแสดงดนตรีที่ไม่หยุดอยู่กับที่

เป็นอันรู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้ว ว่า “เจ เจตริน” คือนักร้องนักดนตรีที่มีเพลงดังเยอะมาก ทั้งเพลงช้าซึ้งๆ เจ็บๆ หรือเพลงเร็วที่ฟังแล้วต้องรู้สึกว่าอยาก “อยู่ไม่สุข” คือต้องขยับแข้งขยับขา โยกคอ โยกหัว แต่หลายคนอาจจะลืมไปบ้างแล้ว ว่า เจ เจตริน มีที่มาทางดนตรีอย่างไร และ มีวิวัฒนาการกันอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันครับ

 

เจ เจตริน เริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์คือ “คอนเสิร์ตลืมโลก” ในช่วงปี 2532 และเนื่องจากเป็นคนที่เล่นดนตรีอยู่แล้ว โดยมีความถนัดเครื่องดนตรีหลายประเภท ซึ่งในขณะนั้นวงดนตรี “นูโว” ของ “โจ จิรายุส วรรธนะสิน” พี่ชายของเจ กำลังโด่งดัง และได้มีโอกาสเชิญเจขึ้นเล่นคอนเสิร์ตด้วย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีมาก (จำได้ว่าครั้งนั้นขึ้นไปเล่นกีต้าร์โซโล่)

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีอัลบั้ม “จ เ-ะ บ” ออกมาในปี 2534 ซึ่งออกมาปุ๊บ ก็ดังระเบิดปั๊บเลย เพราะเพลงในอัลบั้มหลายเพลงมีรัศมีของความโด่งดังมาก เช่น ฝากเลี้ยง, กองไว้, เจ็บไปเจ็บมา เป็นต้น

จะเห็นว่าอัลบั้มแรกนั้น ยังไม่ได้เน้นไปทางใดทางหนึ่งชัดเจนนัก แต่เพราะตัวเองในอัลบั้มที่ดีทุกเพลง ทำให้โด่งดังแรงมาก และดังต่อเนื่องจนต้องมีอัลบั้มที่ 2 ในเวลาไม่นาน

อัลบั้มที่ 2 คือ “108-1009” ในปี 2536 ซึ่งอัลบั้มนี้จะค่อนข้างจับแนวทางของเจได้ถูกแล้ว ว่าในอนาคต “เจ เจตริน” จะเป็นใคร เป็นการวางเพลงที่เหมาะสมมาก เพราะมีสัดส่วนของเพลงช้าเพราะๆ กับเพลงที่เน้นเต้นได้อย่างลงตัว เหมือนเป็นการบอกกับแฟนเพลงว่า “เจ เจตริน” จะเต้นละนะ ซึ่งเป็นการมองการณ์ไกลที่ยอดมาก อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่า เจ เป็นนักดนตรีด้วย โดยเฉพาะการเล่นกลอง ทำให้การเต้นนั้นมีจังหวะที่เป๊ะ เพราะการเต้น ต้องสัมพันธ์กับจังหวะกลองอย่างมาก

สำหรับอัลบั้มที่ 2 นี้ สัดส่วนเพลงช้า ก็คือ อดทนไว้, เพิ่งเข้าใจ, คาใจ (มีท่าเต้นที่เป็นที่จดจำอีกด้วย) ส่วนเพลงเร็วนั้นเช่น ยุ่งน่า, ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ , ประมาณนี้หรือเปล่า สัดส่วนนี้ทำให้อัลบั้มนี้ดังระเบิดอีกครั้ง และก็ประสบความสำเร็จที่ทำให้ เจ เจตริน มีการแสดงคอนเสิร์ตที่ต้อง “เต้น” อย่างสนุก

ตัดภาพมาในยุคปัจจุบันซึ่งเจ ได้ห่างหายไปจากการออกอัลบั้มมาหลายปีพอสมควร แต่เป็นศิลปินที่มีคิวแสดงดนตรีแทบจะตลอดเวลา และคอนเสิร์ตช่วงหลังๆ ได้มีการ Arrange ดนตรีใหม่ทั้งหมด ให้ทันสมัยมากขึ้น ตึ๊ดๆ มากขึ้น ทั้งจังหวะกลองที่ทำใหม่ ทั้งเสียงคีย์บอร์ด ทั้งเสียงซินธิไซเซอร์ ที่ใส่เพิ่มขึ้นมา แต่ก็ยังคงใจความหลักของเพลงเดิมอยู่ ทำให้เพิ่มสีสันได้มากขึ้นเยอะ

 ผมเคยได้ดูคอนเสิร์ตของ เจ เจตริน ในช่วงไม่กี่ปีมานี้หลายครั้ง รู้สึกได้เลยว่า สนุกมากๆ มีการปรับการแสดงให้ทันสมัยได้ดีเยี่ยม เรียกได้ว่าคนที่ได้ดูนั้น คุ้มค่าแน่นอน และเท่าที่เห็นคือ แม้ว่าคนดูจะเป็นหมื่นคนหรือมีแค่หลักร้อยคน พี่เจก็ใส่ไม่ยั้ง เล่นเต็มที่ทุกการแสดงเพื่อผู้ชมจริงๆ  นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีกับศิลปินท่านอื่นๆ จริงๆ

การแสดงสด เพลง "ฝากเลี้ยง" ที่ Arrange ดนตรีใหม่

การแสดงสด เพลง "ประมาณนี้หรือเปล่า" ที่ Arrange ดนตรีใหม่

ขอบคุณภาพจาก Facebook เจ เจตริน ครับ