"อาฒยา" คว้าอันดับ 7 ร่วม กอล์ฟเมเจอร์ “เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น”

กอล์ฟอาชีพหญิง เมเจอร์สุดท้ายของปี "เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น" ชิงเงินรางวัลรวม 7.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 260.76 ล้านบาท ที่สนามเมียร์ฟิลด์ ระยะ 6,649 หลา พาร์ 71 ในอีสต์ โลเธียนของสกอตแลนด์ จบการแข่งขันวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งรายการนี้มีโปรสาวไทยลงแข่ง 8 ราย และผ่านการตัดตัว 3 ราย

"โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล มือ 6 ของโลก ทำ 4 เบอร์ดี้ เสีย 3 โบกี้ เก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 279 คว้าอันดับ 7 ร่วม รับเงินรางวัล 160,700 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจบท็อปเทนศึกเมเจอร์รายการที่ 3 จากทั้งหมด 5 รายการในปีนี้ ต่อจากการคว้าอันดับ 4 วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ และอันดับ 8 ร่วม เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ

ส่วนแชมป์เป็นของ แอชลีห์ บูไฮ จากแอฟริกาใต้ที่ถึงแม้วันสุดท้ายจะตีเกินไปถึง 4 โอเวอร์พาร์ 75 แต่ยังจบด้วยสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 274 เท่ากับ ชุน อิน จี จาก เกาหลีใต้ ต้องดวลเพลย์ออฟหาผู้ชนะ ก่อนจะเป็นบูไฮที่เก็บชัยไปได้ในการดวลถึงหลุมที่ 4 คว้าแชมป์แรกในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ และแชมป์เมเจอร์แรกของตัวเอง รับเงินรางวัล 1.095 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 39.6 ล้านบาท

ด้านผลงานของโปรสาวไทยคนอื่น ๆ "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล แชมป์ปี 2016 จบด้วยสกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 285 คว้าอันดับ 28 ร่วม รับเงินรางวัล 55,306 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.9 ล้านบาท และ "โปรแจน" วิชาณี มีชัย สกอร์รวม 8 โอเวอร์พาร์ 292 จบที่ 58 ร่วม รับเงินรางวัล 17,600 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 6.3 แสนบาท
 
สำหรับโปรแกรมแข่งขัน แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการต่อไป คือ ไอเอสพีเอส ฮานดะ เวิลด์ อินวิเตชันแนล ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 54.44 ล้านบาท ที่ไอร์แลนด์เหนือ วันที่ 11-14 สิงหาคม ซึ่ง "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ คว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้ว และเป็นแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการแรกในอาชีพ โดยเธอจะลงป้องกันแชมป์และมีโปรสาวไทยอีก 2 รายลงแข่งคือ "โปรแจน" วิชาณี มีชัย และ "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ