เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

Sharon Stone คือคนที่ Leonardo DiCaprio และ Russell Crowe ต้องขอบคุณ โดย ตั๋วร้อนฯ

Sharon Stone คือคนที่ Leonardo DiCaprio และ Russell Crowe ต้องขอบคุณ โดย ตั๋วร้อนฯ

รู้ไหมว่าหนังอย่าง The Quick and the Dead ปี 1995 คือหนังที่คว่ำสนิท แต่มันก็เป็นจุดกำเนิดของดาราชายมากฝีมือสองคนแห่งยุค และกลายเป็นจุดเปลี่ยนของดาราหญิงแห่งยุคให้เริ่มดับแสงลงเช่นกัน กลายเป็นว่าเรื่องราวระหว่างสร้างหนังเรื่องนี้มีทั้งความขมขื่นและการส่งคนเก่งๆ ให้ได้รับแสงจากวงการ นี่คือเรื่องราวของ Sharon Stone กับดาราชาย Leonardo DiCaprio และ Russell Crowe

The Quick and the Dead

คนที่ Russell Crowe กับ Leonardo DiCaprio จะต้องขอบคุณมากๆ ในชีวิตการเป็นดาวของพวกเขาคือ Sharon Stone เพราะยุคหนึ่งเธอคือนางเอกเบอร์ต้นๆ ของฮอลลีวู้ดที่มีพลังการเจรจาอย่างมาก Basic Instinct ปี 1992 ส่งให้เธอกลายเป็นดาราหญิงทรงอิทธิพลแห่งฮอลลีวู้ด เธอก้าวสู่ตำแหน่งโปรดิวเซอร์หนังเรื่องแรกนั่นคือ The Quick and the Dead ปี 1995 และนี่คือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในสายอาชีพของเธอที่ฉุดให้เธอจมดิ่งสู่ก้นเหวในสายอาชีพ

Sharon Stone

ณ ตอนนั้นต้องยอมรับว่า Sharon Stone คือนางร้ายนอกจอสำหรับผู้สร้างและสตูดิโอ นางร้ายในที่นี้หมายถึง ถ้าเธออยากได้อะไรเธอต้องได้ และยิ่งโดยเฉพาะการที่เธอได้ควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของหนังด้วยแล้ว เธอกลายเป็นตัวคุมเกมจนสตูดิโอปวดหัวไปตามๆ กัน The Quick and the Dead คือโปรเจกต์หนังคาวบอยขับเคลื่อนพลังหญิงที่ถูกสร้างในยุคที่ผู้ชายเป็นใหญ่ในฮอลลีวู้ด Sharon Stone จึงตกพุ่มเหมือนเป็นสาวร้ายในสายตาพวกผู้ชาย ทั้งๆ ที่เธอแค่เพียงเรียกร้องสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเองกับผลงานสร้างของเธอ

เธอมีคำสั่งว่าอยากได้ Sam Raimi มากำกับ The Quick and the Dead ของเธอ เพราะชื่นชอบผลงาน Army of Darkness (1992) ของเขาเป็นอย่างมาก แต่สตูดิโอ TriStar Pictures คิดว่าหนังคาวบอยแบบนี้ไม่น่าใช่แนวทางของ Sam Raimi สักเท่าไหร่ ซึ่ง Sharon Stone ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดต้องเอา Sam Raimi มาละเลงควันปืนบนหลังม้าในหนังที่เธอแสดงให้จงได้



อีกคนหนึ่งที่ Sharon Stone จะเอามาอยู่ในหนังของเธอให้ได้คือ Russell Crowe ดาราหนุ่มโนเนมจากแดนจิงโจ้ออสเตรเลีย ผู้ที่ Sharon Stone เคยดูหนัง Romper Stomper ที่เขานำแสดงแล้วชื่นชอบผู้ชายคนนี้มาก แต่ก็เหตุผลเดิมๆที่สตูดิโอมีให้นั่นคือ เขาไม่ดังพอ ไม่ขายเท่าดาราดังๆในยุคนั้นอย่างพวก Brad Pitt , Tom Cruise หรือ Liam Neeson แต่ทางสตูดิโอก็เจอฤทธิ์เจ้าแม่ Stone เล่นงานจนวุ่นวายไปตามๆกัน สุดท้ายพวกเขายอมใช้ Russell Crowe และนั่นคือหนังอเมริกันเรื่องแรกของเขา ซึ่งส่งผลให้เขาไต่เต้าจนมีทุกวันนี้ ซึ่งในภายหลัง Sharon Stone ได้ออกมายอมรับว่า Russell Crowe คือนักจูบที่ดีที่สุดเท่าที่เธอเคยจูบมา

คนต่อมานั้น Sharon Stone ถึงขนาดต้องควักเงินตัวเองเพื่อจ่ายค่าตัวให้ นั่นคือ Leonardo DiCaprio ในวัยละอ่อนขนเพิ่งขึ้น และเขากำลังหาบทบาทที่แตกต่างจากบทวัยรุ่นแนวเดิมๆที่เคยแสดงมา Sharon Stone รักเด็กคนนี้มากจากผลงาน The Basketball Diaries แต่สตูดิโออยากได้ Matt Damon มากกว่า Sharon Stone จึงแผลงฤทธิ์อีกรอบ แต่คราวนี้สตูดิโอไม่ได้ยอมเธอแบบที่ผ่านมา เธอจึงยอมควักเงินจ่ายค่าตัวให้ Leonardo DiCaprio เอง นั่นสร้างความไม่พอใจแก่สตูดิโอเป็นอย่างมาก เพราะมีกฏวางไว้ชัดเจน รวมถึงเรื่องภาษีต่างๆ ถกเถียงกันยกใหญ่สุดท้ายสตูดิโอจึงจำเป็นต้องร่วมออกค่าตัวให้ส่วนหนึ่ง ด้วยเหตุผลด้านกฎหมาย

Sharon Stone

วีรกรรมการแผลงฤทธิ์ของ Sharon Stone ยังมีอีกเพียบ อาทิ การที่เธอต้องการเสื้อหนังจริงๆ อายุกว่า 100 ปี ที่ขอมาจากพิพิธภัณฑ์ตะวันตก ซึ่งเธอก็ได้ตามคำขอ , ปืนหลายๆกระบอกในหนังเรื่องนี้เป็นของแท้จากปี 1878 ซึ่ง Sharon Stone ต้องการความขลัง จึงของบจากสตูดิโอ ส่วนปืนประจำตัวของเธอนั้นเป็นปืนที่สร้างโดยช่างทำปืนระดับปรมาจารย์ John Phillips , เธอสั่งให้นักแสดงทุกคนที่ได้ใช้ปืนในหนัง ฝึกฝนการใช้ปืนสามเดือนก่อนเริ่มถ่ายทำ และระหว่างถ่ายพวกเขาจะต้องนำปืนกลับไปที่ห้องพักของโรงแรมทุกคืนเพื่อฝึกซ้อม , กางเกงหนังของ Sharon Stone คับแน่นมาก จนเธอไม่สามารถนั่งเก้าอี้ได้ แต่เธอไม่สน ยังคงใส่มันถ่ายทำต่อไปเพราะเธอคิดว่ามันเซ็กซี่มาก เธอใช้สแตนด์อินที่มีรูปทรงองค์เอวคล้ายเธอในการเล่นฉากเสี่ยงๆ แต่ต่อมาเธอก็ไล่สแตนด์อินออกเพราะแสตนด์อินคนนั้นเซ็กซี่จนเบี่ยงเบนความสนใจคนในกอง , หนังถ่ายไปแก้บทไปวันต่อวัน เพราะบทไม่เป็นที่พอใจ Sharon Stone รวมถึงตอนจบของหนังดั้งเดิมของ Sam Raimi สุดท้ายก็จำเป็นต้องพึ่ง Joss Whedon มือแก้ไขบทชั้นเซียนในสมัยนั้นให้มาแก้ตอนจบให้ นี่ยังไม่รวมวีรกรรมอีกเพียบที่ Sharon Stone ทำในระหว่างถ่ายทำ จนทีมงานเข็ดขยาดตามๆกัน แต่นักแสดงทุกคนรู้สึกแฮปปี้กับความเอาจริงเอาจังของเธอมาก โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง Gene Hackman ที่เล่นนอกบทตบหน้า Sharon Stone ไปฉาดใหญ่แล้วเธอขอให้เขาตบอีกซ้ำๆ



แต่สุดท้ายหนัง The Quick and the Dead ก็ไม่ได้รับการโปรโมทเท่าที่ควรจากสตูดิโอ เป็นการดัดหลังคืนของสตูดิโอผู้สร้างที่ปวดหัวกับดาราสาวคนนี้มาตลอดการผลิต ส่งผลให้หนังทุนสร้าง 35 ล้านเหรียญเรื่องนี้ทำรายได้เพียง 47 ล้านเหรียญ ทั้งที่เป็นงานที่คำวิจารณ์ค่อนไปทางที่ดี และหลังจาก The Quick and the Dead เรื่องนี้ Sharon Stone ก็มีหนังฟอร์มดีอย่าง Casino ซึ่งเธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Golden Globe Award และ Oscar ได้เข้าชิง Golden Globe Award จาก The Mighty และ The Muse สองปีติดๆ แต่ด้วยความที่เธอเป็นตัวแม่ไม่แคร์สื่อ ไม่แคร์ใคร จากที่กราฟชีวิตนางเอกพุ่งกระฉูดช่วงนั้น Sharon Stone ก็ถูกคว่ำบาตรจากสมาคมผู้สร้างและสตูดิโอต่างๆ บวกกับอาการเจ็บป่วยของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นนางเอกที่แทบจะถูกลืม มีผลงานบ้างแต่ไม่ใช่หนังฟอร์มดีเท่าไหร่

Russell Crowe ให้เครดิตเธอเสมอๆ ในการให้สัมภาษณ์ว่าถ้าไม่มีเธอ เขาคงไม่ได้เป็นดาราออสการ์อย่างทุกวันนี้