Scoop : "กัปตันอุ้ม" ในมุมมองที่เปลี่ยนไป?!

ในวันที่ทีมชาติไทยวิ่งสู่แชมป์อาเซียนสมัยที่ 6 เมื่อ ปีที่แล้ว "ธีราธร บุญมาทัน" ได้คุยกับครอบครัวว่านั่นน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ตัวเขาจะลงรับใช้ชาติในรายการระดับชิงแชมป์อาเซียน

จากนั้นอีก 11 เดือน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ใส่ชื่อของเจ้าอุ้ม เป็นหนึ่งในขุนพลนำทัพทีมชาติไทยลงป้องกันแชมป์อาเซียน เพื่อคั่วโทรฟี่รายการนี้เป็นสมัยที่ 7 

ดูเหมือนหลายปัจจัย ทำให้หนุ่มจากเมืองนนท์ คิดหนักเริ่มจากรายการนนี้ไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์ แต่ละสโมสรไม่ปล่อยตัวนักเตะ ประกอบกับนักเตะที่มีชื่อติดทีมในเวลานี้ ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าทีมชาติไทยจะวิ่งชนความสำเร็จได้ง่ายๆ เป็นแน่

เมื่อบวกกับในวันที่ทีมชาติเวียดนาม กำลังฟอร์มดี แถมชาติอื่นๆ ก็ก้าวขึ้นมาท้าชิงบัลลังก์เจ้าอาเซียน และพร้อมเป็นผู้เข้ามาขวามทางการลุ้นแชมป์ของทีมชาติไทย "อุ้ม" และ "เบส" ภรรยาคู่ชีวิต ได้ปรึกษาพร้อมกับเลือกที่จะเดินเข้าสู่แคมป์ทีมชาติไทย ด้วยเหตุผลที่ว่าหลายทีมไม่ปล่อยตัวหลักๆ ถ้าปล่อยให้พวกเขาไปสู้ มันจะดร็อป และไม่อยากให้ทีมชาติอื่นทนงตัวขึ้นมาเทียบกับทีมชาติไทยของเรา เขาเลยเดินหน้าพร้อมสู้ไปกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่

จากนั้นชื่อของ "ธีราธร บุญมาทัน" จึงอยู่ใน 23 ขุนพลนักเตะทีมชาติไทยชุดลุยศึก "เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022" พร้อมตำแหน่ง "กัปตันทีม"!!!

"กัปตันอุ้ม" ที่กำลังจะวิ่งผ่านตัวเลข 33 ปี ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นี้ แสดงผลงานบนผืนหญ้าได้อย่างหมดจดตั้งแต่นัดแรกยันนัดสุดท้าย พร้อมจารึกชื่อด้วยการคว้ารางวัลนักเตะทรงคุณค่าประจำทัวร์นาเมนท์ หรือ MVP แบบไร้คู่แข่งซะด้วย

ผลงานเอกอุ 1 ประตู 6 แอสซิสต์ กับตำแหน่งที่เจ้าตัวเล่นด้วยความมั่นใจ ทุกสัมผัสบอลเนียนตา ออกบอลฉลาด และได้เปรียบคู่แข่งตลอด มันคืออาวุธเด็ดที่เราได้เห็นตลอดในการแข่งขันครั้งนี้
ความเป็นผู้นำสูงมาก สูงมากเกินกว่าที่ผมประเมินตัวเขาไว้ซะอีก แม้บางครั้งจะออกแนวยียวนไปบ้าง แต่นั่นก็อยู่ในกรอบที่มาพร้อมกับความเจนจัดในสนาม เพราะนี่คือ "โก๋อุ้ม" ไง!!!

หากจำกันได้เมื่อ 4 วันที่แล้ว ในวันที่ทีมชาติไทยพลาดชัยชนะ เมื่อโดนเวียดนามไล่ตีเสมอก่อนหมดเวลา ด้วยสกอร์ 2-2 เจ้าอุ้มได้บอกกับเพื่อนๆ ทุกคนในทีมว่า เฮ้ยพวกเราอย่าให้ความรู้สึกนี้มาทำลายฟิลลิ่ง รู้ว่านะว่าเราเสียดาย แต่เรามากุมความได้เปรียบถึงที่นี่ด้วยสกอร์นี้ และเราจะกลับไปเอาชนะที่บ้านของเรา เพื่อนแฟนๆของเรา

จากนั้นเกมเมื่อวาน คำตอบชัดแจ้งเหลือเกินว่า "กัปตันอุ้ม" และทีมชาติไทย ทำมันได้สมใจ เด็ดขาดเบ็ดเสร็จด้วยรูปแบบการเล่นและแท็กติกที่ยอดเยี่ยมสุดๆ 

ถึงบรรทัดนี้ผมเชื่อว่าหลายคนมอง ธีราทร ที่ต่างออกไปจากเดิมกันเยอะ ประสบการณ์ตลอดเส้นทางลูกหนังของเขา หล่อหลอมให้เขาเข้าใจในบริบทของตัวเอง ครอบครัวเองคือจุดสำคัญที่ทำให้เขาเติบใหญ่อย่างมีคุณภาพขึ้นเรื่อยๆ

ภาพของการเป็นนักเตะหัวร้อน มักโดนใบแดงอยู่บ่อยครั้ง มีเรื่องกับแฟนบอลไปทั่ว เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความสุขุมที่มากขึ้น ความเข้าใจโลก และไม่ได้เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางไปซะทุกเรื่อง คือสิ่งที่น่าชื่นชมมากๆ
ถ้าจำกันได้ รอบรองฯ ในเกมกับมาเลเซีย ที่ไทยชนะไป 3-0 ในบทบาทของกัปตันทีม ทันทีที่จบเกม 90 นาที ธีราทรปรี่เข้าไปโซนแฟนบอลไทยที่จุดพลุแฟลร์ เพื่อขอร้องว่าอย่าทำ อย่าทำแบบนี้อีก ขณะเดียวกันก็พยายามบอกว่าอย่าไปทำร้ายแฟนบอลมาเลเซีย ให้เชียร์อย่างมีสติและมีสปิริตหน่อย บอกตรงๆ นั่นเป็นภาพที่ผมเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเห็นจากเจ้าอุ้มนะ  

วันนี้ นาทีนี้ "ธีราทร บุญมาทัน" จากอดีตที่เคยเป็นนักเตะผู้ตกเป็นเป้าในแง่ลบ ได้กลายเป็นนักเตะผู้เป็นทุกอย่างของทีม และขึ้นหิ้งเป็นนักเตะที่ทุกคนรักเขา รักในสิ่งที่เขาเป็น รักในสิ่งที่เขาแสดงออกด้วยคำว่าผู้นำ 

นี่คือบทพิสูจน์อย่างแท้จริงว่า "ธีราทร บุญมาทัน" คือนักเตะที่ได้ก้าวผ่านทุกอย่างด้วยความสำเร็จอย่างแท้จริง