ผลงานใหม่ของ Dwayne Johnson ทำให้เขาคือดาราค่าตัวสูงสุดในโลก
มีรายงานว่าหนังเรื่องต่อไปของ Dwayne Johnson หรือ The Rock จะทำให้เขาได้รับเงินค่าตัวต่อเรื่องสูงสุดเท่าที่นักแสดงสักคนเคยได้รับในประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์
ผลงานเรื่องที่ว่าคือหนังแอ็คชั่นอย่าง Red One ซึ่งเป็นหนังที่จะทำให้เขาได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อดีตนักมวยปล้ำ WWE ผู้ผันตัวมาเป็นนักแสดง ได้แบรนด์ที่แข็งแกร่งให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในดาราหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยบทบาทในหนังหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ Fast & Furious , Jumanji , หนังของ DCEU และหนังแอคชั่นหรือหนังคอมเมดี้ที่เขานำแสดงเดี่ยวๆเรื่องอื่นๆ
Red One ซึ่งถ่ายทำเสร็จเมื่อต้นปีนี้ เป็นหนังต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส แนวแอ็กชั่น-ผจญภัย ที่จะลงฉายสตรีมมิ่ง Prime Video ในช่วงเทศกาลวันหยุดปี 2023 ที่จะถึงนี้ หนังพูดถึง Callum Drift ที่รับบทโดย The Rock ผู้บัญชาการของหน่วย ELF พล็อตเรื่องยังเป็นความลับจนถึงตอนนี้ หนังมีทีมนักแสดงที่แข็งแกร่งคือ Chris Evans , Kiernan Shipka, Lucy Liu, Mary Elizabeth Ellis, J. K. Simmons, Nick Kroll และ Kristofer Hivju หนังกำกับโดย Jake Kasdan จาก Jumanji ทั้งสองภาค เขียนบทและโปรดิวเซอร์ร่วมโดย Chris Morgan จาก Fast & Furious ซึ่ง Red One ถูกคาดการณ์ล่วงหน้าว่านี่จะเป็นว่าที่หนังภาคต่ออันทรงคุณค่าในอนาคตของ Prime Video
ก่อนหน้านี้ Dwayne Johnson ได้รับค่าตัวจากหนังอย่าง Jumanji: The Next Level ในปี 2019 และ Red Notice ของ Netflix ที่ $23.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่าๆ กัน ในขณะที่ได้จาก Black Adam 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐ , Jungle Cruise 22 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Fast & Furious : Hobbs & Shaw 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งใน Red One เขาจะได้ค่าตัวสูงถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำลายสถิติเดิม 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ Robert Downey Jr. ทำไว้ใน Captain America: Civil War และ Will Smith ที่ทำไว้ใน King Richard
นี่ไม่ใช่แค่เงินเดือนสูงสุดในอาชีพของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นรายได้ที่มากที่สุดที่นักแสดงเคยได้รับจากบทบาทในหนังหนึ่งเรื่องอีกด้วย ปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าตัวของเขาสูงนั่นเพราะ นี่เป็นยุคแห่งสตรีมมิ่ง ค่าตัวมาตรฐานของอุตสาหกรรมหนังถูกกำหนดไว้สูงสุดแค่ 20 ล้านเหรียญ แต่จะมีการบวกเปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมของ Box office จากหนังเรื่องนั้นๆ
แต่การมาของสตรีมมิ่งได้เปลี่ยนรูปแบบการจ่ายค่าตัว เนื่องจากภาพยนตร์ Prime Video และ Netflix เป็นหนังที่มักจะไม่ได้รับการฉายในโรงภาพยนตร์ในวงกว้าง พวกเขาจึงชดเชยค่าตัวให้ดาราล่วงหน้าไปเลย และหนังเรื่องนี้ก็เป็นงานสร้างของ Seven Bucks Productions ที่เป็นบริษัทสร้างหนังของ Dwayne Johnson นั่นจึงเป็นสาเหตุการจ่ายค่าตัวแบบทำลายสถิติอย่างที่เห็น