เนื้อหาในหมวด กีฬา

\

"สิงห์ ซัมเมอร์แคมป์" ปีที่ 14 ชวนเยาวชนสนุกกับ 7 การเรียนรู้ "นักกีฬาทีมชาติ" ร่วมแจม

ค่ายฤดูร้อน "สิงห์ ซัมเมอร์แคมป์" ปีที่ 14 ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคัก โดยในปีนี้มีเด็กๆ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้จริงจาก 7 อาชีพที่หลากหลาย ผ่าน 7 กิจกรรมเน้นการลงมือปฏิบัติ ที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับความสนใจและพัฒนาการของน้องๆ เยาวชน ได้แก่ คลาสนักวิทย์, คลาสฮัลโหล-หนีฮ่าว, คลาสจูเนียร์เชฟ, คลาสหน่วยกู้ชีพ, คลาสจิตรกรเชียงราย, คลาสพลังทีมเวิร์ค

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากนักกีฬารุ่นพี่ชื่อดังอย่าง เมย์-รัชนก อินทนนท์, วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย, บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดัง และ เอสที-วารีรยา สุขเกษม นักสเก็ตบอร์ดทีมชาติไทย มาร่วมสอนและโชว์ทักษะในคลาสนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชนอายุ 8-12 ปี ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงบริษัทในเครือทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศ จำนวนกว่า 1,000 คน ให้ได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมอย่างสร้างสรรค์

siop23

คุณอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดการฝ่ายงานกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า “โครงการสิงห์ซัมเมอร์แคมป์ เป็นโครงการที่บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14 ได้มีพัฒนาทั้งรูปแบบการเรียนรู้และหลักสูตรอย่างสม่ำเสมอ โดยร่วมมือกับเครือข่ายสิงห์อาสา ประกอบด้วยสถาบันการศึกษาชั้นนำ เครือข่ายกู้ภัย และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาและ 10 บริษัทในเครือทั่วประเทศ"

"เพื่อให้เยาวชนได้สัมผัสประสบการณ์ค่ายที่สนุกสนานและได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งความรู้ที่ได้รับสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ สามารถต่อยอดและพัฒนาสิ่งที่ตนเองสนใจได้อย่างเต็มที่ โดยกิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้นในช่วงปิดเทอมต่อเนื่อง 9 สัปดาห์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และในปีนี้ได้ร่วมมือกับเครือข่ายสิงห์อาสาทั่วประเทศในการสร้างสรรค์หลักสูตร โดยมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อมอบโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต"

siop2

โครงการ "สิงห์ ซัมเมอร์แคมป์" เป็นการออกแบบหลักสูตรที่หลากหลายและน่าสนใจ ได้แก่ หลักสูตรนักวิทย์ สอนวิทยาศาสตร์ ผ่านการทดลองวิทยาศาสตร์ปฎิบัติจริง, หลักสูตรฮัลโหล-หนีฮ่าว สอนภาษาอังกฤษ-จีน เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์พื้นฐานของผ่านกิจกรรมสุดแสนสนุก เช่น เกมส์ บทเพลง และการแสดงบทบาทสมมติที่สามารถนำไปใช้ในการสื่อสารกับผู้อื่นได้, หลักสูตรจูเนียร์เชฟ สวมบทบาทเป็นเชฟทำขนม โดยเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เทคนิคการทำขนมจากเชฟผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์, หลักสูตรหน่วยกู้ชีพ สอนทักษะต่างๆ ที่จำเป็นให้กับเด็กๆ ให้มีสติ รู้จักช่วยเหลือตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน และสามารถช่วยเหลือผู้อื่นในอนาคตได้ เช่น การเอาชีวิตรอดเมื่อติดอยู่ในรถ การเอาชีวิตรอดเมื่อจมน้ำ การทำ CPR เป็นต้น

หลักสูตรทีมชาติไทย กับการสวมบทบาทเป็นนักกีฬาทีมชาติ ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เทคนิคการเล่นกีฬาต่างๆ จากฮีโร่นักกีฬา และโค้ชทีมชาติไทย, หลักสูตรจิตรกรเชียงราย ที่ส่งเสริมให้เด็กๆ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะของตนเอง พัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และสุนทรียภาพ,หลักสูตรพลังทีมเวิร์ค ที่จะให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การทำขวัญข้าว ปลูกข้าว จับปลาช่อน เน้นการทำงานร่วมกันเป็นทีม เรียนรู้การสื่อสาร การแก้ปัญหา และการตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งเป็นทักษะขั้นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกันในสังคม

สำหรับเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมสอนในโครงการนี้ ประกอบไปด้วย สมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย, โรงเรียนแบดมินตัน บ้านทองหยอด, ค่ายมวยบัญชาเมฆ, สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย, ศูนย์กู้ชีพนเรนทร โรงพยาบาลราชวิถี, มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา, ขัวศิลปะ จ.เชียงราย, ปราชญ์ชาวบ้าน จ.สิงห์บุรี, โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น, คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, Bangkok University International Programs, วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, สำนักวิชาจีนวิทยา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน, คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และคณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

นอกจากนี้ โครงการ "สิงห์ ซัมเมอร์แคมป์" ปีที่ 14 ยังเป็นอีกหนึ่งค่ายฤดูร้อนที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนกว่า 1,000 คน ในพื้นที่ใกล้เคียงในเครือบุญรอดฯ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, นครปฐม, อยุธยา, เชียงใหม่, เชียงราย, มหาสารคาม, ขอนแก่น, สิงห์บุรี และสุราษฎร์ธานี ได้เรียนรู้และค้นหาตัวตนผ่านกิจกรรม 7 คลาส 7 อาชีพ ตลอดระยะเวลา 9 สัปดาห์ ระหว่างเดือนมี.ค.-พ.ค. 68 โครงการนี้ ไม่เพียงแต่เติมเต็มช่วงเวลาปิดเทอมด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์และสนุกสนาน แต่ยังเป็นการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและพร้อมสร้างสรรค์สังคมที่ดีต่อไป