
ทำไมทีมชาติอิตาลีใส่ "สีน้ำเงิน" ทั้งที่ในธงชาติไม่มีสีนี้?
หากคุณเป็นแฟนฟุตบอลหรือกีฬาในระดับนานาชาติ อาจสังเกตได้ว่าทีมชาติอิตาลี ทั้งฟุตบอลชาย ฟุตบอลหญิง วอลเลย์บอล หรือแม้แต่นักกีฬาโอลิมปิก มักสวมชุดแข่ง "สีน้ำเงิน" เสมอ ทั้งที่ธงชาติอิตาลีมีเพียง 3 สี คือ เขียว ขาว และแดง
แล้ว "สีน้ำเงิน" มาเกี่ยวอะไร? คำตอบนี้ย้อนกลับไปไกลถึงยุคกษัตริย์และราชวงศ์ที่เคยปกครองประเทศอิตาลี
จุดเริ่มต้น: สีประจำราชวงศ์ซาวอย (House of Savoy)
แม้ว่าอิตาลีจะเป็นสาธารณรัฐในปัจจุบัน แต่ในอดีตประเทศนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซาวอย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรวมชาติอิตาลีในศตวรรษที่ 19
โดย "สีน้ำเงิน" (อิตาเลียน: Azzurro, อัซซูร์โร) เป็นสีประจำราชวงศ์ซาวอย และมักถูกใช้ในเสื้อผ้าของกษัตริย์ ธงกองทัพ หรือเครื่องหมายทางการต่างๆ
สีน้ำเงินจึงกลายเป็น "สีแห่งชาติ"
หลังการรวมชาติในปี 1861 และการก่อตั้งราชอาณาจักรอิตาลี สีประจำราชวงศ์นี้ก็ยังคงใช้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะในด้านการทหาร กีฬา และพิธีการต่างๆ
เมื่ออิตาลีเริ่มส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันระดับนานาชาติในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 พวกเขาจึงเลือกใช้ "สีน้ำเงิน" เป็นชุดแข่งขัน เพื่อสื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวและประวัติศาสตร์ชาติ
"Gli Azzurri" – ชื่อเล่นจากสีเสื้อ
แฟนบอลทั่วโลกต่างเรียกทีมชาติอิตาลีว่า "Gli Azzurri" (กลี อัซซูร์รี) ซึ่งแปลว่า "เหล่าน้ำเงิน" หรือ "ผู้สวมชุดน้ำเงิน" ชื่อนี้กลายเป็นภาพจำที่แน่นแฟ้นพอๆกับสไตล์การเล่นของทีม
แม้ระบอบราชาธิปไตยจะสิ้นสุดลงในปี 1946 และอิตาลีกลายเป็นสาธารณรัฐ แต่ "สีน้ำเงิน" ก็ยังคงถูกใช้ต่อเนื่องในกีฬาและงานพิธีสำคัญ เพื่อเชิดชูความเป็นอิตาลีในบริบทประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ร่วม
แล้วธงชาติล่ะ?
ธงชาติอิตาลี (แถบสีเขียว ขาว แดง) มีต้นกำเนิดจากแนวคิดของการปฏิวัติและเอกราชในยุคเดียวกัน โดยได้แรงบันดาลใจบางส่วนจากธงฝรั่งเศส สื่อถึงอิสรภาพ ความเสมอภาค และความสามัคคี
ดังนั้น แม้ธงจะไม่มี "สีน้ำเงิน" แต่ในบริบทของกีฬาและพิธีการ สีน้ำเงินก็ยังเป็น "สีอิตาลี" ที่แท้จริงในใจของคนทั้งประเทศ
บทสรุป
สีน้ำเงินที่ทีมชาติอิตาลีใช้ ไม่ได้มาจากธงชาติ แต่มาจากสีประจำราชวงศ์ซาวอย ผู้มีบทบาทสำคัญในการรวมชาติอิตาลีในอดีต ถึงแม้อิตาลีจะกลายเป็นสาธารณรัฐแล้ว แต่สีน้ำเงินยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และประวัติศาสตร์ร่วมของชาวอิตาลีทุกคน