น่าเศร้าใจ! "หมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก 2020" กลายสภาพเปิดเช่าเถื่อน คนจีนแห่ทำธุรกิจมืด
เว็บไซต์ yahoo รายงานพิเศษ เมื่ออดีตหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก "HARUMI FLAG" ที่ตั้งอยู่ในย่านชูโอ กรุงโตเกียว ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่หลังจบโตเกียวโอลิมปิก 2020 และเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 ในฐานะโครงการเรือธงของเมือง ที่ตั้งเป้าให้ที่นี่เป็นย่านที่อยู่อาศัยทันสมัยใจกลางมหานคร
แต่ในเวลาเพียงไม่นาน สิ่งที่ชาวญี่ปุ่นได้พบกลับไม่ใช่ความสงบสุขแบบที่คาดไว้ หากแต่เป็นปัญหาอื้อฉาวจากเครือข่ายเศรษฐกิจใต้ดิน ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวจีนซึ่งเข้ามาดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
เศรษฐกิจเงาเริ่มปักหลักกลางโตเกียว
รายงานจาก อากาอิชิ ชินอิจิโร นักข่าวสายสืบสวนชื่อดังของญี่ปุ่น ระบุว่า บริเวณ HARUMI FLAG กำลังเผชิญกับการก่อตัวของ "เขตเศรษฐกิจจีนแบบเงา" โดยพบการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายหลายรูปแบบ ตั้งแต่บริการ "มินปากุเถื่อน" หรือการปล่อยเช่าระยะสั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต, รถตู้รับส่งผู้โดยสารแบบผิดกฎหมาย (ที่รู้จักในชื่อ "ไวแท็กซี่") ไปจนถึงร้านอาหารเถื่อนที่แฝงตัวอยู่ในคอนโดพักอาศัย
รถตู้หรูอย่าง Toyota Alphard ซึ่งใช้ทะเบียนต่างจังหวัด ปรากฏให้เห็นอยู่เป็นประจำในพื้นที่ จอดรอรับผู้โดยสารชาวจีนจากสนามบินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น ฮาโกเนะหรือชิบุยะ โดยไม่ผ่านระบบแท็กซี่หรือบริการขนส่งที่ถูกกฎหมายของญี่ปุ่น
"พวกเขาพูดภาษาจีนกันทั้งหมด คนขับใส่ชุดดำ สูบบุหรี่ริมถนน จอดรถขวางทางเดิน ชาวบ้านร้องเรียนไปแล้วหลายครั้ง แต่เรื่องก็ยังไม่จบ" ผู้อยู่อาศัยรายหนึ่งให้ข้อมูลกับสื่อ
คอนโดกลายเป็นโรงแรมเถื่อน รับชำระเป็นเงินหยวน
อีกด้านหนึ่ง ห้องพักหลายยูนิตใน HARUMI FLAG ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารขนาดย่อม บางแห่งส่งกลิ่นเครื่องเทศตลบอบอวลไปทั่วโถงทางเดิน พร้อมกล่องบรรจุวัตถุดิบและขยะจำนวนมากกองอยู่หน้าห้อง
นอกจากนี้ ยังพบหญิงสาวที่ถือกุญแจจำนวนมากเข้าออกห้องหลายยูนิต เป็นไปได้ว่าเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ทำงานเหมือนในโรงแรม มีการเรียกเก็บค่าที่พักและบริการต่างๆด้วย "เงินหยวน" ซึ่งหมายถึงรายได้เหล่านี้ไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นโดยตรง และเลี่ยงภาษีโดยสิ้นเชิง
ไม่ใช่แค่เศรษฐีจีนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่น
แม้ภาพจำของคนทั่วไปมักคิดว่าผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นต้องเป็นมหาเศรษฐี แต่ "เฉินเจิ้งอี้" (นามสมมุติ) นายหน้าชาวจีนให้ข้อมูลว่า กลุ่มลูกค้าหลักกลับเป็นคนชนชั้นกลางจากเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ที่มีรายได้ราว 20,000-40,000 หยวนต่อเดือน
"ในจีน ราคาบ้านพุ่งขึ้นมากกว่า 15 เท่าจากเมื่อสิบปีก่อน คนที่ขายทรัพย์สินในจีนได้ก็นำกำไรตรงนั้นมาซื้อคอนโดในญี่ปุ่น ซึ่งดูถูกลงกว่าเดิมมากโดยเทียบกับค่าเงินเยน" เขาอธิบาย
เขายังเสริมด้วยว่า ปัจจัยที่ลูกค้าชาวจีนให้ความสำคัญที่สุดคือ วิวทะเล, เห็นโตเกียวทาวเวอร์ และมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ ซึ่ง HARUMI FLAG สามารถตอบโจทย์ทั้งหมดได้ จึงไม่แปลกที่จะกลายเป็นเป้าหมายของทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก
ชาวบ้านเดือดร้อน เสียงดัง ระบบรักษาความปลอดภัยพัง
ชาวญี่ปุ่นที่เข้าอยู่อาศัยใน HARUMI FLAG ด้วยความหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตในชุมชนสงบปลอดภัย กลับต้องเผชิญกับความวุ่นวายจากผู้อยู่อาศัยหมุนเวียนที่ไม่เคารพกฎชุมชน
เสียงดังรบกวนตอนกลางคืน การเข้าออกแบบไม่มียามรักษาความปลอดภัย และผู้เช่าระยะสั้นที่ไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้หลายครอบครัวรู้สึกไม่ปลอดภัย และเริ่มตั้งคำถามกับความโปร่งใสของการบริหารโครงการ
สื่อญี่ปุ่นเริ่มขุดลึกว่าใครอยู่เบื้องหลัง?
รายงานฉบับเต็มจาก นิตยสาร Weekly Post ฉบับวันที่ 6-13 มิถุนายน 2025 ได้เปิดเผยการตรวจสอบเชิงลึกของหน่วยงานรัฐถึง "ยามิ มินปากุ" หรือเครือข่ายธุรกิจมืดที่ใช้คอนโดเป็นโรงแรมเถื่อน ซึ่งอาจเชื่อมโยงถึงผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์บางรายที่มีความสัมพันธ์กับทุนจีนโดยตรง
บทสรุป
HARUMI FLAG ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของการพัฒนาเมือง กลับกำลังเผชิญวิกฤตความมั่นคงในระดับชุมชน อันเป็นผลจากเศรษฐกิจเงาที่แทรกซึมเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ปัญหานี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับกฎหมายหรือผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนคำถามใหญ่ถึงนโยบายการควบคุมอสังหาริมทรัพย์ในเมืองหลวงของญี่ปุ่น ที่อาจกำลังเปิดประตูต้อนรับทุนต่างชาติ โดยแลกกับความสงบของชุมชนท้องถิ่น
