"ไทเกอร์ วูดส์" ตั้งกฎเหล็ก "2 ทายาท" ก่อนรับมรดกกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท
ไทเกอร์ วูดส์ ตำนานนักกอล์ฟชาวอเมริกัน กำหนดเงื่อนไขเข้มงวดให้ลูกๆ ทั้ง ชาร์ลี วูดส์ วัย 16 ปี และ แซม วูดส์ วัย 18 ปี หากต้องการรับมรดกส่วนแบ่งจากทรัพย์สินมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 45,500 ล้านบาท)
“พญาเสือ” ผู้คว้าแชมป์เมเจอร์ 15 รายการ และถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ไม่เพียงสะสมถ้วยรางวัลมหาศาล แต่ยังสร้างรายได้จำนวนมหาศาลจากเงินรางวัลและสัญญาสปอนเซอร์ โดยเฉพาะดีลประวัติศาสตร์กับ ไนกี้ (Nike) ที่ยาวนานถึง 27 ปี จนทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นนักกีฬามหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์คนที่สอง ต่อจาก เลบรอน เจมส์

ตามการประเมินของ ฟอร์บส์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ วูดส์ อยู่ที่ราว 1,300 ล้านดอลลาร์ และส่วนหนึ่งจะถูกส่งต่อให้กับลูกๆ แต่จะได้รับก็ต่อเมื่อปฏิบัติตาม “กฎเหล็ก” ที่พ่อกำหนดไว้ในแต่ละปีอย่างเคร่งครัด
ชาร์ลี วัย 16 ปี ที่เริ่มฉายแววนักกอล์ฟอาชีพ มีทรัพย์สินส่วนตัวแล้วราว 25 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 875 ล้านบาท) และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ทั้งจากการเข้าถึงมรดกของพ่อ และโอกาสจากสัญญาสปอนเซอร์ที่คาดว่าจะได้รับเมื่ออายุมากขึ้น
รายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ ระบุว่า ทั้ง ชาร์ลี และ แซม ต่างมีทรัสต์ส่วนตัว มูลค่าประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ (ราว 700 ล้านบาท) ขณะที่ ชาร์ลี ยังได้รับบ้านหรูในฟลอริดาและแคลิฟอร์เนียอีกสองหลัง แต่จะสามารถเข้าถึงทรัพย์สินเหล่านี้ได้ก็ต่อเมื่ออายุครบ 21 ปี

กฎเหล็กที่ วูดส์ ตั้งขึ้นมีเป้าหมายเพื่อสอนให้ลูกๆเข้าใจว่าความมั่งคั่งมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ไม่ใช่สิทธิพิเศษที่ได้มาโดยไม่ต้องพยายาม
ในฐานะลูกชายของนักกอล์ฟระดับตำนาน ชาร์ลี จึงถูกจับตามองอย่างมาก ปัจจุบันเขามีสิทธิ์ทำสัญญา Name, Image and Likeness (NIL) เพื่อสร้างรายได้จากชื่อเสียงและแบรนด์ส่วนตัว แต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ แม้เคยมีข่าวลือเมื่อปี 2023 ว่าอาจจับมือกับแบรนด์เครื่องแต่งกายกอล์ฟและไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมอย่าง เกรย์สัน โคลเธียร์ส (Greyson Clothiers) ซึ่งสุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ยืนยันข่าวดังกล่าว