เนื้อหาในหมวด กีฬา

ที่มาของคำว่า “ดาร์บีแมตช์” ศึกใหญ่ของทีมร่วมเมืองที่ไม่เกี่ยวกับ ดาร์บี เคาน์ตี

ที่มาของคำว่า “ดาร์บีแมตช์” ศึกใหญ่ของทีมร่วมเมืองที่ไม่เกี่ยวกับ ดาร์บี เคาน์ตี

หากพูดถึงเกมฟุตบอลที่แฟนบอลตั้งตารอมากที่สุด คงหนีไม่พ้น “ดาร์บีแมตช์” (Derby Match) ศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพื่อเก็บแต้ม แต่เป็นการชิงความภูมิใจระหว่างสองทีมร่วมเมือง ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตัน, แมนฯ ยูไนเต็ด พบ แมนฯ ซิตี้ หรือ อาร์เซนอล พบ สเปอร์ส ทุกคู่ล้วนเต็มไปด้วยบรรยากาศดุเดือดและความหมายที่ลึกซึ้งกว่าผลการแข่งขัน

แต่รู้หรือไม่ว่า คำว่า “ดาร์บี” ที่เราใช้กันจนติดปากนี้ จริงๆแล้วไม่ได้มีที่มาจากสโมสรฟุตบอลในอังกฤษอย่าง “ดาร์บี เคาน์ตี” อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด

afp__20200305__1pn2jx__v1__mi

หากแต่มีรากประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าศตวรรษ ทั้งจากเกมพื้นบ้านเก่าแก่ ไปจนถึงการแข่งขันม้าระดับโลก แล้วค่อยถูกนำมาใช้เรียกแมตช์ลูกหนังที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ตำนานและทฤษฎีที่มา

มีหลายเรื่องเล่าที่พยายามอธิบายต้นกำเนิดของคำว่า “ดาร์บี”

  • บ้างว่ามาจาก เมืองแอชบอร์น (Ashbourne) มณฑลดาร์บีไชร์ (Derbyshire) ซึ่งมีประเพณีเล่นฟุตบอลโบราณระหว่างชาวเมืองสองฝั่งตั้งแต่ศตวรรษที่ 12

  • อีกทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับมากกว่าคือ มาจากการแข่งขันม้า The Derby หรือ Epsom Derby ที่จัดโดยตระกูลเอิร์ลแห่งดาร์บี (Earl of Derby)

afp__20250607__49kd98g__v4__m

การแข่งขันม้า “เดอะ ดาร์บี”

ตระกูลเอิร์ลแห่งดาร์บีเริ่มจัดแข่งม้ามาตั้งแต่ปี 1627 แต่หยุดไปกว่าศตวรรษ ก่อนจะฟื้นขึ้นอีกครั้งในปี 1779 โดย เซอร์ ชาร์ลส์ บันบิวรี (Sir Charles Bunbury) เอิร์ลแห่งดาร์บีลำดับที่ 12 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเอปซัม (Epsom) แคว้นเซอร์เรย์ ทางตอนใต้ของลอนดอน

งานแข่งม้ารายการนี้ยิ่งใหญ่จนกลายเป็นเทศกาล มีทั้งการออกร้านและความบันเทิงมากมาย ถึงขั้นที่รัฐสภาอังกฤษต้องเลื่อนประชุม เพราะบรรดาผู้แทนยังหนีไปชมแข่งม้ากัน คำว่า “ดาร์บี” จึงแพร่หลายไปทั่วโลก ไม่ว่าจะในอเมริกา, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น หรือฮ่องกง

b

จากแข่งม้าสู่ฟุตบอล

ด้วยความโด่งดังของ “เดอะ ดาร์บี” ทำให้สื่ออังกฤษนำคำนี้มาใช้ในวงการฟุตบอลเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี 1914 ก่อนเกมที่ ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตัน โดยหนังสือพิมพ์ Daily Express ใช้คำว่า “ดาร์บี” เพื่อสื่อถึงศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างสองทีมจากเมืองเดียวกัน

ตัวอย่าง “ดาร์บีแมตช์”

  • ในอังกฤษ: ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตัน, แมนฯ ยูไนเต็ด พบ แมนฯ ซิตี้, แอสตัน วิลลา พบ เบอร์มิงแฮม ซิตี้

  • ในลอนดอน: การเจอกันระหว่างทีมจากเมืองเดียวกัน เช่น อาร์เซนอล พบ สเปอร์ส (North London Derby)

  • อื่นๆ: เซลติก พบ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์), เรอัล มาดริด พบ แอตเลติโก มาดริด (สเปน), เอซี มิลาน พบ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), ริเวอร์เพลต พบ โบคา จูเนียร์ส (อาร์เจนตินา)

mfile_1667414_1_l_20220919083

ทำไม “ดาร์บีแมตช์” ถึงพิเศษ

แม้จะเป็นเพียงเกมลีกธรรมดา แต่เพราะทั้งสองทีมอยู่ในเมืองเดียวกัน แฟนบอลก็เป็นคนพื้นที่เดียวกัน ความพ่ายแพ้หรือชัยชนะจึงหมายถึงศักดิ์ศรี การได้แซวคู่แข่ง และบรรยากาศการเชียร์ที่ดุเดือด ทำให้เกมดาร์บีมักเต็มไปด้วยอารมณ์ ความเข้มข้น และเป็นแมตช์ที่ผู้เล่นทุ่มเทมากกว่าปกติ โดยเฉพาะนักเตะท้องถิ่นที่เติบโตมากับการเชียร์ทีมเหล่านี้

สรุปแล้ว คำว่า “ดาร์บีแมตช์” มีรากมาจากการแข่งม้า “เดอะ ดาร์บี” ที่อังกฤษ ก่อนจะถูกนำมาใช้ในฟุตบอลเพื่อสื่อถึงศึกใหญ่ระหว่างสองทีมร่วมเมือง และกลายเป็นคำที่แฟนบอลทั่วโลกคุ้นหูมาจนถึงทุกวันนี้