เนื้อหาในหมวด กีฬา

ไขความจริง 9 ข้อ! MotoGP ไทย “ไม่คุ้ม–เอกชนไม่หนุน–คนน้อยจริงไหม?”

ไขความจริง 9 ข้อ! MotoGP ไทย “ไม่คุ้ม–เอกชนไม่หนุน–คนน้อยจริงไหม?”

การกีฬาแห่งประเทศไทยออกมาเผยข้อมูลครบทุกด้านของการแข่งขันโมโตจีพี ตั้งแต่สัญญาครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน เพื่อตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดงานและการต่อสัญญา MotoGP สนามประเทศไทย พร้อมเคลียร์ประเด็นร้อนในหัวข้อ “9 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ MotoGP สนามประเทศไทย ไม่คุ้มค่า–เอกชนไม่สนับสนุน–ไม่มีคนดู จริงหรือ?”

โดยมีการยืนยันด้วยตัวเลข มูลค่าทางเศรษฐกิจ และผลตอบแทนที่ประเทศไทยได้รับอย่างชัดเจน ดังนี้

motmo2

1.เงิน 3,997 ล้านบาท ตกไปที่ใคร และมีการใช้ทันทีทั้งหมดหรือไม่

ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ มีนโยบายที่จะทำสัญญากับ รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐบาลประเทศนั้นๆ โดยตรงเท่านั้น เพื่อให้การจัดการแข่งขันเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ ดังนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะหน่วยงานรัฐ จึงเป็นคู่สัญญาโดยตรงแต่เพียงผู้เดียวกับ ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ MotoGP ทั่วโลก

ค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมดจะถูก ทยอยขออนุมัติงบประมาณเป็นรายปี และจ่ายตรงไปที่ ดอร์น่า สปอร์ต เท่านั้น ไม่ได้ผ่านคนกลางหรือตกไปที่เอกชนรายอื่น ในทางกลับกัน ผลประโยชน์และรายได้จากการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นค่าตั๋วเข้าชมหรือเงินสนับสนุนจากภาคเอกชน ก็จะถูกนำส่ง ตรงไปที่ กกท. เช่นกัน เพื่อใช้สมทบและลดภาระงบประมาณภาครัฐอย่างเต็มที่

motmo

2. ค่าลิขสิทธิ์แพงขึ้นมาก มีการเจรจาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศหรือไม่

ข้อเท็จจริงคือ ค่าลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นทุกประเทศและค่าลิขสิทธิ์ประเทศไทยถือว่า ต่ำกว่าประเทศอื่น โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพหลักได้เจราจาต่อรองเรื่องค่าลิขสิทธิ์การแข่งขัน เพื่อให้ได้ในอัตราเท่าเดิม แต่เนื่องจากเกิดการแข่งขันในการเสนอตัวเป็นประเทศเจ้าภาพเพิ่มขึ้น ประกอบกับจากการจัดการแข่งขันที่ผ่านมา มีการแข่งขันในวันแข่งจริงเพียงวันเดียว แต่ในสัญญาใหม่ จะมีการแข่งขัน 2 วัน คือ วันที่แข่ง Sprint Race (วันเสาร์) และวันที่แข่งจริง (Race Day) (วันอาทิตย์) ส่งผลให้มีผู้ชมสนใจมากยิ่งขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการแข่งขันมากขึ้นเป็นทวีคูณ ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่การปรับเพิ่มราคาเกิดขึ้นทั่วโลก และประเทศไทยสามารถเจรจาได้ในอัตราที่ได้เปรียบกว่าประเทศอื่น จึงถือว่าการเจรจาเป็นไปเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ

motmo3

3. งบโมโตจีพีสำคัญกว่าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจริงหรือ

งบประมาณคนละส่วน รัฐมีการจัดสรรงบทางกีฬาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน การเปรียบเทียบวงเงินนี้เชื่อมโยงกันอย่างไม่ถูกต้อง ตามหลักการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินของประเทศไทย งบประมาณสำหรับกิจกรรมส่งเสริมกีฬาและการเป็นเจ้าภาพระดับโลก (เช่น MotoGP) จะถูกจัดสรรในส่วนของรายจ่ายของส่วนราชการ (การกีฬาแห่งประเทศไทย) ซึ่งมีวงเงินและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนตามยุทธศาสตร์ของประเทศ

ในขณะที่งบประมาณสำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน มักจะมาจาก 'งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น' ซึ่งเป็นงบฉุกเฉินที่รัฐบาลบริหารจัดการเพื่อบรรเทาสาธารณภัยโดยเฉพาะ

ดังนั้น งบประมาณทั้งสองส่วนจึงแยกจากกันอย่างชัดเจน และการขออนุมัติกรอบวงเงิน 4,000 ล้านบาท สำหรับสัญญาปี 2570-2574 นั้น ไม่ได้กระทบต่องบประมาณที่รัฐบาลใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในปัจจุบันแต่อย่างใด

motmo5

4.รีบเร่งต่อสัญญาเกินไปหรือไม่

ยืนยันว่า การเจรจาต่อสัญญาไม่ได้เป็นการ "เร่งรีบ" แต่เป็นการดำเนินการที่ล่าช้ากว่าช่วงเวลาที่ควรเริ่มดำเนินการด้วยซ้ำ เนื่องจากสัญญาเดิมจะสิ้นสุดลงในปี 2569 (2026) และ ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ กำหนดให้คู่สัญญาเดิมต้องแจ้งความประสงค์ต่อสัญญาล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งหมายถึงต้องแจ้งภายในปี 2568 (2025)

ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา และการที่มีหลายประเทศทั่วโลกกำลังรอเสนอตัวและยื่นข้อเสนอเพื่อเป็นเจ้าภาพแทนประเทศไทย การดำเนินการเจรจาในขณะนี้จึงถือเป็นการตัดสินใจที่ทันต่อสถานการณ์และจำเป็น เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องเสียสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันระดับโลก ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 28,000 ล้านบาท ใน 5 ปีข้างหน้า

motmo7

5. ผู้ชมน้อยลงทุกปี ความคุ้มค่าอยู่ตรงไหน

ข้อเท็จจริงคือ ยอดผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประเทศไทยเคยได้รับรางวัล Best Grand Prix of the Year ในปี 2561 ด้วยยอดผู้ชมสูงสุดในฤดูกาล 222,535 คน และเพิ่มเป็น 226,655 คน ในปี 2562 ส่วนยอดผู้ชมที่ลดลงในช่วงปี 2565 (178,463 คน) เป็นผลมาจากการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข แต่หลังจากนั้น ยอดผู้ชมก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี

สำหรับความคุ้มค่าด้านเศรษฐกิจ การจัดโมโตจีพี 8 ปีที่ผ่านมา (2561-2568) สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยสูงถึง 24,927 ล้านบาท และสัญญาใหม่ 5 ปี (2570-2574) ถูกประมาณการณ์ว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก 28,000 ล้านบาท และยังไม่มีอีเว้นต์ไหนในประเทศไทยที่ทำได้

motmo6

6. จริงหรือไม่ ? เอกชนลดการสนับสนุนลงทุกปี -รัฐแบกภาระเกินไป

ในการบริหารจัดการ การจัด MotoGP ในหลายประเทศทั่วโลก รัฐบาลเป็นผู้รับค่าลิขสิทธิ์เต็มจำนวนหรือเกือบทั้งหมด ในทางกลับกัน ประเทศไทย เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่พึ่งพางบประมาณภาครัฐในสัดส่วนที่น้อยมาก

โดยตลอดสัญญาที่ผ่านมา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประสบความสำเร็จในการระดมทุนจากภาคเอกชนรายใหญ่ ทั้งกลุ่มพลังงาน ยานยนต์ และเครื่องดื่ม เข้ามาสนับสนุนการจัดแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดภาระของรัฐบาลลงได้อย่างมาก

แม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา ทำให้เอกชนบางรายต้องลดหรือหยุดการสนับสนุนไปชั่วคราว กกท. ก็ยังคงพยายามหาเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนและรายได้จากการจำหน่ายบัตร เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายและยืนยันการเป็นเจ้าภาพต่อไป โดยในสัญญาใหม่ (2570-2574) ก็ยังคงตั้งเป้าระดมเงินสนับสนุนจากเอกชนกว่า 700 ล้านบาท เพื่อยืนยันว่าประเทศไทยมีการบริหารจัดการที่พึ่งพาเอกชนเป็นหลักมาโดยตลอด

motmo00

7.รายได้จากการแข่งขันตกไปที่เอกชนหรือไม่ -จัดที่อื่นได้ไหม ทำไมต้องที่บุรีรัมย์

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไม่ได้มีสัญญาจ้างกับบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด (เจ้าของสนามช้างฯ) ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงคือ สนามช้างฯ ได้ให้การสนับสนุน กกท. โดย อนุญาตให้ใช้สนามแข่งฟรีโดยไม่คิดค่าเช่า โดยการให้ใช้สนามฟรีนี้มีมูลค่าถึง 12 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากต้องใช้สถานที่ในการเตรียมการจัดการแข่งขันและวันแข่งจริงประมาณ 30 วัน คำนวนรวม 6 ปี ที่รัฐไม่ต้องจ่ายค่าเช่า เป็นมูลค่า 72 ล้านบาท

“จัดที่อื่นไม่ได้ เนื่องจากมีสนามแห่งนี้เพียงสนามเดียวในประเทศไทย” ที่เป็นสนามระดับ FIM GRADE A ที่มีมาตรฐานสามารถจัดการแข่งขัน MotoGP ได้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้งานกีฬาระดับโลกในการกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ รวมถึงการท่องเที่ยวต่อเนื่องไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทุกภาคในประเทศไทย

motmo8

8. เอื้อประโยชน์กับเจ้าของสนามแข่งหรือไม่

รายได้หลักจากการจัดแข่งขันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน และเงินสนับสนุนจากภาคเอกชน จะถูกนำส่งเข้าสู่การบริหารจัดการโดย กกท. โดยตรง ซึ่งรายได้เหล่านี้จะถูกนำไป หักลบกับภาระค่าลิขสิทธิ์ ที่ต้องจ่ายให้กับ ดอร์น่า สปอร์ต โดยตรง เพื่อลดภาระงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐให้เหลือน้อยที่สุด กระบวนการนี้จึงเป็นการยืนยันถึงความโปร่งใส และการบริหารจัดการที่เน้นผลประโยชน์ของรัฐเป็นสำคัญ

motmo4

9. MotoGP ถูกสนับสนุนมาทุกรัฐบาล

การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน MotoGP ได้รับการสานต่อและสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่องทุกชุด มาโดยตลอด เนื่องจากตระหนักถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ประเทศที่ได้รับ ดังนี้

สัญญาที่ 1: ปี 2561 – 2563 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (รมว. กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร) ครม. เห็นชอบสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์สมทบปีละ 100 ล้านบาท รวม 3 ปี เป็น 300 ล้านบาท

ผลการดำเนินงาน: กกท. ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและรายได้รวม 528 ล้านบาท (ใน 2 ปี) จากพันธมิตรรายใหญ่ 12 ราย/แหล่ง

ความสำเร็จ: ได้รับรางวัล Best Grand Prix of The Year ในปี 2561 และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 2 ปี (2561-2562) ได้ถึง 6,584 ล้านบาท (จัดได้เพียง 2 ปี เนื่องจากโรคระบาด Covid-19)

สัญญาที่ 2: ปี 2565 - 2569 (เลื่อนจาก 2564-2568) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (รมว. พิพัฒน์ รัชกิจประการ) ครม. เห็นชอบกรอบวงเงินเพื่อสมทบค่าลิขสิทธิ์ 900 ล้านบาท โดยเน้นให้นำรายได้จากภาคเอกชนมาสมทบก่อน

ผลการดำเนินงาน: ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนกว่า 770 ล้านบาท และจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 800 ล้านบาท

ผลตอบแทนและข้อได้เปรียบ: สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจรวม 6 ปี (2561 - 2568) กว่า 24,927 ล้านบาท อีกทั้งยัง ประหยัดค่าเช่าสนามได้ถึง 72 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญา จากการใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ฟรี

สัญญาที่ 3: ปี 2570 – 2574 (ล่าสุด)
สถานะปัจจุบัน: ครม. ให้ความเห็นชอบเพียงการเป็นเจ้าภาพเท่านั้น ส่วนงบประมาณ กกท. จะนำเสนอขอรับการจัดสรรเป็นรายปีตามภารกิจ ซึ่งประมาณการรายได้จากผู้สนับสนุนไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท (ซึ่งการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐเป็นไปตามแผนงานในปี 2570 และไม่ได้กระทบกับงบประมาณที่จำเป็นเร่งด่วนในปัจจุบัน)

ครม.ไฟเขียว! ไทยเจ้าภาพ “โมโตจีพี” ต่ออีก 5 ปี ทุ่มงบกว่า 3,900 ล้านบาท

ครม.ไฟเขียว! ไทยเจ้าภาพ “โมโตจีพี” ต่ออีก 5 ปี ทุ่มงบกว่า 3,900 ล้านบาท

ไทยต่อสัญญาเจ้าภาพ MotoGP ถึงปี 2574 เดินหน้าจัดศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่บุรีรัมย์ ทุ่มงบกว่า 3,900 ล้านบาท สานต่อความสำเร็จและดันไทยสู่เวทีโลกอีกครั้ง

ถึงแฟนชาวไทย! \

ถึงแฟนชาวไทย! "ก้อง สมเกียรติ" เคลื่อนไหวหลังหยิบแต้มประวัติศาสตร์ในศึกโมโตจีพี

"ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักขับมอเตอร์ไซค์ทางเรียบสังกัดทีม อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นคนไทยคนแรกที่เก็บแต้มแรก ในศึกโมโตจีพี ได้สำเร็จ

ประวัติ ก้อง สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยคนแรกที่ได้แข่งรายการโมโตจีพี

ประวัติ ก้อง สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยคนแรกที่ได้แข่งรายการโมโตจีพี

สมเกียรติ จันทรา มีชื่อเล่นว่า ก้อง ฉายาในวงการที่สื่อมวลชนไทยเรียก "คิงคองก้อง" เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2541

สุดยิ่งใหญ่! \

สุดยิ่งใหญ่! "มาร์เกซ" อย่างเหนือกวาดชัยสนามแรกศึกโมโตจีพี ไทยแลนด์ 2025

“โมโตจีพี” ศึกสองล้อเบอร์หนึ่งของโลก เปิดฤดูกาล 2025 ที่ประเทศไทยอย่างสนุกสุดมันส์ ตลอด 3 วันแฟนความเร็วทั้งไทย-เทศร่วมงาน 224,634 คน สร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ 5,043 ล้านบาท โดย “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลก 8 สมัยจาก ดูคาติ สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ผงาดคว้าชัยชนะไปครอง

\

"โมโตจีพี" ดวลสปรินต์สุดมัน "มาร์เกซ" นำม้วนเดียวจบ "สมเกียรติ" ประเดิมเรซแรกน่าพอใจ

มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยชาวสแปนิชจาก ดูคาติ เลอโนโว ทีม นำม้วนเดียวจบผงาดคว้าชัย "สปรินต์เรซ" เหนือคู่แข่งอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชาย