เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

“ท้องเสีย-ถ่ายเหลว” ควรใช้ยาอะไรบ้าง?

“ท้องเสีย-ถ่ายเหลว” ควรใช้ยาอะไรบ้าง?

ไม่ว่าจะฤดูไหน ในเมืองไทยก็เสี่ยงอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว หรืออาหารเป็นพิษได้ทั้งปี เพราะอากาศร้อนชื้นในบ้านเราทำให้อาหารเน่าเสียได้ง่าย อาหารบางประเภทมีเชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ภายในไม่กี่นาทีที่ทำเสร็จแล้วตั้งทิ้งไว้โดยไม่อุ่นร้อน หรือนำเข้าตู้เย็น (>> อาหารเสี่ยง “ท้องเสีย-ท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ” ช่วงหน้าร้อน) หากมีอาการท้องเสียแล้ว ควรกินยาอะไรบ้าง และควรปฏิบัติอย่างไรถึงจะถูกต้อง


ถ่ายแบบไหน ถึงเรียกว่า “ท้องเสีย”

อาการท้องเสีย คือการถ่ายเหลวเป็นน้ำ หรือมีกากใยอาหารเพียงเล็กน้อย โดยหากมีอาการถ่ายในลักษณะนี้มากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป หรือถ่ายเป็นมูกเลือด 1 ครั้งขึ้นไปภายใน 24 ชั่วโมง สันนิษฐานได้ว่ากำลังมีอาการท้องเสียเกิดขึ้น

>> “ท้องเสีย” แบบไหน ถึงต้องกินยาปฏิชีวนะ?


“ท้องเสีย-ถ่ายเหลว” ควรใช้ยาอะไรบ้าง?

ผงเกลือแร่โออาร์เอส (ORS)

สรรพคุณ : ชดเชยการสูญเสียน้ำ และเกลือแร่จากการถ่ายเหลวบ่อยๆ

วิธีใช้

  • เทผงเกลือแร่ลงในแก้ว เติมน้ำดื่มสะอาด หรือน้ำต้มสุกลงไปตามปริมาณที่ระบุเอาไว้ในฉลากผลิตภัณฑ์ (ซองยา) ดื่มจนหมด หรือค่อยๆ จิบถ้ามีอาการคลื่นไส้


ยาผงถ่าน (คาร์บอน)

สรรพคุณ : ลดอาการแน่นท้อง และทำให้อุจจาระเหลวน้อยลง (ไม่ใช่ยาหยุดถ่าย)

วิธีใช้

  • ดูวิธีกินจากฉลากของยา เพราะยาผงถ่านมีหลายชนิด แต่โดยทั่วไปจะเป็นการกินที่ครั้งละ 2 เม็ด หรือ 3-4 เม็ด ทันทีที่มีอาการ

  • กินทุกๆ 3-4 ชั่วโมง ตามความรุนแรงของอาการท้องเสีย

  • หากยังถ่ายบ่อย หรือยังถ่ายเป็นน้ำอยู่ ให้กินยาให้ถี่ขึ้น

  • ไม่ควรกินยาผงถ่านเกินวันละ 16 เม็ด

ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา : ยาคาร์บอน ไม่ใช่ “ยาหยุดถ่าย” เป็นเพียงยาที่เข้าไปช่วยดูดซับสารเคมี สารพิษ รวมถึงเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษออกมาผ่านอุจจาระ อาจช่วยลดอาการถ่ายท้องในรายที่ป่วยเป็นโรคอาหารเป็นพิษที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้

หากเป็นอาการท้องเสียที่ไม่ได้มีการติดเชื้อ (ถ่ายเหลว แต่ไม่ได้ปวดบิด อาเจียน หรือมีไข้ร่วมด้วย) ร่างกายจะค่อยๆ หยุดถ่ายไปได้เอง อาจไม่จำเป็นต้องทานยาคาร์บอน เราควรดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อชดเชยน้ำที่เสียไปจากการถ่าย เพื่อป้องกันอาการช็อกจากการขาดน้ำกะทันหันแทน (ทั้งนี้ หากถ่ายเกิน 10 ครั้งแล้วอ่อนเพลียมาก ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการถ่ายเหลวในครั้งนั้นๆ จะดีกว่า)

>> ยา “คาร์บอน” แก้ท้องเสีย กินอย่างไรให้ถูกต้อง?


ยาโลเพอราไมด์

เช่น อีโมเดียม หรือโลเพอราไมด์ จีพีโอ

สรรพคุณ : ใช้ในกรณีที่จิบน้ำเกลือแร่ และกินยาผงถ่านแล้วยังไม่ดีขึ้น

วิธีใช้

  • ห้ามกินหากถ่ายเป็นมูกเลือด

  • กิน 2 เม็ดในครั้งแรก และกินซ้ำครั้งละ 1 เม็ดทุกครั้งที่ถ่ายเหลว

  • ห้ามกินเกิน 8 เม็ดต่อวัน

หากทำทั้ง 3 วิธีนี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง

ข้อควรระวัง : ไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะรับประทานเอง ควรขอคำปรึกษาจากเภสัชกร หรือแพทย์ก่อนรับประทานทุกครั้ง โดยเฉพาะยาหยุดถ่าย และยาฆ่าเชื้อ เพราะเสี่ยงอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น ยาหยุดถ่ายอาจทำให้ร่างกายขับเชื้อโรคออกมาได้ไม่หมด (หากเป็นอาการท้องเสียจากอาการติดเชื้อ ร่างกายจะพยายามกำจัดเชื้อโรคด้วยการขัยถ่าย) หรือยาฆ่าเชื้อ หากกินเมื่อไม่ได้มีเชื้อโรคอะไร หรือรับประทานไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดอาการดื้อยาได้ เป็นต้น

>> ท้องเสีย ไม่จำเป็นต้องทานยาฆ่าเชื้อ เสี่ยงเอ็นอักเสบ-เอ็นขาดทั้งตัว

>> อาการท้องเสียแบบไหน? ต้องใช้ “ยาฆ่าเชื้อ”

>> “ท้องเสีย” ควร-ไม่ควรทานอาหารอะไรบ้าง?

>> วิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการ "ท้องร่วง-ท้องเสีย"

ยา “คาร์บอน” แก้ท้องเสีย กินอย่างไรให้ถูกต้อง?

ยา “คาร์บอน” แก้ท้องเสีย กินอย่างไรให้ถูกต้อง?

ยาคาร์บอนแก้ท้องเสีย หรือผงถ่าน Activated Charcoal ช่วยดูดซับสารพิษ พร้อมอัปเดต ยาคาร์บอน รักษาอะไร วิธีกินยาคาร์บอนอย่างถูกวิธี ปลอดภัยไหม? เช็กให้ชัวร์ก่อนใช้ยา

รู้หรือไม่? เราควร “ถ่ายหนัก” วันละกี่ครั้ง ถึงเรียกว่าสุขภาพดี

รู้หรือไม่? เราควร “ถ่ายหนัก” วันละกี่ครั้ง ถึงเรียกว่าสุขภาพดี

สารพัดอาหาร หรือยาต่างๆ นานา ถูกนำมาใช้นำมาทานกันเพื่อให้เราได้ถ่ายคล่องสบายตัวเป็นปกติ แต่คุณเคยคิดหรือเปล่าว่าใน 1 วัน เราควรถ่ายกี่ครั้ง ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่มีสุขภาพดี ระบบขับถ่ายปกติ