เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

อ่านด่วน! ลดน้ำหนักแบบนี้ ไม่พ้น “โยโย่” แน่นอน!

อ่านด่วน! ลดน้ำหนักแบบนี้ ไม่พ้น “โยโย่” แน่นอน!

สาวๆ หนุ่มๆ หลายคนถือโอกาสช่วงกินเจแบบนี้ดูแลรูปร่าง และลดน้ำหนักไปด้วยในตัว เพราะเป็นช่วงที่หากับข้าวกับปลาคลีนๆ ผักๆ ได้เยอะแยะมากมาย แต่นอกจากจะต้องเลี่ยง อาหารเจบางอย่างที่เสี่ยงต่อโรคไตวาย และความดันเลือดสูงแล้ว (คลิกอ่านที่นี่) ยังต้องออกกำลังกายอย่างถูกวิธีอีกด้วย


ในโลกออนไลน์มีการแชร์บทความและข่าวการลดน้ำหนักกันมาเรื่อยๆ ทั้งลงไป 30-40 กิโลกรัม หรืออาจจะเป็นหัวข้อว่า วิธีลดน้ำหนัก 10 กิโล ภายใน 1 เดือน เป็นต้น มีทั้งคนชื่นชม และคนออกมาคัดค้านว่า ระวัง “โยโย่”
โยโย่ เป็นยังไง อะไรคือสาเหตุของการโยโย่ Sanook! Health จะอธิบายให้ฟังง่ายๆ ค่ะ

Yoyo effect

โยโย่เอฟเฟ็กต์ หรือที่คนไทยเรียกว่า โยโย่ มันมาจากแรงเหวี่ยงของลูกดิ่ง (yoyo) ที่เมื่อยิ่งเขวี้ยงแรงไปเท่าไร ก็จะเด้งกลับมาแรงเท่านั้น ใช้เปรียบเทียบการลดน้ำหนักที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ แต่สุดท้ายน้ำหนักเด้งขึ้นกลับไปมากกว่าก่อนหน้าที่จะเริ่มลดเสียอีก ซึ่งเป็นผลมาจากการลดน้ำหนักผิดวิธีนั่นเอง

ทำไมถึงเกิดโยโย่?

ถ้าให้อธิบายง่ายๆ คือสมมติว่า

ก่อนลด - เราเคยใช้พลังงานต่อวัน 1,500 kcal เรากินวันละ 1,800 kcal (เช่น ข้าวกะเพราหมูไข่ดาว 3 มื้อรวด)แปลว่าเรากินมากเกินไป 300 kcal สะสมทุกวัน เราเลยอ้วน

ช่วงกำลังลด - ลดอาหารลงเหลือวันละ 800 kcal (เช่น ไข่ 1 ฟอง นมจืดเกาเหลา 1 ชาม เย็นผลไม้) แบบหักคอสุดๆ ร่างกายใช้พลังงานวันละ 1,500 kcal ติดลบไป -700 kcal ร่างกายเลยดึงพลังงานสะสมมาใช้ให้เพียงพอในแต่ละวัน ทำไปเรื่อยๆ น้ำหนักลงฮวบฮาบ ในเวลาอันรวดเร็ว และร่างกายเริ่มปรับตัวให้ใช้พลังงานเหลือ 800 kcal ต่อวัน

หลังลด – เมื่อได้น้ำหนักที่พอใจแล้ว เราก็เลิกลดอาหาร กลับมากินเท่าเดิม หรืออาจจะน้อยกว่าเดิมนิดนึง แต่ไม่โหดเหมือนเดิม อาจจะ 1,200 kcal แม้จะกินน้อยแล้ว แต่ร่างกายที่ผ่านช่วงเวลาอดอยากมา จะเข้าใจว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ควรรีบสะสมไขมันเอาไว้ หลังจากที่ถูกดึงไปใช้จนร่อยหลอ และร่างกายเริ่มปรับตัวให้ใช้พลังงานแค่ 800 kcal ต่อวันแล้ว ดังนั้นจากที่กิน 1,200 kcal ควรจะผอม หรือน้ำหนักเท่าเดิม กลายเป็นกินเกินไป +400 kcal อีกต่างหาก เกินหนักกว่าตอนก่อนลดอีก

ดังนั้นสุดท้ายแล้ว น้ำหนักก็เลยขึ้นมามากกว่าเดิม ระบบเผาผลาญในร่างกายรวนเพราะปรับตัวไม่ทันนั่นเอง



ลดน้ำหนักแบบนี้ “โยโย่” ถามหาแน่นอน

อดอาหาร อดมื้อกินมื้อ แบบหักดิบมากเกินไป ภายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ....วิธีนี้คุ้นๆ ไหม ก็พวกสูตร 10 กิโล 1 เดือน หรือ 5 กิโล 1 อาทิตย์นั่นแหละ เข้าข่ายพวกนี้ทั้งหมดเลย ยิ่งใครที่บวกการออกกำลังกายหนักๆ เข้าไปด้วย ยิ่งแย่ใหญ่ พลังงานที่ทานเข้าไปมันไม่พอน่ะสิ

ลดน้ำหนักอย่างไร ไม่ให้โยโย่?

1. ควบคุมอาหาร เป็นวิธีที่ถูกต้อง อาหารไขมันสูงก็เลี่ยงซะ แต่ต้องทานให้ครบทุกมื้อ ห้ามขาดมื้อใดมื้อหนึ่งเด็ดขาด

2. อย่าหักโหม ลดอาหารที่ทานมากเกินไป ควรทานให้อยู่ในราวๆ 1,000-1,200 kcal ต่อวัน หรือหากนับแคลอรี่ไม่ถนัด ก็ลดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันสูงแทนได้

3. ออกกำลังกายเบาๆ ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดี และควรออกกำลังกายเรื่อยๆ เป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ คุ้นชิน และช่วยกระชับสัดส่วน ไม่ให้ย่อนคล้อยหลังน้ำหนักลดอีกด้วย


ง่ายๆ เท่านี้ ทุกคนก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่างกายสมส่วน เพอร์เฟ็ค และไม่ต้องกลัวโยโย่กลับไปกลับมาอีกแน่นอน

ระดับสีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ฟ้า-เขียว-เหลือง-ส้ม-แดง บอกอะไรเราบ้าง?

ระดับสีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ฟ้า-เขียว-เหลือง-ส้ม-แดง บอกอะไรเราบ้าง?

ใครที่เคยใช้แอปวัดระดับ PM 2.5 ฝุ่นละอองในอากาศ ในช่วงนี้ เคยเห็นสีอะไรกันบ้าง? แล้วสีไหนเป็นอย่างไร หมายความว่าอะไร เช็กที่นี่

ใบบัวบก กับ 10 ประโยชน์ดีๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ พร้อมวิธีทำน้ำใบบัวบก

ใบบัวบก กับ 10 ประโยชน์ดีๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ พร้อมวิธีทำน้ำใบบัวบก

ใบบัวบก (Gotu Kola) สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและผิวพรรณ ช่วยลดการอักเสบ ฟื้นฟูผิว และเสริมการทำงานของสมอง พร้อมวิธีทำน้ำใบบัวบกง่าย ๆ บำรุงร่างกายและผิวพรรณอย่างครบถ้วน