แม่ก็คือแม่! มาดอนน่าร้อง เต้น เล่นกับคนดู พร้อมฉากอลังการสมการรอคอย!
อย่างเราเรียกว่าแม่ แต่เอาเข้าจริงถ้าเราเรียก Beyoncé, Rihanna หรือ Lady Gaga ว่าขุ่นแม่แล้วล่ะก็ มาดอนน่าก็ควรจะเป็น “ขุ่นยาย” ได้แล้วล่ะ เพราะอายุอานามก็ปาเข้าไปจะ 60 อยู่แล้ว แทบจะอายุมากที่สุดในฮอลคอนเสิร์ตครั้งนี้เลยก็ว่าได้ (จะว่าไปเราแอบเห็นแฟนคลับรุ่นเดอะเยอะอยู่เหมือนกันนะ เหมือนโตมากับนางตั้งแต่เด็กๆ)
แต่ด้วยพลังงานอันล้นเหลือ ท่าเต้นผุดลุกผุดนั่ง กลิ้ง หมอบ คลาน โหนเสา กระโดดโลดเต้น แถมยังมุกตลกที่ขนมาให้แฟนคลับได้ฮากันท้องแข็งตลอด 2 ชั่วโมง ทำเอาเราลืมไปเลยว่าผู้หญิงตรงหน้าอายุเท่าแม่เราจริงๆ
Madonna Rebel Heart Tour Live in Bangkok 2016 เป็นกระแสในเมืองไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนที่คอนเสิร์ตจะคอนเฟิร์มเสียอีก เพราะแฟนคลับตาไว ดันเห็นธงชาติประเทศไทย เป็นหนึ่งในฉาก encore ของทัวร์นี้ แฟนคลับในไทยเลยใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพราะเริ่มมีความหวังลึกๆ ว่าขุ่นแม่จะมาเยี่ยมเยือนเมืองไทย ด้วยโปรดักชั่นอลังการงานสร้างเหมือนประเทศอื่นๆ เขาบ้าง ซึ่งก็ต้องขอคอนเฟิร์มเลยว่า โปรดักชั่นที่ว่าอลังการในรูปที่ทุกคนจะได้เห็นต่อไปนี้ ของจริงสวยกว่า อลังการกว่า มีพลังมากกว่ามากๆ ของแบบนี้ต้องเข้าไปดูในฮอลจริงๆ ถึงจะสัมผัสได้
ถึงขุ่นแม่ Madonna จะขึ้นแสดงเลทไป 2 ชั่วโมง (คิวแสดง 20.00 น. ขุ่นแม่มา 22.00 น.) เอาดีเจ Mary Mac มาบิ้วก็แล้ว อะไรก็แล้ว ขุ่นแม่ก็ยังไม่ออกมา ถึงขั้นที่เจ้าหน้าที่ประกาศว่าการแสดงจะเริ่มอีก 20 นาที แฟนคลับครึ่งฮอลลุกไปเข้าห้องน้ำ ซื้อเบียร์เพิ่มกันหมด คนดูถึงกับเล่นเวฟกลับไปกลับมารอแล้วรอเล่า แต่งอนขุ่นแม่ได้ไม่เท่าไร พอม่านถูกดึงลง แล้วเห็นแดนเซอร์ เห็นขุ่นแม่ออกมาเท่านั้นแหละ กริ๊ดคอแทบแตก ลืมไปเลยว่าเพิ่งนั่งรอนางมา 2 ชั่วโมง เล่นมือถือจนแบตเกือบหมด มันลืมไปหมดจริงๆ นะ ขุ่นแม่อยู่ในกรงที่ลอยลงมาจากข้างบน ก่อนจะเปิดกรงแล้วออกมาแดนซ์กระจายกับแดนเซอร์สุดแซ่บ อุปกรณ์ประกอบฉาก เครื่องแต่งกาย กราฟฟิค แสง สี เสียง จัดเต็มอลังการรัชดาลัยเธียร์เตอร์มาก
ขุ่นแม่ Madonna เล่นใหญ่ตลอด โอบรัดฟัดเหวี่ยงกับแดนเซอร์หนุ่ม หมอบ คลาน กลิ้งกับพื้น โหนเสา ขึ้นสลิง เปลี่ยนชุดเป็นว่าเล่น ไหนจะท่าเต้นผุดลุกผุดนั่ง และ Twerk รัวๆ ชนิดที่หนุ่มสาวอย่างเราๆ แค่มองยังเมื่อยแทน แต่ทุกอย่างที่กล่าวไปยังไม่อะเมซซิ่งเท่ากับการร้องสดตลอดโชว์ ที่เสียงยังดี ยังใสกิ๊งเหมือนตอนสาวๆ และมุกตลกคุยกับคนดู ที่ไม่ใช่แค่ทักทายเป็นภาษาไทยสองสามคำแล้วไป แต่ตั้งใจคุยกับคนดูจริงๆ คุยนานมาก สังเกตเห็นเสื้อผ้าหน้าผม รอยสัก พูดคุยตอบโต้อยู่นาน ยังไม่รวมถึงการดึงคนดูขึ้นไปแจมบนเวที แก้ไขสถานการณ์ได้แคล่วคล่องว่องไว สมองทางทำงานดีมากจนลืมอายุของนางไปจริงๆ
ฉากแต่ละฉากก็ไม่ธรรมดา ทุกอย่างใช้อุปกรณ์ค่อนข้างใหญ่ ทั้งง้าวใหญ่ยักษ์ (ที่ขุ่นแม่เอาขาไปเกี่ยวไว้ แล้วห้อยหัวลงมา!) พัดจีนแดงสวยๆ กับธีมเอเชีย เสาแบบ Pole Dance รูปไม้กางเขน ที่ขึ้นไปรูดเสาโชว์กับแดนเซอร์ เลื้อยบนโต๊ะอาหารประหนึ่ง The Last Supper สักพักก็พาออกไปทิเบต เล่นกับไฟบนฉากไฮโดรลิกที่ยกขึ้นลงได้ เต้นในโรงรถกับเด็กซ่อมรถสุดแซ่บ ปีนบันไดสูงกลางเวที เดินมาจับมือกับแฟนเพลง พร้อมเปิดเสื้อ เอาพัดลมจ่อหน้า ทำหน้าเซ็กซี่ใส่คนดู รวมถึงโชว์สกิลเล่นดนตรีด้วยการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งอูคุเลเล่อย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าแฟนคลับฟินจนไม่รู้จะฟินยังไงเลยทีเดียว
เห็นแสดงตลอดเวลาแบบนี้ ขุ่นแม่ Madonna เอาเวลาไหนไปเปลี่ยนชุด? คำตอบคือช่วงเปลี่ยนชุดจะคั่นด้วยการแสดงของเหล่าแดนเซอร์ ซึ่งถือว่าดูเพลินมากๆ ตั้งแต่ศิลปะผ้าพลิ้วหน้าพัดลม กลิ้งตามลูกไฟบนฉากไฮโดรลิก (ที่คนรอบข้างเราชมตลอดเวลาว่าสวยมาก ถ่ายรูปออกมาก็ไม่สวยเท่าตาเห็นเอง) รูดเสา โหนเสา เด้งไปเด้งมา เสียวร่วงสุดๆ หรือแม้กระทั่งเต้นแบบ drama บนเตียง 4 เตียง ที่แดนเซอร์แต่ละคู่แบ่งแยกตามเพศกันครบ ตั้งแต่คู่ชายหญิง ชายชาย หญิงหญิง เต้นสวยงาม ฉากก็อลังการ จนไม่รู้สึกถึงรอยต่อระหว่างโชว์เลยแม้แต่นิดเดียว เปลี่ยนฉากก็เร็ว จนสายตาของเราละจากเทีตรงหน้าไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
ถ้าพูดถึง setlist ในคอนเสิร์ตนี้ก แฟนคลับก็คงพอจะทราบกันมาบ้างแล้วว่า เพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงจากอัลบั้มล่าสุด Rebel Heart ไม่ค่อยมีเพลงเก่าเอาใจแฟนคลับยุคดึกดำบรรพ์เท่าไร แต่ถึงกระนั้นเราขอยืนยันอีกเป็นรอบที่ร้อย ว่าคอนเสิร์ตของขุ่นแม่ Madonna ในครั้งนี้ ถึงคุณจะร้องเพลงของเธอไม่ได้สักแอะ คุณก็สามารถเอนจอย ดื่มด่ำกับบรรยากาศของโชว์ เหมือนกำลังดูละครเวทีบรอดเวย์อยู่ก็ไม่ปาน ถ้าเอาให้สนุกก็ดูไปเลย ไม่ต้องยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปก็ได้ (เซฟแบตมือถือเอาไว้ส่องไฟให้นาง เวลานางร้องเพลงช้า เพราะนางแซวคนดูว่า ทำไมคนตรงนั้นตรงนี้ไม่ส่องไฟ แบตหมดเรอะ? ฮ่าๆๆๆ) เห็นหลายคนเชียร์ให้ขุ่นแม่ร้อง Fever เผื่อเห็นนางใส่ชฎา แต่หลายคนก็อยากได้ยินนางร้อง Like A Prayer หรือ Take A Bow มากกว่า ซึ่งหวยก็ไปลงที่ “Take A Bow” แค่ดนตรีจีนๆ ขึ้น คนดูทั้งฮอลก็กรีดร้องไม่หยุด ร้องตามกันได้ชัดเป๊ะทุกคำ เห็นได้ชัดว่าแฟนเพลงทุกคนหน้าตาปลื้มปริ่มมากเลยทีเดียว
พูดถึงช่วง Talk ของนาง แรกๆ แค่สวัสดีค่ะก็ 2-3 รอบเข้าไปละ ไหนจะมุกชื่อเมือง แบง-ค็อก ของเราอีก (bang-c**k) ฟัคนู่นฟัคนี่ เฮลโหลวทูมายบิชเชส ตอบเยสเฉยๆ ไม่ได้ต้อง ฟัก เย่! เราเคยคิดว่า Madonna จะเป็นแบบไหน นางก็เป็นแบบที่เราเคยได้อ่านได้เห็นกันมาจริงๆ ดิบเล็กๆ เถื่อนหน่อยๆ แต่มีเสน่ห์เหลือล้น จนทุกคนละสายตาจากนางไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
นานๆ ทีเราถึงจะเห็นศิลปินหยุดพูดคุยกับคนดูเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ นางใส่ใจกับการแต่งตัวของแฟนเพลง ถามชื่อแซ่ เดินไปร้องเพลง กลับมาก็ยังจำชื่อแฟนคลับคนเดิมได้ แซวตัวเองว่าแต่งงานมา 2 รอบก็ไม่ยังไม่เวิร์ค เลยโยนช่อดอกไม้ ขอแฟนคลับแต่งงานซึ่งๆ หน้า ไหนจะแฟนคลับที่ทำวิกหลุดบนเวที นางแก้ไขสถานการณ์อย่างน่ารัก ด้วยการชวนแดนเซอร์ยืนห้อมล้อมปิดแฟนคลับเอาไว้ ให้แฟนคลับจัดวิกผมให้เรียบร้อย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรียกชื่อแฟนคลับผิดๆ ถูกๆ (แบบตั้งใจ) น้องเค้าชื่อ “โต” ขุ่นแม่ถามว่า “โท?” แล้วชี้ที่หัวแม่เท้า (Toe) แต่น้องดันสะกดชื่อตัวเองว่า “Too” นางเลยแซวว่า “Two Toes?” ฮากันลั่นฮอล แล้วก็เรียก Two Toes ไปจนจบการแสดง น้องโตก็น่ารัก ขึ้นไปแดนซ์กับนางประหนึ่งเป็นทีมแสดงเดียวกัน ดูกลมกลืน ได้กล้วยกลับบ้าน แถมยังสอนนางพูดคำว่า “ฉันรักคนไทย” อีกด้วย แฟนคลับไม่ปลื้มไม่ได้แล้วล่ะ
ปิดท้ายด้วยช่วงอังกอร์ที่ไม่ต้องรอนาน กับ “Holiday” ที่มาพร้อมชุดธงชาติอเมริกัน คลุมตัวด้วยธงชาติไทย ซึ่งเป็นกิมมิคของคอนเสิร์ตทุกประเทศ ที่จะมีธงชาติของประเทศนั้นๆ มาด้วย ทุกคนทั้งร้องทั้งเต้นตามขุ่นแม่จนเหนื่อยหอบ แต่ยังคงสนุก และยังไม่อยากให้โชว์จบ ทั้งๆ ที่พวกเราก็ทั้งร้องทั้งเต้นทั้งขำจนไม่รู้จะขำยังไงตามขุ่นแม่มาราว 2 ชั่วโมง สุดท้ายขุ่นแม่ก็โหนสลิงลอยจากพื้นสูง หายเข้าไปในฉาก พร้อม say goodbye ไปอย่างสมศักดิ์ศรี ท่ามกลางเสียงกริ๊ดเสียงเชียร์ของแฟนเพลงที่ยังคงอยากสนุกกันต่อ ถึงแม้ดูนาฬิกาจะพบว่า นี่มันก็เที่ยงคืนกว่าแล้วก็ตาม
เรียกได้ว่าสมกับการรอคอยมาตลอดชีวิตของแฟนคลับ Madonna ศิลปินระดับโลก 3 ทศวรรษ ที่ทุกลมหายใจเข้าออกของเธอยังมีแต่เสียงเพลง กับความฉลาด มีไหวพริบ และความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสรรค์โชว์ รวมถึง EQ เป็นเลิศ ที่ทำให้แฟนคลับยืนยิ้มไม่หุบตลอดการแสดง ไม่มีช่วงไหนที่น่าเบื่อเลยแม้แต่วินาทีเดียว ใครที่กำลังลังเลว่าวันนี้จะไป หรือไม่ไปดี เราว่าหากอ่านมาถึงบรรทัดนี้ก็คงตัดสินใจได้แล้วล่ะ ว่าคุณจะยอมพลาดคอนเสิร์ตที่เราว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เจ๋งที่สุดแห่งปี 2016 นี้ได้หรือเปล่า แถมไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นโอกาสเดียว และโอกาสสุดท้าย ที่คุณจะได้เห็น ได้สัมผัสกับศิลปินไอดอลของคนทั่วโลกในระยะใกล้ขนาดนี้ก็เป็นได้
เชื่อในสัญชาตญาณของคุณ เดินตามสิ่งที่หัวใจของเรียกร้องดีกว่า
“Are you a rebel heart?”
ขอบคุณภาพจาก Live Nation BEC-Tero