พระจอมขมังเวทย์ เชิดเงินทอดกฐินหนี 3 แสน ชาวบ้านสุดเศร้า
ชาวบ้านสุดเศร้า ทำบุญทอดกฐินหวังนำไปพัฒนาสำนักสงฆ์ แต่พระอ้างเป็นจอมขมังเวทย์ เชิดเงิน 3 แสน หนีลอยนวล
(23 พ.ย.) นายประเสริฐ เชยพุดซา กำนันตำบลพุดซา พร้อมด้วยชาวบ้าน ได้พากันสำรวจบริเวณวิหารลานธรรม ตั้งอยู่ในหมู่บ้านน้อย หมู่ 14 ต.พุดซา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่พักสงฆ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลกรัง มาร่วมตรวจสอบด้วย
ภายหลังจากพระเทพ ศรีสุทโธ อายุประมาณ 55 ปี ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มาจำพรรษาอยู่ในที่พักสงฆ์แห่งนี้ ได้ขนพระพุทธรูป รวมทั้งเงินที่เพิ่งทอดกฐินได้กว่า 3 แสนบาท หนีหายไปจากที่พักสงฆ์ เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่พอใจ เนื่องจากต้องการให้นำเงินที่ทอดกฐินได้ มาพัฒนาที่พักสงฆ์แห่งนี้
โดยนายยงค์ รัตนพันธ์ อายุ 77 ปี อุบาสกคนใกล้ชิดที่อยู่รับใช้พระเทพ ศรีสุทโธ กล่าวว่า ชาวบ้านน้อย หมู่ 14 ต้องการให้ที่บริเวณนี้เป็นสำนักสงฆ์สำหรับทำบุญตามประเพณี ต่อมาได้มีพระเทพ ศรีสุทโธ ซึ่งธุดงค์มาจากจังหวัดสระบุรี อ้างตัวว่ามีวิชาอาคมสามารถเรียกพญานาคได้ มาจำพรรษาอยู่เมื่อช่วง 5 - 6 เดือนที่ผ่านมา
ทำให้ชาวบ้านเกิดความศรัทธา จึงได้ร่วมกันบริจาคเงินก่อสร้างถาวรวัตถุ อาทิ ศาลา กุฏิสงฆ์ และห้องน้ำขึ้น เพื่อเป็นที่พักสงฆ์ โดยตนก็อาสาเข้ามาเป็นอุบาสก อยู่ปรนนิบัติพระเทพ ศรีสุทโธ ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างที่พักสงฆ์
ซึ่งช่วงหลังๆ มานี้ก็ปรากฏว่ามีเศรษฐีต่างถิ่นนำเงินมาบริจาคจำนวนมาก ทั้งที่มีคณะกรรมการวัด ซึ่งมีรายชื่อทั้งกำนันตำบลพุดซา ตน และชาวบ้านอีกหลายคน แต่พระเทพ ศรีสุทโธ กลับเป็นผู้บริหารจัดการเงินทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ก็ได้มีการจัดทอดกฐินขึ้น ซึ่งมีชาวบ้านทำกองกฐินมาบริจาคได้เงินกว่า 320,000 บาท โดยตนและคณะกรรมการวัดได้สอบถามจำนวนเงิน เพื่อประกาศแจ้งให้ชาวบ้านทราบ
แต่ปรากฏว่าพระเทพ ศรีสุทโธ บ่ายเบี่ยง ไม่ยอมให้ชาวบ้านทราบยอดเงินทั้งหมด พร้อมกับอ้างว่าได้ใช้จ่ายไปกับการจ้างคณะลิเก วงหมอลำ และค่าเช่าเครื่องปั่นไฟฟ้าไปหมดแล้ว ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเป็นอย่างมาก
จนกระทั่งรุ่งเช้าวันนี้ (23 พ.ย. 58) มาพบว่าพระเทพ ศรีสุทโธ ได้ให้ลูกศิษย์นำรถยนต์มาขนของภายในที่พักสงฆ์ ทั้งพระพุทธรูป และเงินกองกฐินหนีหายไปจากวัดแล้ว เหลือแต่เพียงข้าวของที่ไม่มีค่า หล่นอยู่กระจัดกระจายเต็มไปหมด จึงได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลกรัง เพื่อทำบันทึกประจำวันไว้ นายยงค์ กล่าว