เมืองเปื้อนฝุ่น PM 2.5 แบบนี้ เราจะซักผ้า ตากผ้าอย่างไรให้ไกลฝุ่นพิษ

22/01/2019 (03:03 น.)

ทุกคนรับรู้ถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 และหยิบหน้ากาก N95 รวมทั้งพยายามสวมหน้ากากป้องกันแล้วทางหนึ่ง แต่มีใครคิดถึงเรื่องเสื้อผ้าบ้างว่า เสื้อผ้าที่เราซักทำความสะอาด ตากให้แห้งนั้นก็ต้องเจอฝุ่นเหมือนกัน และเมื่อเรานำเสื้อผ้าเหล่านั้นมาใส่ ฝุ่นจะไม่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราหรือ

เพจเคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัวได้โพสต์แนะนำเกี่ยวกับการดูแลเสื้อผ้าในช่วงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไว้ โดยมีรายละเอียดที่เราควรต้องสนใจเพราะเสื้อผ้านั้นอมฝุ่นได้ดี มาดูกันว่าเราควรทำอย่างไรให้เสื้อผ้าของเราห่างไกลฝุ่น

ตอนนี้นอกจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลต่อสุขภาพของเราแล้ว สิ่งที่เป็นกังวลของหลายๆคนก็คือ เสื้อผ้าเราที่สามารถอมฝุ่นได้ดี โดยเฉพาะผ้าที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ที่ตากกันกลางแจ้งอย่างไม่สนหินสนแดดกันเลยทีเดียว เนื่องจากเส้นใยสังเคราะห์ส่วนใหญ่สามารถเกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่ายและดึงดูดฝุ่นจากบรรยากาศเข้าหาตัวได้มากทีเดียว และอาจเป็นสาเหตุทำให้เสื้อผ้าเราหมองและดูเก่าโดยใช่เหตุ รวมไปถึงอาจจะเป็นสาเหตุของการแพ้ทางผิวหนัง และการนำฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าบ้านเราได้ง่ายด้วย

ดังนั้นในช่วงนี้จึงควรละเว้นการตากเสื้อผ้า outdoor ไปก่อน หรืออาจจะใช้เครื่องอบผ้าแทน (ถ้าหากมีอยู่แล้วนะครับ) ส่วนใครที่ตากเสื้อผ้าไปแล้วเมื่อแห้งให้รีบเก็บเข้าสู่ตู้เสื้อผ้า เพื่อความปลอดภัยของเสื้อผ้าเราด้วย ถ้าไม่มีตู้เสื้อผ้าแนะนำให้คลุมด้วยถุงพลาสติกใบใหญ่ไปก่อนนะครับ

การซักเสื้อผ้าในช่วงนี้อาจจะต้องละเว้นการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มไปก่อน เนื่องจากว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นจะเพิ่มความไม่ชอบน้ำ (hydrophobic) ของผ้า และทำให้สามารถอมฝุ่นได้ดีขึ้น ถ้าต้องการกลิ่นหอมของเสื้อผ้าก็สามารถใช้เม็ดน้ำหอมที่จำหน่ายสำหรับการใส่เสื้อผ้าทดแทนได้นะครับ

หากเสื้อผ้าที่ทำการซักตากมีคราบฝุ่น หรือใส่แล้วเกิดอาการแพ้จากฝุ่นก็สามารถซักล้างออกด้วยผงซักฟอกตามปกติ (และที่แน่นอนก็ควรละเว้นการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นการชั่วคราว) จนกว่าสภาพอากาศจะดีขึ้นอีกครั้งนะครับ

ตอนนี้หากต้องการสวมใส่เสื้อผ้าที่ต้องการหลีกเลี่ยงการอมฝุ่นผงที่มีขนาดเล็กขนาดนี้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยฝ้ายเป็นหลักไปก่อน เนื่องจากว่ามีความสามารถในการดูดฝุ่นได้น้อยสุดด้วย

สรุปก็คือ

1.ผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ส่วนใหญ่สามารถเกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่าย และดึงดูดฝุ่นจากบรรยากาศเข้าหาตัวได้ด้วย

2.โดยฝุ่นนั้นอาจเป็นสาเหตุทำให้เสื้อผ้าเราหมอง และดูเก่า รวมไปถึงอาจจะเป็นสาเหตุของการแพ้ทางผิวหนัง และการนำฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าบ้านเราได้ง่ายด้วย

3.ช่วงนี้ควรเว้นตากเสื้อผ้าเอาท์ดอร์ไปก่อน หรืออาจจะใช้เครื่องอบผ้าแทน

4.หากตากเสื้อผ้าไปแล้วเมื่อแห้งให้รีบเก็บเข้าสู่ตู้ เพื่อความปลอดภัยของเสื้อผ้า ถ้าไม่มีตู้เสื้อผ้าแนะนำให้คลุมด้วยถุงพลาสติกใบใหญ่

5.การซักเสื้อผ้าในช่วงนี้อาจเว้นการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มไปก่อน เนื่องจากน้ำยาปรับผ้านุ่มจะเพิ่มความไม่ชอบน้ำของผ้า และทำให้สามารถอมฝุ่นได้ดีขึ้น ถ้าต้องการกลิ่นหอมของเสื้อผ้าสามารถใช้เม็ดน้ำหอมทดแทนได้

6.หากเสื้อผ้าที่ซักมีคราบฝุ่น หรือใส่แล้วเกิดอาการแพ้จากฝุ่นสามารถซักล้างออกด้วยผงซักฟอกตามปกติ

7.ในช่วงนี้สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยฝ้ายเป็นหลักไปก่อน เนื่องจากว่ามีความสามารถในการดูดฝุ่นได้น้อยสุด