จอยซ์ TK รักแฮปปี้คบหวานใจสาวหล่อ ไม่หวั่นคนจับตามอง
หลังจากผ่านช่วงมรสุมของชีวิตมานานหลายปี ล่าสุดพอมีโอกาสได้เจอนักร้องสาว "จอยซ์ กรภัสสรณ์ รัตนเมธานนท์" หรือ "จอยซ์ ไทรอัมพ์คิงดอม" ในงานควิกแสบซ่า...ปั่นสุดTEEN เลยได้มีโอกาสอัพเดตเรื่องราวชีวิตในปัจจุบัน เพราะงานนี้แว่วมาว่างานเพลงกำลังมี งานธุรกิจส่วนตัวก็กำลังศึกษาไปได้สวย อีกทั้งหัวใจก็มีสาวหล่อนอกวงการคอยอยู่ข้างๆ ตลอด โดยเจ้าตัวได้เผยให้ฟังว่า คบกับสาวหล่อมาได้สองปีกว่าแล้ว เริ่มจากคำว่าเพื่อนมากเรื่อยๆ ซึ่งส่วนตัวแฮปปี้และไม่กดดันถ้าถูกจับตามอง ขอใช้ชีวิตตามปกติ
ออกงานอีเว้นท์เยอะมากขึ้น?
"ก็มากขึ้นนิดนึง ตอนนี้มีเพลงใหม่ชื่อว่าตบจูบ และกำลังจะมีร้องเพลงเปิดตัวสนามวอลเล่ย์บอลทฟังแล้วจะได้คิดถึงTKมากขึ้น (ยิ้ม) จริงๆ เพลงตบจูบเริ่มต้นจากการคุยกับพี่บอย โกสิยพงษ์ และพี่บอยอยากแต่งเพลงซึ่งมันน่าจะเหมาะกับเรา พอร้องออกมาทำให้เรารู้สึกคิดถึงสมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตัวจอยซ์เองถ้ามีโอกาสก็อยากกลับมาทำงานเพลงอย่างจริงจัง และถ้ายังเต้นไหวอยู่ก็อยากกลับมางานเพลงเหมือนกันค่ะ จอยซ์เองก็คุยกับโบ สุรัตนาวี ตลอด แต่หลายๆ อย่างที่ยังไม่เกิดขึ้นเพราะด้วยทุกๆ วัน หรือกิจวัตรประจำวันเราเปลี่ยนไปแล้ว เรามีสิ่งที่ต้องทำมากขึ้น มีงานประจำที่ต้องทำ การที่จะนัดทุกอย่างให้ลงตัวต้องใช้เวลามากๆ และต้องพร้อมมากๆ ที่มาอยู่ตรงนี้"
งานคู่ติดต่อมาเยอะไหม?
"ทุกงานค่ะ ปกติไปไหนก็จะเป็นTK"
คุยกับพี่บอยบ้างหรือเปล่าว่าอยากมีงานเพลงเพิ่ม?
"จริงๆ ก็มีคุยบ้าง แต่เป็นเรื่องของอนาคต ยังพูดไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ฝากตบจูบก่อนเลย"
ยังต้องเต้นเหมือนเดิมไหม ถ้าเป็นคอนเซ็ปต์ของเพลง?
"ถ้าเต้นไหวก็โอเค แต่อาจจะเต้นน้อยกว่าเมื่อก่อน เมื่อก่อนอยากเต้นอะไรก็เต้น แต่ตอนนี้อายุเยอะแล้ส เริ่มปวดหัวเข่า (หัวเราะ) แต่ก็อยากทำ เพราะเมื่อ 20 ปีที่แล้วมันทำให้เรามีความสุข ก็เลยอยากกลับไปมีความสุขแบบนี้"
แฟนๆ เรียกร้องอยากเห็นการกลับมาของ TK ไหม?
"แฟนๆ ก็เรียกร้องตลอด อยากเห็นคอนเสิร์ตใหญ่ แต่การที่จะทำคอนเสิร์ตใหญ่จอยซ์คิดว่ามันต้องมีอะไรหลายๆ อย่างที่มาประกอบกัน"
ส่วนงานอีเว้นท์เรารับอย่างไรบ้าง?
"จริงๆ เวลามีงานเขาเชิญมา หรืออยากให้ไปร่วมงานถ้ามีโอกาส หรือไม่ติดธุระอะไรก็จะไป คือทุกวันนี้ก็ยังทำงานประจำอยู่ด้วย งานบันเทิงไม่ได้เป็นงานหลักแล้ว เพราะจอยซ์ทำงานกับทร่บ้านอยู่ตอนนี้ ทำโรงงานพาสติกค่ะ ผลิตชิ้นฟิล์ม"
ต้องปรับตัวในการทำงานเยอะไหม?
"ปรับเยอะค่ะ เพราะการที่ต้องออกมาใช้ชีวิตจริงๆในการเริ่มต้นใหม่ ทุกอย่างในการใช้ ชีวิตจอยซ์ต้องปรับตัวหมด พยายามจูนสมองให้เร็วขึ้น เพื่อที่เราจะได้ทันคนอื่น คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง อย่างงานธุรกิจจอยซ์ก็ศึกษาเยอะมาก เพราะจอยซ์ไม่เคยผ่านธุรกิจเกี่ยวกับการทำพลาสติกมาเลย เพราะฉะนั้นการที่เราจะไปทำงานตรงนี้เลยต้องใช้การศึกษาและทำความเข้าใจมาก แต่จอยซ์ไม่ได้เรียนบริหารอะไรเพิ่มเติม ก็ศึกษาภายในโรงงานและบริษัทมากกว่า"
อยากทำงานธุรกิจและบันเทิงควบคู่กันไปเลยไหม?
"จริงๆ จอยซ์ก็อายุเยอะแล้ว และการที่จะอยู่ในวงการที่บันเทิงอาจจะน้อยลง แต่การที่จอยซ์ได้มีโอกาสทำงานอยู่บ้าน หรือช่วยเขาก็เป็นสิ่งที่ดี มันน่าจะเป็นงานหลักของชีวิตเรา จริงๆ จอยซ์มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือตลอก ทั้งที่บ้าน ครอบครัว ต่างช่วยผลักดัน เพราะเราไม่ได้ชำนาญหรือเก่งอะไรเลย"
ต่อไปจะเป็นรุ่นเราบริหารเลยไหม?
"ถ้ามีโอกาสหรือทำได้ขนาดนั้น และถ้าเก่งขนาดนั้นในอนาคตอาจจะเป็นไปได้ก็ได้"
ถามถึงเรื่องหัวใจบ้าง?
"ตอนนี้ก็แฮปปี้ดีค่ะ อย่างที่ทุกคนรู้กันนะคะ ก็มีความสุขดี ตอนนี้คบกันได้ประมาณ 2 ปีกว่า กับคนนี้ก็ถือว่าโอเคกับการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน ไปไหนไปกัน ไปเป็นเพื่อน ถามว่าลงตัวไหม มันก็โอเคในระดับหนึ่ง"
เป็นเพื่อนกันมาก่อนใช่ไหม?
"ใช่ค่ะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เพิ่งมาคลิกกันตอนนี้"
อยากจะเปิดตัวเลยหรือเปล่า?
"จริงๆ จอยซ์ก็ไม่เคยปิดนะ จอยซ์คิดว่าทุกคนคงรู้ตามข่าวหรือในอินสตาแกรม สื่อต่างๆ ก็เอารูปมาลงกัน จอยซ์ไม่เคยปิดและจอยซ์โอเคกับการที่มีแฟนเป็นผู้หญิง รู้สึกว่าแฮปปี้ค่ะ"
มีกระแสตอบกลับมาว่าอย่างไรบ้างกับการที่เราเปิดตัวคบสาวหล่อ?
"ก็ดีนะ จอยซ์โอเค เราก็คิดว่าถ้าเราโอเค คนอื่นก็น่าจะโอเคด้วย"
แฟนเรากดดันไหมที่มีคนจับตามอง?
"ไม่มีค่ะ เพราะเราใช้ชีวิตกันตามปกติ จริงๆ จอยซ์ไม่ได้รู้สึกว่าถูกจับตามองเท่าไหร่ เราก็ใช้ชีวิตปกติแหละ เราไม่ได้ปิด แต่เราก็ไม่ได้เปิดมาก แต่ด้วยความที่ใครหลายๆ คนอยากรู้ หรือตามในอินสตาแกรม เลยทำให้รู้ว่าเราเป็นแฟนกันนะ"
ตอนนี้สังคมเปิดกว้างมากขึ้น เราวางแผนถึงเรื่องแต่งงานและจดทะเบียนสมรสไหม?
"ยังค่ะ อันนั้นไกลไป ยังไม่ถึงกับต้องจดทะเบียนแต่งงาน คิดว่าการที่อยู่ด้วยกันทุกวันมีความสุขดีก็พอแล้ว"
เคยคุยเรื่องอนาคตไหมว่าจะก้าวต่อไปทางไหน?
"จอยซ์ว่าทุกวันนี้แหละคืออนาคต ไม่ได้คิดไปไกลกว่าวันนี้"
ถามถึงเรื่องที่เราพูดในรายการวันวานยังหวานอยู่ ว่ากลัวคนสังคมไม่ยอมรับ เราตัดสินใจนานไหมก่อนจะไปออกรายการนี้?
"จริงๆ ก่อนไปออกรายการนี้ จอยซ์ก็มีให้สัมภาษณ์ในหนังสือหรือในสื่ออื่นๆ อีก จอยซ์คิดว่าอาจเป็นด้วยรายการที่มีคนดูเยอะ ก็เลยได้กระแสตอบรับว่าคนสนใจมากขึ้น ถ้าถามว่าคิดนานไหมก่อนจะเล่าเรื่องราวชีวิตออกมา ก็ใช้ระยะเวลาประมาณนึงเลย คือความกลัวหายไป ความมั่นใจกลับมา คือมันมีจุดนึงคิดว่าถ้าเราได้บอกเรื่องไปในสังคมแล้วมันจะช่วยเหลือใครได้บ้างก็อยากจะพูดค่ะ มันก็เลยตัดสินใจว่าเล่าก็ได้"
พอเล่าไปแล้วฟีดแบคเป็นไงบ้าง?
"จอยซ์ว่ามันโอเคนะ สำหรับตัวจอยซ์เอง จอยซ์ไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบในเรื่องไม่ดีอะไรรึเปล่า แต่สำหรับจอยซ์เอง จอยซ์คิดว่าถ้าจอยซ์ได้พูดออกไปแล้ว สิ่งที่จอยซ์พูดไปมันมีประโยชน์ จอยซ์คิดว่ามันน่าจะโอเค"
หลายคนเข้าใจเรามากขึ้นไหมหลังไปออกรายการ?
"ก็เข้าใจมากขึ้นนะ เพราะจริงๆ แล้วมันก็มีหลายมุมที่ไม่เคยเล่า บางเรื่องที่เรารู้สึกว่าเราโง่มากจริงๆ แต่คนอื่นไม่เข้าใจ พอเราพูดไปก็เออ คนที่ใช้ชีวิตประจำวันเขาอาจจะไม่รู้มุมนี้ของเรา ทำให้เขาได้เห็นว่าเฮ้ย มันมีมุมนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ"
หลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไป เราปรับตัวได้รึยัง?
"ปรับตัวได้แล้วในระดับนึง แต่ก็ยังไม่ได้เป็นคนเก่ง แต่ใช้เวลาในการจูนตัวเองระยะเวลาประมาณนึงเหมือนกัน แต่โชคดีที่มีอินเตอร์เน็ตที่สามารถทำให้เรารู้ข้อมูลหลายๆ อย่างได้ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากเก่งแล้วนะ เรารีบๆ เก่งนะ อะไรที่เราไม่รู้หรือเราถามเพื่อนบ่อยๆ แล้วเพื่อนจะรำคาญเรารึเปล่า เราก็จะไปหาข้อมูลของเราเอง"
แฟนๆ ยังให้กำลังใจเยอะเลย?
"ก็ขอบคุณมากเลยอันนี้ จอยซ์ว่ามันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้จอยซ์รู้สึกว่าจอยซ์มีพื้นที่ยืนในสังคม เพราะคำว่าแฟนๆ หรือกำลังใจจากคนอื่นก็คือคนในสังคมที่ทำให้จอยซ์รู้สึกว่าจอยซ์หายกลัว จอยซ์รู้สึกว่าคนพวกนี้คือกำลังใจสำคัญสำหรับจอยซ์มาก"
ตอนนี้กำลังใจกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์และพร้อมเดินหน้าทำงานบันเทิงแล้ว?
"ก็ได้นะคะ"
