หนุ่ม กรรชัย เปิดใจลิขสิทธิ์ เพชรตัดเพชร รอคุยช่อง7 หาทางออก!!
สืบเนื่องจากกรณีปัญหาลิขสิทธิ์บทประพันธ์ "เพชรตัดเพชร" ซึ่งมีเจ้าของลิขสิทธิ์ถึง 2 คน โดยรายแรกได้ขายลิขสิทธิ์ให้กับ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง7 และมี "ธงชัย ประสงค์สันติ" จากค่ายพอดีคำ รับหน้าที่เป็นผู้ผลิตละครเรื่องดังกล่าว ขณะที่เจ้าของลิขสิทธิ์อีกรายก็ได้นำไปขายให้กับผู้จัดฯ ไฟแรง "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" จนสุดท้ายกลายเป็นปัญหาคาราคาซังว่าสรุปแล้วความแน่ชัดในการผลิตละครเรื่องดังกล่าวควรเป็นของใครกันแน่ ?
ซึ่งล่าสุดทางด้านของ "หนุ่ม กรรชัย" ก็ได้ถือโอกาสเปิดใจถึงประเด็นลิขสิทธิ์ดังกล่าว โดยเจ้าตัวยืนยันว่าถือลิขสิทธิ์ที่ได้ซื้อมาจากทายาทของ ส.เนาวราช ไว้นานแล้ว และก็ได้ติดต่อฝากเรื่องไว้กับช่อง 7 ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสร้างละครเรื่องดังกล่าว แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ก็คงต้องปล่อยให้เป็นในส่วนของการเจรจาตกลงกันระหว่างตนและผู้ใหญ่ทางช่อง 7 ซึ่งผลสรุปจะเป็นอย่างไรนั้น ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาถึงขั้นฟ้องร้องอย่างแน่นอน...
เรื่องลิขสิทธิ์ละครเพชรตัดเพชร ?
"จริงๆ แล้วอย่างที่เคยมีข่าวออกไปว่าบทภาพยนตร์เรื่องเพชรตัดเพชร ไม่ได้เป็นชื่อภาพยนตร์ รวมถึงชื่อตัวละครที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนั้นมีคนที่ร่วมกันเขียน 2 คน คนหนึ่งคือคุณ "เศก ดุสิต" อีกคนคือคุณ "ส.เนาวราช" ซึ่งตอนนี้ตัวเราเองถือไว้คนหนึ่ง เพราะฉะนั้นในการจะทำละครเรื่องขึ้นมาต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของบทประพันธ์ทั้งสองคนก่อน"
แสดงว่าจากคนใดคนหนึ่งก็ไม่ได้ใช่ไหม ?
"ด้วยข้อกฎหมายแล้วไม่ได้ เหมือนกับรถยนตร์คันหนึ่งมีชื่อ 2 คนเป็นเจ้าของ อยู่ดีๆนาย ก. จะไปขายให้อีกคนโดยที่ไม่ถามเจ้าของร่วมมันก็คงจะไม่ได้"
แต่อีกฝ่ายหนึ่งเขาสร้างไป 80 เปอร์เซ็นต์ แล้วนะ ?
"ก็เข้าใจทางฝั่งช่อง 7 นะครับ เพราะผมเชื่อว่าช่อง 7 อาจจะไม่ทราบตรงนี้ว่ามีคนเขียนร่วมกัน เพราะทางช่อง 7 เคยสร้างมาแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะตอนนั้นทางทายาทคุณ "ส.เนาวราช" ยังไม่ได้ปรากฏ แต่ ณ ครั้งนี้ทายาทเขาปรากฏแล้ว เพราะฉะนั้นแน่นอนมันต้องมีเรื่องของกฏหมายมาเกี่ยวข้อง"
เราทราบเรื่องนี้เมื่อไหร่ ?
"ทราบตั้งแต่แรกแล้ว เพราะตัวเราเองติดต่อคุณ "เศก ดุสิต" ไป ครั้งแรกเลยทางทายาทที่เป็นลูกชาย ก็ได้มีการตกลงกันว่าจะขายให้ทางเรา ซึ่งจะมาทำให้ช่อง 8 แต่ปรากฏว่าทางเขาต้องการให้เราแนบท้ายสัญญาว่าถ้าเกิดมีทายาทของ "ส.เนาวราช"ขึ้นมาเกี่ยวข้อง เขาไม่ขอเกี่ยวข้องนะ คุณหนุ่มต้องเป็นคนรับผิดชอบเอง เราก็ได้มีการมาพูดคุยกับทางเฮียฮ้อ เฮียก็บอกว่าไม่โอเค ทำแบบนี้ไม่ถูกกฎหมาย ต้องได้รับความยินยอมทั้งสองฝ่ายแล้วถึงจะยอมเซ็น เราก็เลยกลับไปพูดคุยกับทางทายาท "เศก ดุสิต" ว่าทางเราไม่สะดวกจริงๆ ถ้าเป็นแบบนี้ ทางฝั่งเขาเลยบอกว่าเอาอย่างนี้แล้วกันให้ผมก็ไปตามหาทายาท "ส.เนาวราช" มาก่อน เจอเมื่อไหร่ค่อยกลับมาว่ากัน ซึ่งเราก็โอเคแล้วก็ไปตามหา จนกระทั่งผ่านมาเดือนหนึ่งเราก็พบว่าคุณ "ส.เนาวราช" เสียชีวิตไปแล้ว ทางทายาทเขา 6 คน บางคนก็อยู่ต่างประเทศ บางคนก็เปิดร้านขายของอาหารตามสั่ง แล้วก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมายเท่าไหร่ เราก็เลยไปขอซื้อมา พอซื้อมาแล้วก็กลับมาหาทางทายาทคุณ "เศก ดุสิต" ปรากฏเขาบอกว่าไม่ทันแล้ว ผมขายไปแล้ว เราก็อ้าว...แล้วทำไมพี่ไม่โทรบอกผมสักคำเลยละ เขาก็บอกว่างั้นผมก็ต้องโทรบอกทุกคนสิ เราก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไง ก็วางหูไป ถามว่าใครเอาไปทำผมจะไปซื้อกลับมาก็ไม่ยอมบอก"
"หลังจากนั้นไม่เกิน 3 เดือน ก็ถือสัญญาค้างอยู่ไม่รู้จะทำยังไง ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายทางช่อง 7 ก็ประกาศจะสร้างละครเรื่องนี้ ทางเราก็งงว่าทำไมช่อง 7 สร้างได้ ก็เลยมีการไปคุยกับทางฝ่ายกฏหมาย ก็จริงๆ มันทำไม่ได้ เราก็เลยพยายามติดต่อเข้าไป คือผมไม่ได้ไปคุยโดยตรง แค่ฝากไปก็เลยไม่รู้เรื่องถึงหรือเปล่า หลังจากนั้นก็เพิ่งจะมีข่าวตอนหลัง จริงๆ เราส่งไปตั้งแต่ก่อนจะสร้างด้วย ตั้งแต่ตอนฟิตติ้งใหม่ๆ"
จะถึงขั้นต้องเข้ากระบวนการทางกฏหมายเลยไหม ?
"เอ่อ...อันนี้ตอบไม่ได้ แต่ ณ ตอนนี้ผมไม่ได้มีความคิดจะฟ้องช่อง 7 ผมเชื่อว่าคนอยู่วงดารเดียวกัน บางทีมันก็ต้องมีการพูดคุยกัน ช่วยกันหาทางออกมากกว่าการจะมานั่งฟ้องกัน เพราะว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวมากนะการฟ้องร้องกันเนี่ย แต่ถ้าถึงเวลานั้น ผมก็ยังบอกไม่ได้เพราะถ้าเรื่องนี้ถูกนำมาออกอากาศจะถูกดำเนินการทางกฎหมายยังไง แต่ ณ วันนี้ผมยังไม่คิดที่จะฟ้อง"
ทางช่อง 7 ว่ายังไงบ้าง หลังจากเราติดต่อไป ?
"ทางผู้ใหญ่ก็ได้มีการให้ทางคนที่ช่อง 7 ติดต่อมาว่าขอให้ไปพูดคุยกันเพื่อช่วยกันหาทางออก แต่ด้วยเวลา เราทำงานทุกวัน บางวันเราว่างผู้ใหญ่ท่านก็ไม่ว่าง ก็เลยยังไม่มีโอกาสที่จะไปพูดคุยกัน"
เราอยากขายลิขสิทธิ์ให้เขาไปเลยไหม ?
"อันนี้คงต้องไปพูดคุยกันอีกทีว่าจะเป็นในลักษณะไหน เพราะว่าในช่วงนั้น พอเราได้มาเราก็เริ่มฟิตติ้ง เริ่มติดต่อตัวละคร ทำบท ทำทุกอย่างแล้ว เพื่อที่จะทำเรื่องนี้ สุดท้ายพอรู้ว่ามันมีสัญญา 2 คน แล้วเราถือแค่ขาเดียว เราก็รู้สึกว่าเราทำไม่ได้เดี๋ยวจะมีปัญหา ก็เลยต้องปิดเรื่องไปเลย"
ส่วนตัวเรากับ "พี่ธงชัย" ได้พูดคุยกันไหม ?
"ไม่ได้พูดคุยเลย โดนส่วนตัวแล้วก็ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของพี่ธงแล้วเหมือนกัน ก็ยังรักและเคารพพี่ธงเหมือนเดิมนะครับ แล้วก็ไม่เคยมีปัญหากับพี่ธง แล้วก็เชื่อว่าพี่ธงก็ทำตามหน้าที่ เพราะเรื่องนี้ผมได้ยินมาว่าช่อง 7 เป็นคนซื้อ แล้วมอบหมายให้กับพี่ธงเป็นผู้จัด เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็จะไม่เกี่ยวกับพี่ธง เป็นเรื่องของทางช่อง 7 ที่อาจจะต้องมีการมาร่วมกันหาทางออกกับทางผมมากกว่า ก็เข้าใจพี่ธง ไม่ได้โกรธ ไม่ได้อยากจะทำร้ายอะไรเลย เดี๋ยวพี่ธงจะเข้าใจผิด"
หวังว่าแนวทางข้างหน้าที่ตกลงกันจะเป็นยังไง ต่างคนต่างทำรึเปล่า ?
"อันนี้คงต้องขอเข้าไปคุย ต่างคนต่างทำคงเป็นไปไม่ได้ ต้องขอเข้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ทางช่อง 7 ก่อน ว่าจะร่วมกันหาทางออกยังไง"
ค่าเสียหายที่เราเริ่มเปิดเรื่องไปแล้วประมาณเท่าไหร่ ?
"ก็ประมาณหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์เอง ค่าบทที่เราทำ หรืออะไรต่างๆ นานา เดี๋ยวก็ต้องไปว่ากันอีกทีว่ายังไง"
ถ้าช่อง 7 จะซื้อ เรายินดีไหม ?
"เอ่อ... ก็คงเดี๋ยวต้องไปคุยกันอีกที ว่าจะเป็นยังไง คือตรงนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ ขอไปดูก่อนว่าทางฝั่งช่อง7 ต้องการหาทางออกยังไง และเราต้องกาีรหาทางออกยังไง เป็นการหาทางออกร่วมกันครับ"
เราเสียดายไหม ?
"เสียดายมากเลย คือเราติดต่อไปทั้งสองเจ้าแล้ว เราตั้งใจที่จะทำ แต่ว่าในเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้เราก็ไม่สามารถไปละเมิดได้ เขามีคนเขียนสองคน ถ้าเราเอามาทำโดยที่ไม่มีคู่สัญญาของอีกคน ผมว่ามันก็ไม่ได้จริงๆ อย่าดีกว่า"
เครดิตภาพประกอบจาก Instagram @kanchai