เปิดใจเจ้าของกระเป๋าสตางค์ผู้ให้ชีวิตที่ดีแก่คุณลุงผู้ซื่อสัตย์
จากกรณีคุณลุงเร่ร่อนเก็บกระเป๋าเงินคืนเจ้าของเพราะความซื่อสัตย์ทำให้เค้าได้รับผลของความทำความดี ด้วยการได้โอกาสเข้าทำงานและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีผู้ที่หยิบยื่นโอกาสให้และตอบแทนน้ำใจในความสื่อสัตย์นั่นคือ คุณอ๊อฟ นิธิภูมิ พงศ์เกรียงยศ ได้เปิดเผยกับทาง Sanook! News ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมด พร้อมอัพเดทเรื่องราวของคุณลุงผู้ซื่อสัตย์
เหตุการณ์ในวันนั้นคือ ลงไปหาอะไรกินที่ตลาดพอกำลังข้ามถนนกระเป๋าสตางค์ก็หล่นออกมาจากกระเป๋ากางเกงโดยไม่รู้ตัวเพราะมันตื้น พอกลับมาถึงห้องก็ยังไม่รู้ว่ากระเป๋าสตางค์หาย เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง มีตำรวจโทรมาหาว่ามีคนเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ให้มาที่ สน.ห้วยขวาง ซึ่งตอนนั้นก็เพิ่งรู้ว่ากระเป๋าตังค์หาย"
"พอมาถึง สน.ห้วยขวาง พบคุณลุงนั่งอยู่และตำรวจให้ตรวจสอบทรัพย์สินว่าอยู่ครบหรือไม่ พอตรวจสอบเสร็จแล้วก็ตอบแทนคุณลุงด้วยเงิน 2,000 บาท ระหว่างนั้นตำรวจบอกว่าคนที่เก็บได้เป็นคนเร่ร่อนนะ ที่ตัวมีเงินไม่ถึง 10 บาท แต่ก็เก็บกระเป๋าสตางค์มาคืน"
"ตอนนั้นนั่งคุยกับคุณลุงและได้ทราบประวัติว่า คุณลุงมากจากต่างจังหวัดและโดนทำร้าย ถูกขโมยเงิน กระเป๋าและเอกสารไปหมด ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเพราะไม่มีเอกสาร ผมก็เลยถามคุณลุงว่าอยากมีชีวิตปกติแบบคนทั่วไปไหม อยากมีที่พักและมีงานทำหรือเปล่า ผมสามารถช่วยได้นะ จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น"
จากประวัติคุณลุงเคยมีครอบครัวครับ มีภรรยาแต่เลิกรากันไปแล้วและมีลูก 1 คน คุณลุงอยากไปหาลูกมาก แต่ไม่รู้จะไปอย่างไร งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี ต้องใช้ชีวิตเร่ร่อน ผมก็เลยให้โอกาสคุณลุง"
"โอกาสที่จะให้กับลุงมีชีวิตที่ดี พอดีครอบครัวผมทำโรงงานอยู่ที่สมุทรสาครชื่อ บริษัท เอส พี เมตัลเวิอร์ค จำกัด ประกอบธุรกิจหล่อหลอมโลหะ เลยให้คุณลุงไปทำงานที่นั่นครับ"
"ที่ตัดสินใจช่วยทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คือผมได้นั่งสนทนากันอยู่ที่โรงพักประมาณครึ่งชั่วโมง ผมรู้สึกได้ว่าคุณลุงไม่มีเจตนาไม่ดีเลย คุณลุงลำบากเป็นคนเร่ร่อนไม่มีเงินติดตัว แต่พอเก็บกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินมากมายกลับเอาไปคืนเจ้าของ น้อยคนนักที่จะเจอคนแบบนี้ ผมเลยอยากจะช่วยเหลือคนดีๆ แบบคุณลุงที่ทำความดีย่อมได้รับผลตอบแทนที่ดี"
"ตอนนี้ให้คุณลุงปรับตัวและคุ้นชินกับสิ่งแวดล้อมที่ทำงานใหม่เสียก่อน โดยให้ช่วยเหลืองานเล็กๆ น้อยๆ เมื่อคุณลุงปรับตัวได้ทางบริษัทจะประเมินอีกทีว่าจะให้ทำตำแหน่งไหนที่เหมาะสมกับความสามารถของคุณลุง"
รู้สึกยังไงที่ได้ให้โอกาสและช่วยเหลือคนคนหนึ่งให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
"รู้สึกชื่นใจดีครับ ที่เห็นคุณลุงดีขึ้น หน้าตาสดใสขึ้นกว่าแต่ก่อน และดีใจที่ช่วยให้โอกาสกับคนดีๆ"
คุณลุงได้พูดว่า "ฝันไปหรือเปล่า" ได้มีการพูดกับคุณลุงอะไรบ้าง
"ผมก็บอกว่า "ลุงลองหยิกตัวเองดูสิว่าเจ็บหรือเปล่า" (หัวเราะ) ตอนนั้นผมไม่ได้คาดหวังว่าจะช่วยให้คนคนหนึ่งเปลี่ยนชีวิตได้ขนาดนี้ ผมคิดว่ามีคนต้องการงาน ผมจึงหยิบยื่นโอกาสแนะนำงานให้กับคนหางาน หาที่พักให้ ซึ่งขณะนั้นผมก็คิดว่ามันไม่ได้มากมายอะไร แต่พอเห็นความเปลี่ยนแปลง ทั้งสีหน้า แววตาและอารมณ์ของคุณลุงแล้ว รับรู้ได้เลยว่ามันมีความหมายกับคุณลุงมากจริงๆ"
อยากให้ช่วยฝากถึงสังคมกับการทำความดี
"ปัจจุบันหลายๆ คนคิดดี แต่ไม่ค่อยทำ กลัวคนมองว่าสร้างภาพ ถ้าเราแคร์เรื่องพวกนี้เราก็ไม่ได้ทำเสียที ลองเป็นผู้ให้ดูบ้างแล้วคุณจะรับรู้ได้ว่า มันสดชื่น มันหัวใจพองโตจริงๆ ครับ"
ด้าน "คุณแพตตี้" อีกหนึ่งบุคคลที่คอยช่วยเหลือดูแลคุณลุงทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือที่พัก ได้เปิดเผยเรื่องราวที่น่าประทับใจของคุณลุงที่ไม่เคยมีใครรู้กับทาง Sanook! News
"ตอนแรกแพตตี้กับอ๊อฟได้ให้ค่าตอบแทนคุณลุงเป็นเงิน 2,000 บาท ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ ได้พูดคุยกับคุณลุงทำอะไรอยู่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ จึงได้รู้ว่าไม่มีที่อยู่ไม่มีงานและไม่มีครอบครัวที่นี่ เราสองคนจึงช่วยเหลือคุณลุงโดยหางานและที่อยู่ให้"
"เรื่องหลอกลวงไม่มีความคิดเลย เพราะจากการพูดคุยคุณลุงเป็นคนดีจริงๆ เนื่องจากว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในกระเป๋ากว่า 20,000 บาท น่าจะทำให้ชีวิตคุณลุงสบายขึ้นไปได้อีกหลายวัน เพราะตอนนั้นคุณลุงมีเงินติดตัวไม่ถึง 10 บาท แต่คุณลุงเลือกที่จะไม่เอาเงินในกระเป๋ากลับนำมาคืนเจ้าของ เพราะว่ากลัวเจ้าของเดือดร้อนและคิดว่าเงินในกระเป๋าไม่ใช่ของๆ เรา จุดนี้เองที่ทำให้ซึ้งน้ำใจของลุงมาก ที่ยังมีคนคิดแบบนี้ในสังคมซึ่งหาได้ยากมาก"
"ด้วยความรู้สึกสงสารเห็นคุณลุงใส่เสื้อผ้ามานานมากยังไม่ได้เปลี่ยนและยังไม่ได้อาบน้ำ อาศัยนอนหน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทุกวัน เลยตัดสินใจพาไปซื้อเสื้อผ้าหาที่พักให้ จะได้อาบน้ำ"
"คุณลุงไม่เคยเรียกร้องอะไรเพิ่มเลย มีแต่ความเกรงใจพูดซ้ำๆ ว่า "ไม่ต้องๆครับ แค่นี้ผมพอแล้วครับ" แต่เราก็อยากช่วยเหลือ เพราะคุณลุงเป็นคนซื่อๆ จิตใจดี ไม่มีพิษมีภัย ดูจริงใจ
อยากฝากอะไรถึงสังคมบ้าง
อยากให้ทุกคนมีจิตใจดีเหมือนคุณลุง ซื่อตรงต่อคนอื่น ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เห็นแก่ตัว ทุกวันนี้คนดีๆ ค่อนข้างจะหายากในสังคมไทย จึงอยากให้คนไทยมีน้ำใจต่อกันมากขึ้น อยากให้ทำความดีกันมากๆ
หากใครที่ท้อแท้และกำลังหมดหวังต่อการทำความดี เรื่องราวคุณลุงผู้ซื่อสัตย์จะเป็นกำลังใจที่ดีให้กับคนดีๆ ได้ก้าวเดินต่อไป แม้ผลตอบแทนจะเนิ่นนาน แต่ว่าสักพักหนึ่งโลกจะหมุนเวียนให้ความดีมาเจอกับคนดีๆ เพื่อตอบแทนความดีที่ได้กระทำไป
(อ่านข่าวเกี่ยวข้อง>>>เรื่องดีๆ ลุงเร่ร่อนเก็บเงินคืนเจ้าของ ได้รับการตอบแทนพลิกชีวิต)
(อ่านข่าวเกี่ยวข้อง>>>ภาพซึ้งใจ ลุงผู้ซื่อสัตย์เก็บเงินคืนเจ้าของ ไม่ต้องเร่ร่อนแล้ว)